xs
xsm
sm
md
lg

รื้อคดีโฮปเวลล์ จี้พีระพันธ์ุ เลิกการเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"สุธี" จี้ "พีระพันธุ์" พักการเมือง ชี้บงการคดีโฮปเวลล์สร้างความเสียหายประเทศ เผยในกมธ.พบโฮปเวลล์ไม่ผิด จี้สืบหาคนผิดตัวจริง ยันไร้ขัดแย้งส่วนตัว หวั่นระบบยุติธรรมเสียหาย

ที่พรรค รวมไทยสร้างชาติ นายสุธี กรกมลพฤกษ์ อดีตข้าราชการได้มายื่นหนังสือถึงนายพีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ใจความสรุปได้ว่า ขอให้พิจารณาตัดสินใจยุติบทบาททางการเมืองชั่วคราว โดยนายสุธีได้ให้เหตุผลว่า ตนเองอยู่ในที่ประชุมของคณะกรรมาธิการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญาครั้งที่มีการนำคดีโฮปเวลล์เข้ามาพิจารณา และจากการซักถามและตอบคำถามจากผู้แทนของการรถไฟ จึงได้รับทราบว่า

บริษัทโฮปเวลล์ไม่ได้กระทำผิดเลย แต่มีผู้ใหญ่สั่งให้ดำเนินการฟ้องต่อศาลว่าด้วยเรื่องการจดทะเบียนจัดตั้งของบริษัทที่กระทรวงพาณิชย์ไม่ถูกต้อง นี่คือเหตุผลที่นำเข้ามาพิจารณาในคณะกรรมธิการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา ตนเองใน ฐานะเป็นอดีตข้าราชการที่จบวิศวกรรมการก่อสร้าง จึงสามารถเข้าใจ คุ้นเคยและผ่านงานที่เกี่ยวกับสัญญาก่อสร้างเป็นอย่างมาก ทราบดีว่าหากจะยกเลิกสัญญานั้นต้องมีเหตุที่บริษัทกระทำการผิดสัญญาข้อใดข้อหนึ่ง แต่ในเมื่อไม่สามารถระบุได้ว่ากระทำผิดใดๆ แล้วไปยกเลิกสัญญา จึงรู้สึกผิดสังเกต

และได้แนะนำให้กับผู้ที่เข้าร่วมอยู่ประชุมด้วย ซึ่งมีนายอันวาร์ สาและ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา และนายสัญญา สถิรบุตร ที่ปรึกษากรรมาธิการฯว่า ไม่ควรหยุดแต่เพียงเท่านี้ ควรจะต้องสืบค้นหาความจริงต่อไป โดยไม่ต้องไปสนใจว่า ในเรื่องของรูปคดีของโฮปเวลส์ ว่าจะแพ้หรือชนะเพราะไม่ใช่เรื่องของเรา เรื่องของเราคือประเทศชาติเสียหายหรือไม่ เนื่องจากศาลปกครองสูงสุดได้ตัดสินเป็นที่เด็ดขาดแล้ว ยังสามารถจะพลิกคดีจนกระทั่งต้องกลับมาจนเป็นเหตุให้จะต้องมีการอุทธรณ์กันต่อไปนั้น ไม่เป็นผลดีต่อระบบของกระบวนการยุติธรรมแต่อย่างใด

และเมื่อได้ไปสืบค้นความจริงก็ปรากฏพบว่า นายพีระพันธ์ุได้ให้สัมภาษณ์และทำคลิปว่า เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น เป้าหมายคือ การจดทะเบียนจัดตั้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย รายละเอียดสรุปคร่าว ๆอ่านได้จากเอกสารที่ยื่นต่อพรรค และด้วยเหตุดังกล่าว ทำให้ตนเองซึ่งเป็นคนริเริ่มเสนอความคิดว่าต้องเดินต่อนั้น จึงต้องรับอาสาจะมาเป็นคนยื่นเอกสารด้วยตนเอง และขอเรียนให้ทราบว่าตนเองเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ รู้จักกันเป็นอย่างดีกับนายพีระพันธ์ุ ก่อนที่จะลาออกจากพรรคเพราะมีปัญหากับคนในพรรค แต่นายพีระพันธ์ุไม่เคยมีปัญหากับตนเอง จึงไม่มีเรื่องใดที่ขัดแย้งกันเป็นการส่วนตัว แต่นี่เป็นเรื่องของประเทศชาติที่กำลังถูกเสียหายด้วยวิธีคิดของนักกฏหมายคนหนึ่งเท่านั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น