xs
xsm
sm
md
lg

“ป้ามาลี” หญิงไร้บ้านหัวใจงาม เลี้ยงดูเด็กที่หนีออกจากบ้าน ทั้งช่วยให้ได้เรียน ก่อนส่งคืนสู่อ้อมกอดของครอบครัวอีกครั้ง!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “ป้ามาลี” หญิงไร้บ้าน ที่แม้ไม่มีทรัพย์สมบัติใดๆ แต่หัวใจเธองดงาม เพราะเธอได้ช่วยเป็นที่พึ่งและเปลี่ยนชีวิตของเด็กชายคนหนึ่งที่หนีออกจากบ้าน ไม่ให้ต้องกลายเป็นเด็กเร่ร่อนไร้อนาคต แต่ช่วยให้เด็กได้เรียน และกลับไปอยู่บ้านอีกครั้ง



ณ ซอกตึกในซอยเพชรบุรี 10 ของกรุงเทพฯ “มาลี ทรัพย์ศาสตร์” หรือป้าลี ในวัย 54 ใช้เป็นที่อยู่อาศัยหลับนอนมานาน 30-40 ปีแล้ว หลังเจอมรสุมชีวิต ทั้งบ้านถูกไฟไหม้ และสูญเสียแม่ ทำให้เธอกลายเป็นคนไร้บ้านทันที


“เราก็นอนอยู่แถวในซอย ไม่เคยไปนอนที่ไหน เดี๋ยวนอนตรงหน้าบ้านนี้ ยายที่เป็นเพื่อนแม่บอก นอนหน้าบ้านเขาก็ได้ พอยายเสีย เราก็เลยไม่นอน กลัว ก็เลยไปนอนหน้าร้านของเจ้าของตึกที่เขาขายของ แล้วเจ้าของตึกชื่อบอย เขาบอกให้มานอนตรงนี้เลย เขาก็เลยปิดที่ ให้นอนอยู่ตรงนั้นมาตลอดมาจนถึงทุกวันนี้”


ด้าน “ชาญชัย” หรือ เฮียบอย เจ้าของร้านที่อุทิศซอกตึกให้ป้ามาลีได้มีที่หลับนอน เผยเหตุผลที่ช่วยป้ามาลี“แรกๆ แกก็มานอนอยู่ตรงข้างหน้าซอย แต่เราเห็นว่าแกเป็นคนดี และรู้จักกันมาแต่เล็ก มีที่ว่างนิดหน่อย ก็ช่วยเหลือกัน เวลากลางคืน ถ้ายุงเยอะ ก็เอาไฟให้เขาใช้ เปิดพัดลม ก็อยู่กันมาเป็น 20 ปีแล้ว”


ขณะที่ป้ามาลี ยืนยันว่า แม้ซอกตึกที่เธออยู่จะไม่มีรั้วรอบขอบชิต แต่ก็ไม่เคยถูกใครรังแกหรือคุกคาม“(ถาม-เรานอนยังไง เท่าที่ดูพื้นที่เล็กมากเลย?) ตอนแรกใช้กระดาษปู (ถาม-แล้วเราเป็นผู้หญิง มีความปลอดภัย มีเรื่องคุกคามหรือรังแกไหม?) ไม่มี มีแต่เรียก ยังไม่นอนอีกหรือ เดินทัก ส่วนมากพอ 4 ทุ่ม ก็บ้านใครบ้านมัน”


ด้าน “ป้าแป๋ว” เพื่อนในชุมชน คืออีกหนึ่งกัลยาณมิตรที่เอื้อเฟื้อห้องน้ำให้ป้ามาลีได้ใช้“(ถาม-รู้จักกับป้ามาลีนานยัง?) ตั้งแต่ไฟยังไม่ไหม้อะ ตั้งแต่เล็กๆ ไฟไหม้ พ.ศ.2520 ตอนนั้นมาลีก็ยังอยู่ ตอนนี้ไม่มีที่อยู่ ไม่ค่อยมาวุ่นวายหรอก นอกจากอาบน้ำ”


ด้วยความที่ป้ามาลีเรียนมาน้อย จบแค่ ป.4 ทำให้เธอไม่กล้าหางานทำ ทุกวันนี้สิ่งที่เธอทำประจำคือ ช่วยเก็บกวาดทำความสะอาดในซอยที่เธออาศัยอยู่ บางครั้งก็ได้สินน้ำใจจากเพื่อนบ้านที่ให้เธอช่วยส่งของหรือซื้อน้ำให้ ส่วนอาหารการกิน เธอไม่ขาดแคลน เพราะได้ข้าวจากพระที่บิณฑบาต บางครั้งคนในซอยก็ให้บ้าง


“(ถาม-พูดถึงความเป็นอยู่ อาหารการกิน หรือรายได้ เราเอามาจากไหนมาจับจ่ายใช้สอย?) เขาจ้างบ้าง ไปซื้อน้ำให้หน่อย เดินไปซื้อชาดำเย็นให้หน่อย ซื้อโอเลี้ยง ก็ให้ 20-30 เราก็ได้กิน แต่ส่วนมากคนจะให้กินมากกว่า พอเลิกงาน เขาจะเอาของกินมาให้ บางทีเอาจากที่ร้านมาให้กินบ้าง บางคนก็ซื้ออะไรให้ (ถาม-แสดงว่าคนในซอยส่วนใหญ่จะรู้จักและคุ้นเคยกับเราเป็นอย่างดี?) จ้ะ”


“บางทีเขายกของหนักๆ มา เราก็ช่วยเขาถือไปส่งตรงนั้นตรงนี้ บางทีเขาจะไปนั่งรถตรงป้ายรถเมล์ มันไกล ก็ช่วยเขาถือ เขาก็ขอบคุณ หนูก็ขอบคุณเขาเหมือนกัน เขาให้ของกิน เราก็ช่วยเขา (ถาม-แล้วเคยมีช่วงไหนที่ขาดแคลนอาหารหรือไม่มีกินไหม?) ไม่มี เพราะเช้าไปขอข้าวพระ พระให้ เจ้าของร้านเขาก็ให้ เพราะรู้จักกัน”


โชคชะตาพาให้ “ป้ามาลี” ได้พบและเป็นที่พึ่งของ “น้องปกป้อง” เด็กชายวัย 8 ขวบที่หนีออกจากบ้าน

“(ถาม-ป้ามาลีเจอน้องปกป้องได้ยังไง?) ก็ลีนอนอยู่ตรงนั้น แล้วน้องมันวิ่ง เหมือนวิ่งหนีตำรวจไล่จับ ไปนอนตามอะไร เขาเล่าให้ฟัง เขาก็เลยมาถาม ป้าครับ เห็นเพื่อนผมไหม บอก ไม่เห็นเลย เนี่ยผมวิ่งกันมาแถวนี้ ไม่รู้หายไปไหน แล้วหนูจะไปนอนไหนล่ะ มันเที่ยงคืนแล้ว ผมยังไม่รู้เลย นอนกับป้าไหมล่ะ เขาบอก นอนครับ แต่นอนกับป้าต้องเรียนหนังสือนะ”


ด้าน ด.ช.ณภัทร พงศยมัด หรือน้องปกป้อง กับวัย 14 ปีในวันนี้ เผยสาเหตุที่หนีออกจากบ้านเมื่อหลายปีก่อนว่า“ก็ติดเพื่อนด้วย ไม่อยากโดนใช้ อยากอิสระ (ถาม-บรรยากาศครอบครัวเป็นยังไง ความรัก ครอบครัว หรือพ่อแม่?) ก็ไม่ค่อยมี (ถาม-ตอนนั้นที่ไปอยู่กับเพื่อน ปกป้องอายุเท่าไหร่?) ประมาณ ป.2-3 ไปกับเพื่อน 4-5 คน ไปเรื่อยๆ นอนใต้สะพาน เวลาหิวก็ขอเขากิน (ถาม-ใช้เวลาอยู่อย่างนั้นนานไหม?) ก็นานอยู่ (ถาม-เท่ากับตอนนั้น ปกป้องไม่ได้ไปเรียนเลย?) ใช่ ก็เดินเล่นข้างถนน ไปเตะบอลอุรุพงษ์ นอนเล่นสนามมวย (ถาม-ใครเป็นคนชักชวน?) ทุกคนเลย คนหนึ่งพูดขึ้นมา อีกคนก็ไปๆๆ (ถาม-แล้วระหว่างนั้น พ่อแม่หรือย่าตามไหม?) ตาม ตามเจอ เราก็หนี”


“(ถาม-ทำไมตัดสินใจอยู่กับป้ามาลี?) ก็ไม่รู้ ก็จังหวะว่า เพื่อนหาให้ แล้วไม่มีที่นอน ผมก็เลยนอนกับป้าลี และจังหวะเขาถามพอดีว่า จะเรียนไหม แล้วเพื่อนผมก็เรียนๆ กันอยู่ ผมก็เลยอยากกลับไปเรียน ผมเลยบอกเขาเลยว่า เรียน (ถาม-แต่ตอนนั้นก็ยังไม่กลับไปอยู่บ้าน?) ใช่ อยู่กับป้าลี (ถาม-ทำไมไม่อยู่บ้าน?) ผมไม่ชอบ ตอนผมเด็กๆ ก่อนจะออกจากบ้าน ก็เห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกันบ่อย”


ขณะที่ป้ามาลี เล่าว่า“ตอนแรกน้องเขาคงจะดีใจแค่คืนเดียว เพราะลีคิดว่า เขาคงคิดว่า ลีให้นอนแค่คืนเดียว เดี๋ยวคืนต่อไป เขาคงต้องไปนอนกับเพื่อนๆ เขา แต่เขาก็อยู่ตรงนั้น ลีบอก ถ้านอนกับป้าก็นอน แต่ต้องเรียนหนังสือ เขาก็ไปเอา แอบไปเอากระเป๋าเอาสมุด ลีเลยพาไปส่งเรียนที่กิ่งเพชร”


ด้าน “สมศรี พงศยมัด” ย่าของปกป้อง ยอมรับว่า ในวันที่หลานอยู่กับป้ามาลี ย่าได้พยายามโน้มน้าวให้หลานกลับมาอยู่บ้านแล้ว แต่หลานยังไม่พร้อมที่จะมา“เขาบอก ยังไม่มาอยู่หรอกย่า เขาบอกว่า เขาอยู่กับป้ามาลี เขามีความสุขกว่า เพราะป้ามาลีให้ความสุขเขา เขาบอก ป๋ากับแม่ไม่ยอมกอดหนูเลย (ถาม-ในฐานะคนเป็นย่า รู้สึกยังไงกับการที่หลานเลือกแบบนั้น?) ย่าพูดไม่ออก แต่ก็ขอบใจป้ามาลีที่เขามีจิตใจกับเด็กพวกนี้ 2-3 คนนะ ไม่ใช่ปกป้องคนเดียว แต่เด็กพวกนั้นเขาคงไม่อยากเรียน เขาถึงไป”


ป้ามาลีรักน้องปกป้องราวกับลูกหลานคนหนึ่ง!

“เราเลี้ยงดูเด็กคนนี้ เขาเชื่อฟังเราทุกอย่าง เราก็คิดว่าเหมือนลูกเหมือนหลานคนหนึ่ง ที่เราได้ดูแลเขา (ถาม-ทำไมป้าอยากให้เขาได้เรียนหนังสือ?) สงสารอนาคตเด็ก เห็นเขาวิ่งไปวิ่งมา เราเลยนึกถึง เขาเล็กกว่าเพื่อนในกลุ่ม”

น้องปกป้องไม่เพียงเรียนหนังสือ แต่หลังเลิกเรียนยังไปซ้อมมวย กระทั่งมีรายได้จากการชกมวยอีกด้วย“(ถาม-เริ่มชกมวยตั้งแต่อายุเท่าไหร่?) 12 ทีแรกก็ไปซ้อมเล่นๆ แต่พอโค้ชบอกว่า อยากต่อยไหม ผมก็อยากต่อย ผมมีเพื่อนเป็นนักมวย แล้วเขาบอกว่า เดี๋ยวจะมีรายการให้ผมต่อยนะ เขาบอกให้ตั้งใจซ้อมนะ ผมก็ตั้งใจซ้อม เขาเห็นผมตั้งใจซ้อม เขาก็เอาผมไปต่อย (ถาม-ทุกวันนี้ยังต่อยไหม?) ไม่ (ถาม-เท่ากับก่อนหน้านี้ อยู่กับป้ามาลี ซ้อมมวยมาตลอดเลย?) ใช่ ไปเรียนหนังสือเสร็จ ก็ซ้อมมวย ตอนต่อยแรกๆ ไฟท์แรกได้ 500 ช่วงแรกๆ ก็ได้ไม่เยอะ แต่พอเริ่มมาหลังๆ พอเริ่มมีฝีมือ ได้ 2,000-3,000 (ถาม-ต่อยไปทั้งหมดกี่ไฟท์?) 40-50 ไฟท์ได้”


ป้ามาลีดีใจ น้องปกป้องแสดงออกซึ่งความรักที่มีให้ด้วยการนำเงินที่ได้จากการต่อยมวยให้ป้าด้วย“เขาไปต่อยมวยต่อยอะไร เขาก็ให้ตังค์ ตังค์ของเขา น้ำพักน้ำแรงของเขา เขาให้เรา เราก็ต้องกินกับเขา เพราะเราถือว่า ตังค์นี่เหมือนกับเขาฝากเราไว้ เขาบอก ป้า เอาตังค์ป้องไปใช้เลยนะป้า ป้าอยากกินอะไร เอาตังค์ป้องไป (ถาม-ความรู้สึกเป็นยังไงบ้าง?) ดีใจมาก ดีใจจริงๆ (ถาม-เขาเห็นคุณค่าของเรา ตอบแทนเรา แล้วเราสอนเขาว่ายังไง?) สอนทุกอย่าง 1.แต่ปกป้องไม่เคยลักขโมย แต่ต้องสอนเขาไว้ด้วย อย่าขโมย อยากกินอะไร บอกป้า อยากทำอะไร บอกป้า เป็นนักมวย ห้ามแกล้งใคร ห้ามทำร้ายใคร สอนทุกอย่าง”

ปัจจุบัน น้องปกป้องเรียน กศน. เพราะเอกสารไม่ครบ จึงไม่สามารถเรียนในระบบปกติได้“พอจบ ป.6 ปุ๊บ โรงเรียนเขาให้ใบสมัครผมมา และให้ไปสมัครอีกรอบหนึ่ง และเหมือนย่าผมเซ็นในสมัครไปว่า เซ็นชื่อแม่ผมไป เพราะย่าผมไม่รู้ แล้วเขาก็จะเอาสำเนาของแม่ผม เพราะเซ็นชื่อลงไปในใบสมัครแล้ว ว่าให้แม่เป็นผู้ปกครองด้วย หาบัตรประชาชนแม่ไม่ได้ สำเนาไม่มี ผมก็เลยไปเรียน กศน. (ถาม-รู้สึกยังไงกับการพลาดโอกาสครั้งนี้ เสียใจไหม?) ก็นิดหน่อย เพราะเพื่อนก็เรียนอยู่นี่หมด”


ป้ามาลีตัดสินใจให้น้องปกป้องกลับไปอยู่บ้านเพื่อดูแลย่าที่อยู่ในวัยชรา!

“เราบอกเขาว่า พ่อแม่ ยังไงก็เป็นพ่อแม่ เขาจะมีปัญหา ไม่เกี่ยวกับเรา เราเป็นเด็ก แต่ตอนนี้ต้องให้กลับไปดู อันดับแรกคือย่า (ถาม-ตอนนี้น้องก็เริ่มเป็นเด็กที่โตแล้ว ความรับผิดชอบในชีวิตน้องเขามีมากน้อยแค่ไหน?) ตอนนี้ส่วนมาก เราไม่ค่อยได้ดูแลเขา เพราะทุกวันเขามาเล่นมาอะไร แต่เขากลับไปนอนบ้านย่า (ถาม-ตอนนี้กลับไปอยู่กับย่าแล้ว?) จ้ะ เพราะเราให้เขากลับ”

หลังจากกลับมาอยู่บ้าน นอกจากดูแลย่านวดให้ย่าแล้ว น้องปกป้องยังช่วยทำความสะอาดบ้านและล้างจานอีกด้วย ซึ่งการกลับมาอยู่บ้านของหลาน ทำให้ผู้เป็นย่าดีใจมาก“ก็ดีใจ และยังขอบใจมาลีที่เขาช่วยเอาใจใส่กับเด็ก เขาเป็นคนดีมาก แต่บางคนดูแล้วสภาพ มาอยู่อย่างนี้ จะให้เด็กไปขายยาหรือเปล่า ให้เด็กไปเสพยาหรือเปล่า ไม่มี”


สำหรับน้องปกป้อง ยอมรับว่า ถ้าวันนั้นไม่เจอป้ามาลี ก็ไม่รู้ว่า ชีวิตจะเป็นอย่างไรบ้าง“(ถาม-ถ้าวันนั้นไม่เจอป้ามาลี ปกป้องจะเป็นยังไง คิดว่าจะได้เรียนหนังสือไหม?) ไม่ นึกไม่ออกเลย ไม่รู้จะไปทางไหน (ถาม-รู้สึกยังไงกับป้ามาลีบ้าง?) ก็รักป้ามาลี”

ส่วนความคาดหวังของป้ามาลีหลังจากนี้ แค่อยากเห็นน้องปกป้องมีความสุข เป็นคนดี และมีอนาคตที่ดี“ให้เขามีความรู้ของเขา พอเขาโตแล้ว เขาจะได้มีความคิดได้ 1.เขาได้ไม่ต้องมาลำบากเหมือนเรา 2.ให้เขารู้จักรับผิดชอบครอบครัวทางบ้านเขาบ้าง ตามที่หนูตั้งใจไว้ (ถาม-ถ้าถึงวันที่เขาเติบโตมีครอบครัวไปทำงาน เราคาดหวังอะไรจากเขาไหม?) ไม่เคย แต่ขอให้เขามีความสุขแค่นั้นก็พอ (ถาม-ถ้าเขาไม่มาหาเลย จะเสียใจไหม?) ก็คิดถึง แต่คิดว่าเขาไม่ทิ้งลีหรอก ลีรักเด็กคนนี้ รักเหมือนลูกเหมือนหลาน ชีวิตของลีต้องการให้เด็กคนนี้เป็นคนดี มีความรู้ เพื่ออนาคตของเขา เขาจะคิดยังไง เขาจะมาหาไม่มาหา ไม่เป็นไร แต่เรายังคิดถึงกันเสมอ ขอแค่นี้ ขอให้เขาเป็นคนดี”


หากท่านใดต้องการสนับสนุนทุนการศึกษาให้น้องปกป้อง โอนไปได้ที่ธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี น.ส.มาลี ทรัพย์ศาสตร์ เลขที่บัญชี 768-2-259-382

คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “อุ่นไอรักแห่งหญิงไร้บ้าน”
https://www.youtube.com/watch?v=4OI2k86Hz5I


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 11.30-12.00 น. ทาง NEWS1 (กล่อง IPTV ของ NT ช่อง 64 / กล่อง AIS Play Box ช่อง 618 / กล่อง True ID ช่อง 19)

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos


กำลังโหลดความคิดเห็น