1 ส.ค.นี้ ศาล รธน.ชี้ชะตา "พิเชษฐ์" คดี 144 ปมผันงบสภาฯ ลงพื้นที่ หากผิดจริง อาจหลุดเก้าอี้รองประธานสภาฯ เพื่อไทยเร่งโหวตรองประธานฯ คนที่ 2 หวั่นสภาฯล่ม หากพิเชษฐ์หลุด!
เก้าอี้”รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่2”หรือที่เรียกกัน ”รองฯ2”ซึ่งว่างมาเป็นเดือนนับแต่ ภราดร ปริศนานันทกุล ลาออกจากรองประธานสภาฯ เมื่อ 18มิ.ย.หลังภูมิใจไทยถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล สัปดาห์นี้ ข่าวว่า เพื่อไทย วางเป้าต้องจบหลังยืดเยื้อมานาน
ล่าสุด วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล จากเพื่อไทย ออกมายืนกรานว่า เก้าอี้นี้เป็นของเพื่อไทย และเป็นโควตาของส.ส.ภาคอีสาน เพราะเป็นภาคซึ่งมีส.ส.เยอะที่สุดในพรรค หากไม่ได้คงอยู่ด้วยกันยาก ที่ก็หมายถึงพวกส.ส.อีสานคงไม่ยอม โวยวายลั่นพรรคแน่ จึงต้องการให้จบภายในการประชุมส.ส.เพื่อไทยอังคารนี้ 22 ก.ค. จากนั้น จะให้ลงมติโหวตเห็นชอบในที่ประชุมสภาฯ วันพฤหัสบดีนี้ 24 ก.ค.
สาเหตุที่ต้องรีบเคลียร์ให้จบ นอกเหนือจากเพราะค้างคามานานเป็นเดือนแล้ว ตอนนี้มี สถานการณ์แทรกซ้อน เพราะว่า เก้าอี้ “รองฯ1”ที่ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย เพื่อไทยนั่งอยู่ ไม่แน่ 1 ส.ค.นี้ อาจจะหลุดจากตำแหน่ง ?
เพราะศุกร์ที่ 1 ส.ค.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติและอ่านวินิจฉัยคำร้องกรณี ส.ส.พรรคประชาชน 121คนเข้าชื่อกันยื่นคำร้องให้ศาลรธน.วินิจฉัย โดยตั้งข้อหาว่า นายพิเชษฐ์ ส่อทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 144เพราะวางค่ายกล ผันงบของสภาฯฯ ที่ตัวเองเป็นรองฯ1เอาไปลงพื้นที่เลือกตั้งของตัวเองที่เชียงราย รวมเป็นเงินร้อยกว่าล้านบาท โดยมีการกระทำต่อเนื่องมาตั้งแต่งบสภาฯ ปี 2568 แล้วก็มาตั้งเรื่องทำโครงการต่อในงบ 2569 ที่สภาฯกำลังพิจารณาอยู่
แต่พอดีงบปี 2569 ฝ่ายค้านดันตาดี เอกซเรย์โดยละเอียด เลยจับโป๊ะเจอ พบว่ามีการตั้งงบของสภาฯ ใน 3 โครงการ แบบตอนปี 2568 เอาไปลงพื้นที่เชียงรายแบบผิดสังเกตุ ได้ไปสองปีซ้อน ด้วยโครงการคล้ายๆกัน โดยเฉพาะงบสัมมนา-งบจัดเวทีการมีส่วนร่วมของประชาชน แถมลงพื้นที่เขตเลือกตั้งของนายพิเชษฐ์มากผิดสังเกตุ ฝ่ายค้านนำโดยพรรคประชาชน เลยยื่นเอาผิดต่อศาลรธน.
โดยศาลรธน.รับไว้วินิจฉัยเมื่อ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา และสั่งให้ พิเชษฐ์ ส่งเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายในวันนี้ 21 ก.ค.รวมถึงจะ”เปิดห้องไต่สวน”ด้วยการเรียก พิเชษฐ์และผู้ร้อง มาให้ถ้อยคำ ให้ตุลาการศาลรธน.ซักถามกันแบบซึ่งๆหน้า วันพฤหัสบดีนี้ 24 ก.ค.จากนั้นก็นัดตัดสินลงมติ ศุกร์ที่ 1 ส.ค.นี้ทันที
ส่วนสาเหตุว่าทำไม รับเรื่อง 17 ก.ค. แล้วตัดสินเลย 1 ส.ค. สาเหตุก็เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 144บัญญัติว่า หลังศาลรธน.รับคำร้องต้องตัดสินให้จบภายในไม่เกิน 15 วันเพราะมาตรา 144 เป็นเรื่องเกี่ยวกับการควบคุมการใช้”งบประมาณแผ่นดิน”ไม่ให้นักการเมืองเข้าไปเล่นแร่แปรธาตุ เช่นเอางบลงพื้นที่ตัวเอง หากการพิจารณาคดีล่าช้า มันจะไม่ทันการ จึงเขียนล็อกให้ศาลรธน.ใช้เวลาพิจารณาเร็วเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะตามมา
ผลการตัดสินของศาลรธน.วันที่ 1 ส.ค.ต้องบอกว่า หลายคนเสียวแทน รองพิเชษฐ์ เพราะหากไม่รอด นอกจากต้องหลุดจากส.ส.-กระเด็นจากเก้าอี้รองประธานสภาฯ แล้ว เสี่ยงจะโดนเพิกถอนสิทธิการลงสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิตก็ได้ เพราะบทลงโทษ หากทำผิด144 รุนแรงมาก
กระนั้น พิเชษฐ์ ก็มีช่องทางสู้คดีได้เช่นกัน เช่น การยกข้อต่อสู้ว่า เงินในโครงการตามที่ฝ่ายค้านร้องไป ยังไม่ได้ใช้”สักกะบาทเดียว”เพราะงบปี 2569 ยังอยู่ในการพิจารณาของสภาฯวาระสอง ชั้นกมธ.ฯ ยังไม่ออกเป็นกฎหมาย การเบิกจ่ายเงินสักบาทยังไม่เกิดขึ้น แล้วจะผิดได้อย่างไร
รวมถึงอาจอ้างต่อศาลรธน.ได้ว่า ล่าสุดในการประชุมกมธ.งบฯ 69 เมื่อศุกร์ที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ที่ก็คงรับคำสั่งมาจาก พิเชษฐ์ ได้ชิงเสนอต่อกมธ.ฯงบ ให้ตัดงบ178 ล้านบาท ที่มีปัญหาโดนร้องไปที่ศาลรธน.หมด โดยกมธ.ฯงบก็มีมติเห็นชอบด้วย
ทำให้ พิเชษฐ์ ย่อมอ้างกับศาลรธน.ได้ว่า ยังไม่มีการเบิกจ่ายเงินแม้แต่บาทเดียว-งบทั้งหมด ตนไม่เกี่ยวข้อง ข้าราชการสภาฯ เป็นคนทำโครงการขึ้นมาเอง ไม่ได้ไปสั่งการให้ทำ อีกทั้งมีการยกเลิกไปแล้ว จึงไม่มีเหตุให้เอาผิดได้
แต่มีบางฝ่ายแย้งว่า เคสนี้ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว เพราะหากไม่โดนร้องศาลรธน.จนเรื่องแดง สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ก็คงไม่รีบชิงขอถอนงบออกไป
ผลคำวินิจฉัยของศาลรธน.ในคดีนายพิเชษฐ์ จึงน่าสนใจยิ่ง เพราะจะเป็นบรรทัดฐานต่อไป หากมีการร้องเอาผิด มาตรา 144 ต่อไปในอนาคต
ท่ามกลางข่าวว่า หลายคนในเพื่อไทยต่างเสียวแทนพิเชษฐ์กันพอสมควรว่า 1 ส.ค. อาจต้องโบกมือลาสภาฯ จนเก้าอี้รองปธ.สภาฯคนที่ 1 ว่างลง
ต้องบอกว่า คดีของพิเชษฐ์ มันคืออีกหนึ่งตัวเร่ง ที่ทำให้ เพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล ต้องเร่งโหวต รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ให้จบ เพราะถ้าชักช้า เกิดสัปดาห์หน้า 1 ส.ค. หาก พิเชษฐ์ ไม่รอด เท่ากับเหลือ วันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ คนเดียว ทำหน้าที่คุมประชุมสภาฯ มันจะไม่ไหว ต้องเห็นใจแกด้วย จึงต้องรีบเคลียร์เก้าอี้ รองฯ 2 ให้จบ
