เมื่อเทคโนโลยีถูกใช้เพื่อคุ้มครองประชาชน
ในยุคที่ภัยไซเบอร์ซับซ้อนและลุกลามอย่างรวดเร็ว ความสามารถในการรับมือของภาครัฐจึงกลายเป็นเครื่องชี้วัดความปลอดภัยของประเทศ ล่าสุดประเทศไทยสร้างชื่อบนเวทีโลก ด้วยการคว้ารางวัล WSIS Prize 2025 จากองค์การโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ที่จัดขึ้น ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ผลงานที่ได้รับรางวัลคือ “ศูนย์ปราบโกงออนไลน์” ภายใต้การกำกับของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ซึ่งกลายเป็นต้นแบบการใช้เทคโนโลยีเพื่อปกป้องประชาชนจากภัยทางออนไลน์อย่างเป็นรูปธรรม
เบื้องหลังความสำเร็จของระบบปราบโกง
ระงับบัญชีมิจฉาชีพได้มากกว่า 100,000 ราย
ศูนย์ปราบโกงออนไลน์ใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์เชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคาร ตำรวจ และผู้ให้บริการโทรคมนาคม เพื่อหยุดยั้งการฉ้อโกงโดยเร็วที่สุด ระบบสามารถระงับบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงได้ภายในไม่กี่นาทีหลังมีการแจ้งเตือน
คืนเงินผู้เสียหายกว่า 20,000 ล้านบาท
หนึ่งในผลลัพธ์ที่จับต้องได้คือการคืนทรัพย์สินให้กับประชาชนที่ถูกหลอกลวง คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาทในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปี แสดงถึงความจริงจังและประสิทธิภาพของระบบ
รางวัล WSIS Prize คืออะไร?
World Summit on the Information Society (WSIS) Prize เป็นรางวัลที่มอบโดย ITU เพื่อยกย่องโครงการที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ โดยปีนี้มีโครงการจากทั่วโลกกว่า
1,000 โครงการร่วมเข้าประกวด และศูนย์ปราบโกงออนไลน์ของไทยติดหนึ่งในโครงการที่โดดเด่นที่สุด
ก้าวต่อไป: จากรับมือ สู่ป้องกัน
การได้รับรางวัลครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของความสำเร็จ แต่ยังสะท้อนถึงความพร้อมของประเทศไทยในการใช้เทคโนโลยีรับมือกับภัยในโลกดิจิทัล แต่คำถามที่ตามมาคือ: เราจะหยุดที่การ “แก้ปัญหา” หรือก้าวไปสู่การ “ป้องกันก่อนเกิด” ได้จริงหรือไม่?
การออกแบบระบบให้สามารถเรียนรู้และตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติตั้งแต่ต้นทาง รวมถึงการให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับรูปแบบของภัยหลอกลวงที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อาจเป็นคำตอบในระยะยาวที่ทำให้ “ระบบปราบโกง” ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นเกราะกำบังที่ประชาชนเข้าถึงได้จริง
แม้จะมีระบบที่แข็งแกร่งเพียงใด แต่หากประชาชนยังไม่รู้เท่าทันเทคนิคของกลุ่มมิจฉาชีพ ความสูญเสียก็ยังเกิดขึ้นได้เสมอ การปราบโกงอย่างยั่งยืนจึงไม่ใช่เรื่องของเทคโนโลยีเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ “การเรียนรู้ร่วมกันระหว่างรัฐและประชาชน”
ข้อมูลอ้างอิง: ITU Official Website | กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม | สำนักงานตำรวจแห่งชาติ