ปิดฉากเจ้าพ่อเฮฟวี่เมทัล ออสซี่ ออสบอร์น วัย 76 ปี อดีตนักร้องนำ Black Sabbath ตำนานเพลง Paranoid เสียชีวิตอย่างสงบ 22 ก.ค. หลังขึ้นคอนเสิร์ตอำลาที่บ้านเกิดเบอร์มิงแฮมเมื่อ 5 ก.ค. สร้างตำนานร็อคดุจภูผาถล่มทลาย ฝากผลงานไว้ใน Rock n Roll Hall of Fame
วงการเพลงเฮฟวี่ เมทัล ลดธงครึ่งเสา ไว้อาลัยต่อการจากไปของราชาเพลงเฮฟวี่ เมทัล ออสซี่ ออสบอร์น เขาจากไปในวัย 76 ปี ภายหลัง แสดงคอนเสิร์ตครั้งสุดท้าย ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่5 กรกฎาคมที่ผ่านมานี้เอง ในคอนเสิร์ตชื่อ“Back to the Beginning”ที่สนามวิลลา ปาร์ค สนามเหย้าของทึมฟุตบอลแอสตัน วิลลา โดยเป็นการรวมตัวอีกครั้งของสมาชิกวง Black Sabbath ดั้งเดิมอย่าง โทนี่ ไอโอมมี, กีเซอร์ บัตเลอร์ และ บิล วอร์ด
เหลือไว้แต่ตำนานให้เล่าขาน สืบไป ในฐานะ ผู้บุกเบิกดนตรีแนวเฮฟวี่เมทัล ในนามของวง Black Sabbath ซึ่งออกมาเขย่าโลกดนตรี ในช่วงทศวรรษ 70 ซึ่งได้สมญานามจากดีเจจิ๊กโก๋ชื่อดังในยุค80 ว่า Black Sabbath ผู้หนักแน่นดุจภูผาถล่มทลาย
ว่ากันว่า นักดนตรีไทย เมื่อหัดเล่นเพลงฮาร์ดร็อค ก็จะต้องผ่านเพลง Paranoid ของ Black Sabbath กันแทบทุกคน ในฐานะเพลงครู ของชาวฮาร์ดร็อค
ออสซี่ ออสบอร์น เกิดที่เมืองเบอร์มิงแฮม เมืองอุตสาหกรรมเหล็ก และโตมาแบบเด็กเหลือขอ เลี้ยงยาก และความยากจนผลักดันให้เขาเป็นหัวขโมย เป็นกุ้ยข้างถนน ต้องเวียนเข้าเวียนออกเรือนจำ ด้วยคดีโจรลักเล็กขโมยน้อย เริ่มเป็นผู้เป็นคนเมื่อ เพื่อนๆ ในเมืองเบอร์มิงแฮมที่มีฝีมือทางดนตรีชักชวนเขา มาเป็นนักร้อง
ครั้งหนึ่งขณะกำลังจะขึ้นแสดง ในมหกรรมดนตรี วงของเขาพบว่า มีวงดนตรีชื่อซ้ำกัน จึงมีการตั้งชื่อแทนแบบเร่งด่วน ออกมาเป็นชื่อ Black Sabbath พอเริ่มทำอัลบั้มเพลง วงของเขา ก็จะเขียนเพลงให้ออกเป็นแนว พ่อมด มนต์ดำ ให้เข้ากับชื่อวง ซึ่งปรากฏว่ามันเวิร์กมันปัง วง Black Sabbath โกยทั้งเงินทั้งชื่อเสียง ไม่หวาดไหว แต่มันก็เกิดผลข้างเคียงร้ายแรง กับตัวของออสซี่ ออสบอร์น
มนุษย์ร็อคที่มีความเกเรตั้งแต่กำเนิดอย่างเขา เพลิดเพลินกับความสำเร็จ จนเลยเถิด เอาแต่สำมะเลเทเมา ไร้วินัยในการใช้ชีวิต จนเพื่อนร่วมวง สุดจะทนอีกต่อไป ตะเพิดเขาออกจากวง แม้ว่า ออสซี่ ออสบอร์น จะถือเป็นสัญลักษณ์ของวงก็ตาม แต่เพื่อนๆ ก็จำต้องแตกหักกับเขา
เรื่องนี้คล้ายเป็นกงล้อประวัติศาสตร์ ของวงการเพลงร็อค เพราะวงร็อคไทยชื่อดังบางวง ก็ย่ำซ้ำรอยเดียวกันนี้ ไม่มีผิดเพี้ยน พอถูกเพื่อนลอยแพออกจากวง ออสซี่ ก็เอาแต่ หมกตัวเองในห้องมืด จมอยู่กับ ยาเสพติด จนเกือบจะหมดอนาคตอยู่รอมร่อ แต่เขากลับมาได้เพราะสาวใจงามที่ชื่อ ชารอน ซึ่งก็คือ ลูกสาวเจ้าของ ค่ายเพลงที่เขาสังกัดอยู่นั่นเอง ชารอนโผล่มาลากเขาออกจากการจมปลัก ก่อนทั้งคู่จะแต่งงานใช้ชีวิตกัน จวบจนวาระสุดท้ายของ ออสซี่
การกลับมาในฐานะศิลปินเดี่ยว ออสซี่ ออสบอร์นก็ประสบความสำเร็จอย่างสูง ไม่แพ้สมัยเขาเป็นนักร้องของ Black Sabbath ตอกย้ำความเป็นทองแท้ อยู่ที่ไหนก็เป็นทอง ชีวิตของเขา กับเพื่อนๆ ร่วมวงที่เคยร้าวฉานกันอย่างหนัก ก็กลับมาจบสวย แฮปปี้เอ็นดิ้ง เมื่อต่างลืมความบาดหมาง กลับมาขึ้นเวทีแสดงดนตรีด้วยกันได้ และเดินเข้าสู่หอเกียรติยศ Rock n Roll Hall of Fame ด้วยกัน
บั้นปลายชีวิตของพ่อมดออสซี่ ต้องเจ็บปวดทรมานที่กระดูกสันหลัง จากอุบัติเหตุทางรถ พร้อมด้วยโรคพาร์กินสัน ที่รุมเร้า แต่เขาก็ กัดฟันขึ้นเวทีคอนเสิร์ตสั่งลา ที่สนามฟุตบอล วิลล่า พาร์ค เมืองเบอร์มิงแฮม จนผ่านพ้นมาได้ ที่มีนักดนตรีและนักร้องชาวหูเหล็กมาคารวะกันอย่างยิ่งใหญ่
หลังจากนั้นไม่กี่วัน เขาก็จากไปอย่างสงบ ในวันที่22 กรกฎาคม ท่ามกลางความอาลัยรักของชาวร็อคหูเหล็กทั่วโลก เป็นการปิดตำนาน เจ้าพ่อเพลงเฮฟวี่ เมทัล ที่สมบรูณ์แบบและงดงาม ราวกับเพลงดังของเขา Goodbye To Romance