xs
xsm
sm
md
lg

ลูกออกไป-พ่อติดคุก “แพทองธาร”ระทึก มติศาลรธน.1ก.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แพทองธารระทึก! ศาลรธน.ประชุม 1 ก.ค. ชี้ชะตาปมคลิปเสียง สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่? ทักษิณลุ้นคดี 112 ขึ้นศาลอาญา 1 ก.ค. เช่นกัน แก้วสรรฟันธง "ลูกออกไป พ่อติดคุก" จริงหรือ?

วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เผลอแปปเดียว 2568 ผ่านไปแล้วครึ่งปี พรุ่งนี้อังคาร ที่ 1 ก.ค.เข้าสู่เดือนที่ 7 ของปีมะเส็ง แม้โหมดการเมืองร้อนๆ จะผ่านไปแล้วช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งการปรับครม.”แพทองธาร 2” และการชุมนุมใหญ่ของประชาชนร่วมแสนคน ที่พร้อมใจกันออกมาแสดงพลังที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อทำให้คนทั้งโลกได้เห็นแล้วว่า คนไทยพร้อมรวมใจเป็นหนึ่งเดียวเพื่อแสดงพลังปกป้องอธิปไตย

รวมถึง เรียกร้องให้ แพทองธาร ชินวัตร อย่าหน้าหนา-หน้าทน ต้องลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองได้แล้วต่อกรณีคลิปเสียงอัปยศชาวโลก

อย่างไรก็ตาม การเมืองช่วงฤดูฝน เดือนก.ค. ยังคงเป็นโหมดต่อเนื่องยังมีอีกหลายปมร้อน ที่ยังมีความร้อนแรง จนถึงขั้นอาจส่งผลกระเทือนระดับ พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ตามมาในอนาคตอันใกล้ เอาแค่สัปดาห์นี้ก่อน ช่วง 1-4 ก.ค. อย่างที่รู้กัน สองพ่อลูก ตระกูลชินวัตร ทักษิณและแพทองธาร ต้องทำใจร่มๆ กับการสู้คดีในศาล ทั้งศาลรัฐธรรมนูญ-ศาลอาญาและศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

แยกเป็นดังนี้ “ อิงค์-แพทองธาร” ต้องลุ้นหนักกับการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อังคารนี้ 1 ก.ค. ว่า ที่ประชุมจะมีวาระพิจารณาคำร้องสว.36 คนที่เข้าชื่อกันยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญถอดถอน ตัวเธอออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ จากปมคลิปเสียง

โดยหากคำร้องเข้าที่ประชุม ก็ต้องลุ้นอีกว่า จะมีมติรับหรือไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัย ซึ่งหากรับไว้พิจารณา ก็ต้องไปลุ้นต่อว่า ศาลรธน. จะมีมติให้แพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่การเป็นนายกฯไว้จนกว่าคดีจะจบหรือไม่?

เรียกว่า ลุ้นกันสามต่อ หากใจไม่นิ่งพอ อาจถึงขั้น ลมแทบจับ

ยิ่งมาประชุมวันเดียวกับการประชุมครม. สงสัย นายกอิงค์ สมาธิอาจหลุด ไม่เป็นอันทำงาน กันทั้งตัวนายกฯและครม.ทั้งคณะที่เข้าประชุมอังคารนี้ เพราะต้องคอยหยิบมือถือ มาคอยเช็คข่าว ผลประชุมตุลาการศาลรธน.กันชนิดทุกๆ ห้านาทีตั้งแต่หลังสิบเอ็ดโมงเป็นต้นไป จนน่าจะทำให้การประชุมครม.อังคารนี้ อาจเลิกเร็ว เพื่อเตรียมพร้อมรับมือ หากถูกศาลรธน.สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เพราะหากแพทองธาร ไม่รอด โดนสอยกลางอากาศ จะได้เก็บของ-ยกเลิกงานทั้งหมดในช่วงบ่ายได้ทันที

ทั้งนี้ หากถามว่า มีโอกาสที่คำร้องจะเข้าที่ประชุมหรือไม่ ประเมินจากหลายกระแส อัตราต่อรอง บอกว่า มีโอกาสเข้าสูง มากกว่าไม่เข้า จากเหตุผล คือ คำร้องส่งมาที่ศาล ตั้งแต่ 20 มิ.ย. มาเข้าวันที่ 1 ก.ค. ไทม์มิ่งถือว่าเหมาะ

อีกทั้งหากจับสัญญาณบางอย่าง เช่นเดิมที ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมกันจริงๆ คืออังคารหน้า 8 ก.ค. ไม่มีวันที่ 1 ก.ค.แต่จู่ๆ มีการขอแทรกคิวนัดพิเศษเพิ่มขึ้นมา 1 ก.ค. แสดงว่าน่าจะมีสัญญาณบางอย่างแล้วให้ศาลรธน.คุยให้สะเด็ดน้ำ จะรับ-ไม่รับ และจะให้ อิงค์ไปต่อหรือไม่?

เลยต้องนัดประชุมแทรกเร่งด่วน 1 ก.ค.เข้ามา ซึ่งหากคำร้องไม่เข้า ก็อาจจะมีเหตุผลบางอย่าง ที่ทำให้เกมพลิก ถูกเลื่อนไปสัปดาห์หน้า

และเมื่อเข้าสู่การพิจารณา ถึงตอนนี้ แวดวงการเมืองและนักกฎหมายมหาชน ต่างวิเคราะห์ไปทางที่ว่า ศาลจะรับคำร้องมากกว่าที่จะไม่รับคำร้อง

แต่ที่เสียงแตกกันอยู่ก็คือ ศาลจะสั่งให้แพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ที่ตอนนี้ แวดวงการเมืองและนักกฎหมายมหาชน ต่างก็ให้เหตุผลแตกเป็นสองแนว คือ ไม่หยุดกับสั่งให้หยุด ซึ่งทั้งสองฝั่ง มีเหตุผลที่รับฟังได้ ดังนั้นรอวัดใจ ศาลรธน.จะมีมติออกมาแนวไหน

โดยหากแพทองธาร ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ รัฐบาลเพื่อไทย ยังไง ก็สะเทือน ถึงต่อให้ “สิงห์อ้วน-ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและว่าที่รมว.มหาดไทย รหัสมท.1”ขึ้นมาทำหน้าที่รักษาการนายกฯแทนไปก่อน เพราะทักษิณ ย่อมอยากให้ ลูกสาวเป็นนายกฯเต็มตัว ไม่ใช่ให้ชะตาชีวิต แขวนอยู่บนเส้นดาย ต้องถูก”แขวน”ไว้ก่อน จนกว่าศาลจะตัดสินเสร็จ

เนื่องจากว่าไปแล้ว ต่อให้ ศาลไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่แต่ถ้ารับคำร้อง ก็ใช่ว่าจะเป็นผลดี

ดูตัวอย่าง เศรษฐา ทวีสิน ที่ต้องหลุดจากนายกฯ ในคดีตั้งพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ที่แม้ศาลจะมีมติ 5 ต่อ 4 ไม่ให้เศรษฐาหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ก็ไม่รอด เพราะตอนตัดสินคดี ศาลมามีมติ 5 ต่อ 4 ให้พ้นจากนายกฯ เลยทำให้แพทองธารขึ้นเป็นนายกฯ แทนอย่างที่เห็น

การรับคำร้องแต่ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงยังไม่ใช่สิ่งที่ทักษิณ ต้องการ ที่ต้องการจริงๆ คือ ไม่รับคำร้องเลยเพื่อจบปัญหา แต่ดูลุ้นยากพอควร ตอนนี้ คนมองว่าโอกาสจะรับมากกว่าไม่รับ 60 ต่อ 40 ไปแล้ว

เลยทำให้ทักษิณ ต้องเริ่มเตรียมรับมือ ที่ตอนนี้เริ่มเปิดไพ่ให้เห็นแล้ว เช่นตามข่าวที่ออกมา ที่จะให้แพทองธาร เป็นนายกฯควบรมว.วัฒนธรรม ที่ถูกมองว่า เพื่อให้ อิงค์ มีตำแหน่งการเมืองในครม.ไว้ก่อน ไม่ถูกตัดขาด โดนแขวนจนขาลอย เสียทรงการเมือง รวมถึงการเริ่มโยนหินถามทางคนในพรรคเพื่อไทยและแวดวงต่างๆ ว่า หากดันชัยเกษม นิติศิริ อดีตอัยการสูงสุด แคนดิเดตนายกฯของเพื่อไทย คนสุดท้าย ขึ้นมาเป็นนายกฯ จะรับกันได้ไหม

หลายคน มองว่า ทักษิณ ก็คงมองเหมือนกับที่หลายคนมอง คือหากศาลรธน.รับคำร้อง โอกาสรอด ของแพทองธาร แม้จะมี แต่ก็ลุ้นยาก เลยต้องเริ่มเตรียมรับมือแต่เนิ่นๆ เพื่อหวังต่อท่ออำนาจต่อไป ด้วยการดันคนของตัวเองได้เป็นนายกฯครบถ้วน ทั้งสามชื่อ เศรษฐา-แพทองธาร-ชัยเกษม ตามสไตล์กินรวบ ถ้าไม่เข้าตาจนจริงๆ ไม่แบ่งให้ใคร

ส่วนตัวพ่อ ทักษิณ ก็มีคิวต้องขึ้นโรงขึ้นศาล -ลุ้นการทำหน้าที่ของศาลเช่นกัน แต่ต่างกันตรงที่ ของทักษิณคือศาลอาญา กับศาลฎีกาฯ

เพราะอังคารนี้1 ก.ค.เช่นกัน แพทองธาร ลุ้นศาลรธน. แต่ว่า 1 ก.ค.และอีกหลายวันในเดือนเดือนก.ค. ทักษิณต้องไปขึ้นศาลอาญาในคดีที่อัยการฟ้องเป็นจำเลยในคดี 112 ที่ศาลอาญานัดสืบพยาน 7 นัดรวดในเดือนก.ค.

เริ่มจากสืบพยานฝ่ายโจทก์วันที่ 1, 2 และ 3 ก.ค. และนัดสืบพยานฝ่ายจำเลย 15, 16, 22 และ 23 ก.ค.2568

โดยคดีนี้ เคยมีการคาดหมายกันว่า ศาลอาจจะนัดอ่านคำตัดสินในปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า 2569 ซึ่งแม้เป็นแค่ศาลชั้นต้น แต่ทักษิณ คงต้องการให้ชนะไปเลย จะได้เป็นแต้มต่อหากอัยการ ยื่นอุทธรณ์

รวมถึงเดือนนี้เช่นกัน ทักษิณ ก็ต้องลุ้นกับการไต่สวนของ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่จะทำการเปิดห้องพิจารณาคดีของศาลฎีกาฯ ไต่สวนคดีชั้น 14 ที่ศาลนัดไต่สวน 6 นัดรวดในเดือนนี้ คือ 4-8-15-18-25-30 ก.ค. และเป็นไปได้ที่ ศาลฎีกาฯ อาจนัดฟังคำสั่งคดีชั้น 14 ในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.ปีนี้ ที่ก็น่าจะเป็นช่วงใกล้ๆ กับที่ ศาลรธน.น่าจะนัดอ่านคำตัดสินคดีแพทองธาร หากศาลรธน.รับคำร้อง

ทำให้ ช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค. เลยอาจได้ลุ้นกันว่า “แพทองธาร”จะหลุดจากนายกฯ หรือไม่ และช่วงใกล้ๆกันก็ลุ้นกันว่า ”ทักษิณ”ต้องกลับเข้าคุกหรือไม่ ก็อย่างที่ แก้วสรร อติโพธิ แกนนำกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยประกาศบนเวทีอนุสาวรียร์ชัยสมรภูมิเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า “ลูกออกไป พ่อติดคุก” ทำท่าได้ลุ้น อาจจะเป็นเรื่องจริง!


กำลังโหลดความคิดเห็น