xs
xsm
sm
md
lg

“น้องออมสิน” ลูกกตัญญู ใช้พรสวรรค์ด้านร้องเพลง เปิดหมวกหารายได้ช่วยครอบครัว ฝันอยากเป็นนักร้องอาชีพ!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม 2568 พาคุณผู้ชมไปที่ จ.ราชบุรี เพื่อรู้จัก “น้องออมสิน” ลูกกตัญญู ผู้ใช้พรสวรรค์ด้านการร้องเพลง เปิดหมวกหารายได้ช่วยครอบครัว โดยมีความฝัน อยากเป็นนักร้องอาชีพ-อยากมีเงินสร้างบ้านให้พ่อแม่



น้องออมสิน ปนัดดา แสงเลิศ แม้วันนี้จะอยู่ในวัย 14 แต่น้องหลงใหลเสียงเพลงและชอบร้องเพลงตั้งแต่เล็กแล้ว“ตั้งแต่หนูอายุ 8 ขวบ ตอนแรกหนูชอบร้องเพลง แต่ยังไม่มีคนฝึกให้ หนูก็ถามแม่ ตรงนี้ร้องแบบไหน แม่ก็สอนให้ แล้วพอตอน ป.4 หนูก็เริ่มอยากขึ้นเวทีร้องเพลง”


การเห็นพ่อแม่ต้องทำงานเหนื่อย ทำให้น้องออมสิน ที่แม้จะยังเด็ก เลือกที่จะช่วยพ่อแม่หารายได้ด้วยการร้องเพลงเปิดหมวก

“เปิดหมวกตอนจริงจังเลยประมาณ 11 ขวบ (ถาม-เกิดอะไรขึ้น หนูถึงคิดจะเอาความสามารถเราไปแลกกับเงิน?) ตอนแรกหนูเห็นพี่ๆ ในตลาดนัดร้องเพลงเปิดหมวกกัน แล้วหนูก็เห็นพ่อแม่เหนื่อยด้วย หนูก็เลย แม่ หนูอยากเปิดหมวกช่วย”


ฝันของแม่...สู่ฝันของลูก!

ลดาวัลย์ เกียรตินาม แม่ของน้องออมสิน ยอมรับว่า เธอฝันอยากเป็นนักร้อง แต่เมื่อไม่สามารถเดินถึงฝันได้ จึงอยากสนับสนุนลูกอย่างน้องออมสินให้ถึงฝันนั้นแทนแม่


“เมื่อก่อนแม่ก็เดินสายประกวด เมื่อยังไม่มีน้อง พอมีลูก ก็อยากให้ลูก ได้ปลูกฝังให้ลูก สนับสนุนลูก (ถาม-ทักษะการร้องเพลงของน้องเริ่มฉายแววตั้งแต่ 8 ขวบเลยไหม?) ตอนนั้นก็ยังนะ ยังร้องมีเพี้ยน แต่ก็พัฒนา น้องจะพัฒนาแต่ละปีดีขึ้น (ถาม-แล้วการฝึก ส่วนใหญ่แม่ฝึกให้เองเลยหรือ?) ใช่ หลักๆ แม่ก็ฝึกให้ สอนน้องร้องกลอน และขับเสภา ส่วนตัวแม่ มีความฝันว่าแม่อยากเป็นนักร้อง อยากเป็นศิลปิน ตัวเองไปไม่ถึงฝัน ก็อยากจะส่งต่อให้ลูก ทำความฝันเราให้สำเร็จ”


ด้านประวิทย์ แสงเลิศ พ่อของน้องออมสิน ได้ใช้ความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์เปิดบ้านเช่ารับติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์ ซึ่งแต่ก่อนเคยทำรายได้เลี้ยงครอบครัวได้

“รับจ้างซ่อมเครื่องเสียง ติดตั้งด้วย (ถาม-ดีไหมช่วงนี้กิจการ?) มันก็พอไปได้ ถ้าช่วงแรกๆ ย้อนกลับไป 7-8 ปีก่อนดี มาช่วงหลังๆ งานจะเงียบ”


หลังผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้งานเครื่องเสียงซบเซา พ่อน้องออมสินจึงเบนเข็มมาทำโรงเรือนเพาะเห็ดขาย

“ก็ลงทุนเพาะเห็ด เห็ดหูหนู ตอนแรกทำเห็ดฟางก่อน เห็ดฟางเสร็จปุ๊บ ก็มาเห็ดหูหนู (ถาม-ทำไมอยากไปเป็นเกษตรกรเพาะเห็ดขาย?) พอไปได้ จุนเจือครอบครัวได้ ก็เลยลองทำดู เผื่อจะเป็นทางเลือกทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น (ถาม-แล้วเป็นยังไงผลลัพธ์?) ช่วงแรกๆ ดี แต่มาช่วงหลังๆ มันเกิดปัญหา พวกการเกษตร มีพวกเชื้อรา เชื้อโรคเข้ามา ทำให้ผลผลิตเริ่มน้อยลง น้อยลงจนเราขาดทุน ไปไม่ไหว”


น้องออมสิน ยอมรับว่า ช่วงที่ครอบครัวมีปัญหาเรื่องรายได้ ส่งผลให้บางวันน้องก็ไม่มีตังค์ไปโรงเรียน

“ตอนนั้นลำบาก แทบจะไม่มีตังค์ไปโรงเรียนเลย บางวันก็ได้ บางวันก็ไม่ได้ ส่วนใหญ่หนูจะเสียสละให้น้องมากกว่า (ถาม-ตอนนั้นปกติหนูได้ค่าขนมไปโรงเรียนวันละเท่าไหร่?) บางทีก็ 30 (แต่ช่วงเวลานั้น 30 บาทก็ไม่มี) ใช่ค่ะ”


แม้ฐานะการเงินของครอบครัวมีปัญหา แต่ผู้เป็นพ่อก็ไม่อยากให้ลูกรับรู้“ส่วนใหญ่พ่อจะไม่บอกให้ลูกรับรู้ เพราะเราไม่อยากให้ลูกมารับรู้ แต่เขาจะคอยถาม ถ้าจะมีค่าใช้จ่ายโน่นนี่เข้ามา เขาจะคอยถาม ลูกสาวก็โตแล้วอยากรู้ปัญหาของพ่อของแม่ (ถาม-แล้วจู่ๆ ทำไมน้องถึงอยากช่วยครอบครัวตอนนั้น?) เขาเล็งเห็นตอนนั้นคือ มันจะมีคนมาทวงหนี้ ก็มี หยิบยืมจากข้างนอก เขาเห็น เขาจะถาม ทำไมคนนี้มาบ่อยจัง เราก็โกหกแกไป ไม่อยากให้แกรับรู้”


ด้วยความที่อยากช่วยพ่อแม่หารายได้เพื่อใช้หนี้และอยากให้พ่อแม่สบายมีบ้านอยู่ น้องออมสินจึงตัดสินใจใช้เสียงตัวเองสร้างรายได้ด้วยการร้องเพลงเปิดหมวก

“ตอนแรกหนูยังไม่ทราบว่าที่บ้านมีหนี้- แต่มีคนมาทวงเงินหน้าบ้าน หนูเลยถามแม่ว่า เกิดอะไรขึ้น แม่ก็เล่าให้ฟังว่า พ่อไปกู้หนี้มาทำเล้าเห็ด (ถาม-เรามองเห็นตรงนั้น เราคิดยังไงบ้าง?) รู้สึกแย่ ลำบาก เหมือนว่า ตัวเองยังทำไม่ได้เลย อยากจะเป็นนักร้องศิลปินให้คุณพ่อคุณแม่อยู่สบายมีบ้าน (ถาม-แต่วันนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นทำให้หนูคิดอยากจะช่วยเหลือครอบครัวใช่ไหม?) ใช่ค่ะ (ถาม-มีคนบอกให้หนูต้องไปทำไหม หรือหนูคิดเอง?) หนูคิดเอง (ถาม-ทำไมหนูมั่นใจว่าหนูจะใช้ความสามารถหนูทำได้?) หนูรักในเสียงเพลงด้วย และอยากช่วยครอบครัวด้วย”


ขณะที่แม่น้องออมสิน เผยว่า“ครอบครัวเป็นหนี้จากการทำเล้าเห็ด แล้วเจ๊ง ไปกู้ธนาคารมา และรถยนต์ก็ต้องเอาไปเข้า น้องเห็นว่าที่บ้านมีภาระเยอะ เขาเดินมาบอก อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระที่บ้าน หนูอยากไปเปิดหมวก ได้เงินมาจ่ายค่ากับข้าว แรกๆ แม่เห็นว่าน้องชอบ ก็เลยให้พ่อทำลำโพง ก็ซื้อไมค์มา มีลำโพงประกอบเอง ไปเปิดหมวกที่ตลาดนัด”


“(ถาม-พอได้เงินมาวันแรก ความรู้สึกของแม่และลูกเป็นยังไงบ้างวันนั้น?) ก็ดีใจ เพราะเขาใช้ความสามารถแลกเอาเสียงเพลงแลก ก็มีคนเอ็นดูเขา ทุกคนรักเขา (ถาม-จำได้ไหมได้เงินก้อนแรกมากี่บาท?) ครั้งแรกได้ประมาณ 4,000 กว่าบาท น้องร้องเพลงเปิดหมวกประมาณ 3 ชั่วโมงได้ ตอนนั้นเป็นงานลอยกระทง พอได้เงินมา เขาก็ส่งเงินมาให้แม่ แม่ หนูเปิดหมวกได้นะ ตอนนั้นแม่ก็ โห เงินเยอะ สำหรับเรา 4,000 บาทเยอะมาก วันหนึ่งเราทำไม่ได้เท่านี้แน่นอน ดีใจ น้ำตาไหลว่า ลูกเราอายุแค่ 11-12 ขวบ ช่วยพ่อแม่ได้เยอะ”


ปัจจุบัน น้องออมสินเรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนอนุบาลสวนผึ้ง น้องไม่เพียงหมั่นพัฒนาทักษะด้านร้องเพลง แต่ยังเดินสายประกวดตามเวทีต่างๆ ด้วย

วิษณุ รอดผล ครูวิชาดนตรี ยอมรับว่า น้องออมสินมีความมุ่งมั่นมากในการจะเป็นนักร้อง“ต้องบอกว่าทุนเดิมน้องมีต้นเสียงดีมาตั้งแต่โรงเรียนเก่า คุณแม่เขาฝึกให้ เราก็ไปเจอตามงานร้องเพลงประกวด แต่น้องเขาอยู่ ป.6 ปีที่แล้วน้องขึ้น ม.1 น้องเลยเข้ามา ผมเห็นแวว เลยชวนมาเข้าวง ที่โรงเรียนมีวงดนตรี และไปร้องเพลง”


“(ถาม-จุดเด่นหรือความแตกต่างของน้องออมสินกับเพื่อนในวัยเดียวกันชั้นเดียวกัน มีอะไรที่โดดเด่นหรือน่าชื่นชมสำหรับครู?) ผมว่าเป็นความทะเยอทะยานเขา เขามีใจมุ่งมั่นอยากเป็นนักร้อง เป็นศิลปิน เขามีความทะเยอทะยานเขาฝึก เห็นแววเวลาเขาซ้อมดนตรี เขาทำเต็มที่”

รางวัลแห่งความภูมิใจของน้องออมสิน!

“รางวัลที่หนูภาคภูมิใจที่สุด เป็นรางวัลที่ร้องเพลงที่ตะนาวศรี ได้ที่ 1 ได้ถ้วยใหญ่เมื่อปีที่แล้ว เป็นการแข่งขันประเภทร้องเพลงไทยลูกทุ่ง ประชาชน ตอนนั้นหนูอายุ 12-13 (ถาม-แล้วคนที่แข่งขันส่วนใหญ่อายุเท่าไหร่?) จะมี 15 18 20 ขึ้นไป”


นอกจากเรียนหนังสือ ร้องเพลงเปิดหมวก เดินสายประกวดร้องเพลง เพื่อหารายได้ช่วยครอบครัวแล้ว น้องออมสินยังช่วยแม่ขายลูกชิ้นอีกด้วย

“(ถาม-พูดถึงการเรียน หนูอยู่ในวัยเรียน แล้วทำงานด้วย หนูแบ่งเวลายังไง?) เช่น วันอังคาร ไปโรงเรียน ไปเปิดหมวก หนูก็ขอลาครูหน่อย ไปโรงเรียนสายๆ (ถาม-หนูต้องไปร้องตั้งแต่กี่โมง?) ประมาณ 6-7 โมงขึ้นไป ถึง 9-10 โมง (ถาม-แล้วไปอย่างนี้ได้เยอะไหม 2 ชั่วโมง?) ก็ได้อยู่ พอได้ (ถาม-แล้ววันอื่น?) วันอื่นก็ไปเปิดหมวกตลาดนัดเย็น จะมีวันพุธ แต่วันพุธไม่ค่อยได้เปิด และวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ (ถาม-ครั้งหนึ่งที่ไป ส่วนใหญ่ได้เงินขั้นต่ำกี่บาท?) เปิดหมวก ก็จะได้เต็มที่ 1,500 (ถาม-ทำงานด้วย แล้วการเรียนหนูกระทบไหม?) ก็มี เรียนไม่ทันเพื่อน หนูก็จะคอยถามเพื่อน วันนี้มีการบ้านไหม และค่อยๆ ตาม (ถาม-แล้วผลการเรียนเราเป็นยังไง?) ดี (ถาม-ได้เกรดเท่าไหร่?) ได้ 3 กว่าๆ”


น้องออมสินฝันอยากเป็นนักร้องเพลงลูกทุ่ง และมีค่ายของตัวเอง ไม่ว่าความฝันจะอยู่อีกยาวไกลแค่ไหน แต่การที่วันนี้น้องสามารถใช้เสียงเพลงช่วยครอบครัวหารายได้ ก็สร้างความภาคภูมิใจให้กับผู้เป็นพ่อและแม่ได้มากแล้ว

“แม่ภูมิใจเขานะ รักเขา และห่วง อยากจะขอบคุณลูกออมสินที่ช่วยครอบครัวเรามาถึงทุกวันนี้ ลูกไม่เคยอยากได้อะไรเลย แค่ เขาพูดเองว่า อยากให้เขามีกินทุกวัน หนูมีข้าวกินทุกวัน แม่รักลูกนะ ให้ลูกสู้ๆ ประสบความสำเร็จในชีวิต สิ่งที่ลูกตั้งความหวังไว้ แม่จะคอยซัพพอร์ตลูกตลอด”


“พ่อดีใจกับลูก มันตื้นตันใจแทบพูดไม่ออก ถ้าถึงวันนั้นจริงๆ (ถาม-เห็นเขาบอกเขาอยากมีบ้านให้พ่อแม่อยู่ รู้สึกยังไงกับความคิดของลูก?) แกฝันมานานแล้ว อยากมีบ้าน ไม่อยากเช่า อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง แกบอกว่า จะได้ไม่ต้องเสียค่าเช่า ความฝันแกอยากเป็นนักร้อง แกบอกว่า วันหนึ่งได้เป็นนักร้องขึ้นมา แกอยากได้ตังค์ตรงนั้นมาปลูกบ้าน”

ไม่ว่าการจะเดินถึงฝันในการเป็นนักร้อง ต้องใช้เวลาแค่ไหน หรือจะสำเร็จหรือไม่ สำหรับน้องออมสินแล้ว ยืนยันว่า“หนูจะไม่กลัวและไม่ยอมแพ้ จะพัฒนาไปเรื่อยๆ”


หากท่านใดต้องการจ้างน้องออมสินเพื่อร้องเพลงติดต่อได้ที่ โทร.093-449-0416 หากต้องการมอบทุนการศึกษาและพัฒนาทักษะด้านดนตรี โอนไปได้ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ชื่อบัญชี ด.ญ.ปนัดดา แสงเลิศ เลขที่บัญชี 020-2-40864-084


คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “เสียงของลูก...แสงของบ้าน”
https://www.youtube.com/watch?v=k0jZ9BBarkQ


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 11.30-12.00 น. ทาง NEWS1 (กล่อง IPTV ของ NT ช่อง 64 / กล่อง AIS Play Box ช่อง 615 / กล่อง True ID ช่อง 19)

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos


กำลังโหลดความคิดเห็น