เพื่อไทยจนมุม! เสียงคลิปฉาวแพทองธารสั่นคลอนเก้าอี้นายกฯ รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ รวมไทยสร้างชาติงัดข้อเสนอ "เปลี่ยนนายกฯ" หรือ "ถอนตัว" เพื่อไทยเลือกทางไหน? อนาคตการเมืองไทยแขวนอยู่บนเส้นด้าย!
การเมืองไทยเวลานี้แทบไม่ต่างอะไรกับการนั่งรถไฟเหาะเพราะขึ้นเร็วลงเร็วตลอดเวลา อย่างพรรคเพื่อไทยที่ใครๆก็คิดว่าถือแต้มต่อในทางการเมือง จนสามารถตะเพิดพรรคภูมิใจไทยให้ออกไปจากรัฐบาลได้เป็นผลสำเร็จ ปรากฎว่าตอนนี้กลับเผชิญหน้ากับวิกฤติศรัทธาอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นผลมาจากกรณีคลิปเสียงการสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับจอมเผด็จการ ฮุนเซน อดีตผู้นำกัมพูชา ซึ่งแม้แต่พรรคเพื่อไทยเองก็คงคาดไม่ถึงว่าพรรคเพื่อไทยกำลังจนมุมทางการเมือง เพราะเพื่อนรัก หักเหลี่ยมโหด
ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเดิมใกล้เคียงกับคำว่าพรรคการเมืองที่ใกล้ล่มสลาย เพราะความแตกแยกและการช่วงชิงอำนาจกันเองภายในพรรค เวลานี้กลายเป็นว่าได้มาอยู่ในจุดที่ชี้อนาคตทางการเมืองของนายกรัฐมนตรีกันเลยทีเดียว
ทั้งนี้ เป็นเพราะทันทีที่พรรคภูมิใจไทยออกไป ทำให้เสียงรัฐบาลในเวลานี้เหลือเพียง 261 เสียง จากส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 495 คน ซึ่งเสียงกึ่งหนึ่งของสภาฯในเวลานี้ คือ 248 คน เท่ากับว่ามีเสียงข้างมากเกินมาเพียง 13 เสียงเท่านั้น แม้ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะแตกออกเป็นสองขั้วระหว่างขั้วของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กับ นายสุชาติ ชมกลิ่น แต่ลำพังเสียงส.ส.ของกลุ่มพีระพันธุ์ที่มีอยู่ประมาณ 15 เสียง ถ้าตัดสินใจเดินออกมาก็เพียงพอที่ทำให้รัฐบาลของแพทองธารไปต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
ต่อให้พรรคเพื่อไทยไปหาเสียงส.ส.จากพรรคการเมืองมาสนับสนุน ก็ยากมากขึ้นไปทุกที เพราะแต่ละพรรคก็ต่างกังวลการมาร่วมกับพรรคเพื่อไทยในห้วงเวลานี้ สุ่มเสี่ยงต่อการถูกแขวนในการเลือกตั้งใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นเร็วๆนี้
ด้วยเหตุนี้เอง จึงเริ่มมีรายงานว่าพรรคเพื่อไทยเองพร้อมเปิดรับทุกข้อเสนอและเงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาลในการเกลี่ยกระทรวงให้แต่ละพรรคที่พร้อมร่วมหัวจมท้ายกันในเวลานี้ ซึ่งแน่นอนว่าพรรครวมไทยสร้างชาติตามสไตล์นักการเมืองรุ่นใหญ่คงไม่ยอมปล่อยพรรคเพื่อไทยไปได้ง่ายๆอย่างแน่นอน
โดยเวลานี้เริ่มมีการพูดถึงในการหารือของพรรครวมไทยสร้างชาติเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีข้อสรุปให้แพทองธาร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อให้นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีคนสุดท้ายของพรรคเพื่อไทยที่เหลืออยู่มาเป็นนายกฯ โดยพรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมจะโหวตสนับสนุน หากพรรคเพื่อไทยปฏิเสธข้อเสนอนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติจะถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
การยื่นข้อเสนอทำนองนี้ มีแนวโน้มว่าอาจได้รับแรงสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่เช่นกัน เพราะมองว่าท่ามกลางสถานการณ์ตอนนี้ หากให้แพทองธารอยู่ต่อไป อาจทำให้ความขัดแย้งขยายวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะกับการเคลื่อนไหวนอกสภา ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าในระยะยาวหากม็อบจุดติดขึ้นมาอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง ดังนั้น ควรจำกัดวงของความขัดแย้งให้เล็กที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดการสร้างสถานการณ์
ข้อเสนอที่พรรคร่วมรัฐบาลโยนออกมานั้น ทำให้พรรคเพื่อไทยเองตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เพราะการให้รัฐบาลนำโดยนายชัยเกษมก็ไม่มีความแน่ใจว่าจะพาพรรคเพื่อไทยให้กลับมามีความนิยมได้หรือไม่ ด้วยเหตุที่มีบุคคลิกของความเป็นนักกฎหมายอย่างเข้มข้น แม้จะได้ข้อดีในเรื่องของความรอบคอบ แต่ก็อาจขาดความรวดเร็วในการตัดสินใจ หรือจะตัดสินใจยุบสภาในเร็ววันนี้ ก็ไม่ได้เป็นการการันตีว่าพรรคเพื่อไทยจะกลับมาชนะเลือกตั้ง เพราะพรรคเพื่อไทยเองก็ยังไม่ได้มีความพร้อมเท่าใดนัก แถมความนิยมตกต่ำเพราะนายกไทยใจเขมร
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ การจะดันทุรังให้แพทองธารอยู่ในตำแหน่งต่อไปก็สุ่มเสี่ยงต่อการทำให้จะเป็นนายกรัฐมนตรีของครอบครัวชินวัตรอีกคนที่ลงจากตำแหน่งไม่สวย
ดังนั้น บนหมากการเมืองกระดานนี้ พรรคเพื่อไทยแม้จะมีจำนวนส.ส.มากที่สุด แต่ก็มิอาจดำรงตนเป็นขุนเพื่อควบคุมเกมทั้งหมดได้ เป็นได้เพียงเบี้ยตัวหนึ่งเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติจึงกลายเป็นพรรคการเมืองที่กำลังกำหนดการตัดสินใจทางการเมืองครั้งสำคัญของพรรคเพื่อไทยไปโดยปริยายระหว่างการยุบสภาแล้วไปตายเอาดาบหน้าพร้อมกันทุกฝ่าย หรือจะรักษาอำนาจต่อไปด้วยการเปลี่ยนตัวนายกฯ