3วัน-3ปมร้อน! ทักษิณคุกไม่คุก? แพทยสภายืนมติลงโทษหมอ? ภูมิธรรมยกเลิกปารีส จับตาศาลฎีกาไต่สวนปมป่วยทิพย์ 13 มิ.ย.
การเมืองสัปดาห์นี้ มีเรื่องฮอท ประเด็นร้อนให้ติตดามกันแบบเรียงสามวันรวด ติดๆกัน อัดกันไปแบบจุกๆเน้นๆ ที่ทำให้การเมืองสัปดาห์นี้ ร้อนทะลุปรอทแตกกลางฤดูฝน ชนิดที่ สายฝนที่โปรยปรายและโหมกระหน่ำกรุงเทพฯมาหลายวันติดกัน ก็ยังคลายความร้อนการเมืองสัปดาห์นี้ ลงไม่ได้
ไล่ตั้งแต่ พฤหัสบดีนี้ 12 มิ.ย. ที่จะมีการประชุมประจำเดือนของแพทยสภา โดยมีวาระที่ไม่ใช่แค่แวดวงเสื้อกราวน์ หมอทั่วประเทศเกือบ 70,000 คนที่เป็นสมาชิกแพทยสภาและได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพจากแพทยสภา องค์กรวิชาชีพของหมอทั่วประเทศ จะให้ความสนใจติดตามเท่านั้น แต่ยังเป็นการประชุมที่อยู่ในความสนใจของแวดวงการเมืองและคนทั้งประเทศ เพราะต่างก็รอติดตามกันว่า ที่ประชุมแพทยสภา จะมีการลงมติยืนยันมติเดิมเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ให้ลงโทษแพทย์สามคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งตัวและรักษานายทักษิณ ชินวัตร ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจหรือไม่ ?
ซึ่งเมื่อ29 พ.ค.ที่ผ่านมา สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุขในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา ได้วีโต้มติแพทยสภาดังกล่าว ทำให้แพทยสภาต้องมาประชุมอีกครั้งว่าจะยืนยันมติเดิมหรือไม่ โดยการยืนยันมติเดิมต้องใช้เสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนเสียงกรรมการแพทยสภา 70 คน ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่าฝ่ายการเมืองในรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข พยายามล็อบบี้กรรมการแพทยสภา ทั้งกรรมการโดยตำแหน่งที่เป็นพวกข้าราชการประจำ และกรรมการที่มาจากการเลือกตั้ง ที่เป็นแพทย์อยู่รพ.ต่างๆ รวมถึงพวกที่เป็นอาจารย์แพทย์ ตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ให้ลงมติ เอาตามคำวีโต้ของสมศักดิ์ จะได้ช่วยเหลือสามหมอที่ส่งตัวและรักษาทักษิณ ไม่ให้มีประวัติเคยถูกแพทยสภาลงโทษ
จากนั้นวันรุ่งขึ้น ศุกร์ที่ 13 มิ.ย. ที่เป็นแมทช์ระทึก ลุ้นกันหนัก ไม่ใช่แค่กับคนในตระกูล”ชินวัตร”แต่รวมถึง ส.ส.-รัฐมนตรีเพื่อไทย และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันด้วย เพราะตลอดทั้งวันดังกล่าว แวดวงการเมืองจะเพ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อติดตามผลการไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ กรณี ข้อกล่าวหา ทักษิณ ชินวัตร นายกฯตัวจริง ได้รับการช่วยเหลือจากกรมราชทัณฑ์และแพทย์ที่ทำการรักษาตัวที่รพ.ตำรวจ ด้วยการให้นอนพัก ห้องหรูวีไอพี ชั้น 14 ร.พ.ตำรวจ เป็นเวลา 181 วัน จนเข้าสู่ช่วงพักโทษ จึงได้กลับไปจันทร์ส่องหล้า ทำให้ไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว
ปม ป่วยทิพย์ทักษิณ เป็นเรื่องที่คาใจคนทั้งประเทศเพราะเป็นเหตุการณ์ที่หลายคนเห็นตรงกันว่า ทำลายความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมประเทศไทยโดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายตามคำพิพากษา ที่มีการช่วยเหลือกัน จนทำให้ทักษิณ ลอยนวลไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว
จนศาลฎีกาฯ ต้องเข้ามาเป็นเจ้าภาพ รับเรื่องมาไต่สวนจะได้จบสิ้นกระแสความกันเสียที ในวันศุกร์นี้ 13 มิ.ย. ที่คาดว่าจะใช้เวลาไต่สวนหลายชั่วโมงจากที่นัดไว้ 09.30 น.
และปิดท้ายการเมืองร้อนวันที่สาม นั่นก็คือ วันเสาร์ที่ 14มิ.ย.กับการประชุม คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (Joint Boundary Commission - JBC) ที่กรุงพนมเปญ เพื่อหาทางคลี่คลาย-แสวงหาข้อยุติกรณีปัญหาเรื่อง”พื้นที่พิพาท”ระหว่างไทย-กัมพูชาหลายจุด โดยเฉพาะล่าสุดตรงพื้นที่ช่องบก อุบลราชธานี ซึ่งแม้ตอนนี้ สถานการณ์เริ่มคลี่คลายหลังเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทหารกัมพูชา จะมีการถอยกลับไปยังจุดที่เคยอยู่เมื่อปี 2567และปิดกลบคูเลต ปรับพื้นที่ อยู่ในสภาพเดิม
แต่เรื่องแบบนี้ ดูก็รู้ ปัญหาไทย-กัมพูชา เป็นหนังยาว ยังไม่จบง่ายๆ โดยเฉพาะตราบใดที่กัมพูชา ยังไม่ถอนเรื่องจากการนำคดีขึ้นสู่ศาลโลก เพื่อหวังฮุบปราสาทตาเมือนธม, ตาเมือนโต๊ด, ปราสาทตาควาย และช่องบก
ถามว่า สถานการณ์การเมือง-ความมั่นคงชายแดน ทั้งสามวันติดๆกัน 12-14 มิ.ย. ดังกล่าวร้อนแรงขนาดไหน
ก็ร้อนแรงขนาดทำให้ ผู้จัดการรัฐบาล บิ๊กอ้วน ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม ตัดสินใจ ยกเลิกภารกิจเดินทาง ไปปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อประชุมทางทหาร และงานปารีส แอร์โชว์ ระหว่างวันที่ 15-19 มิ.ย.68 นี้ เพราะไม่ไว้ใจและเป็นห่วงสถานการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 12 -13-14 มิ.ย.
จะให้ บิ๊กอ้วน-ผู้จัดการรัฐบาล มือขวาทักษิณ วางใจได้อย่างไร เพราะทั้งสามวัน ล้วนมีผลทางการเมืองต่อรัฐบาลทั้งทางตรงและทางอ้อม
หากผลการไต่สวนของศาลฎีกาฯวันที่ 13 มิ.ย. ออกมาเสร็จภายในวันดังกล่าว โดยรูปคดีการไต่สวนตลอดทั้งวัน พยานหลักฐาน-พยานบุคคล ต่างๆ ที่ศาลฎีกาฯได้รับตามที่สั่งให้หน่วยงานต่าง ๆส่งมาให้ เช่น กรมราชทัณฑ์-เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร-โรงพยาบาลตำรวจ-สำนักงานคณะกรรมการป.ป.ช. ตลอดจนข้อมูลเพิ่มเติมที่บางกลุ่มส่งไปให้อีกเช่น ที่กลุ่มของชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ไปยื่นข้อมูลให้ศาลฎีกาฯเมื่อ 29พ.ค.ที่ผ่านมา เช่น เอกสารใบเสร็จร่วม 30 ใบ ที่ทักษิณ ผู้ป่วยชั้น 14 จ่ายให้รพ.ตำรวจตลอดช่วงนอนพักที่รพ.ตำรวจ 181 วันหรือคำให้การของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีต ผบ.ตร.เคยที่เคยไปพบทักษิณสองครั้ง ที่รพ.ตำรวจ และไปเป็นพยานชี้แจงกับทาง ป.ป.ช. ก็มีการนำสิ่งที่เคยไปเล่าให้ป.ป.ช.ฟัง ไปส่งให้ศาลฎีกาฯ หรือ เอกสารของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่เคยตรวจสอบและออกรายงานผลตรวจสอบ ชั้น 14 เป็นต้น และอาจรวมถึงข้อมูลที่องค์คณะฯ ของศาลฎีกาฯ ไปสืบหา-สั่งให้บางหน่วยงานส่งมาให้ในทางลับ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้เพราะศาลฎีกาฯใช้ระบบไต่สวน
โดยหากข้อมูล-พยานหลักฐานที่ศาลฎีกาฯได้รับ ฝ่ายทักษิณและทนายความ ชี้แจงไม่ได้ ชี้แจงแล้วฟังไม่ขึ้น ซึ่งขอบแบบนี้ มันเห็นได้เอง ในห้องไต่สวนวันที่ 13 มิ.ย. มันย่อมเป็นสถานการณ์ที่ไม่ดีกับฝ่ายทักษิณ หัวหน้ารัฐบาลตัวจริงแน่นอน เพราะถึงตอนนี้ ยังประเมินได้ยากว่า ศาลฎีกาฯ จะออกคำสั่งภายในวันเดียวกันนั้นเลยหรือไม่ หรือว่าจะนัดฟังคำสั่ง ในวันข้างหน้าเช่นอีกหนึ่งสัปดาห์
ด้วยเหตุนี้ ทำให้ ทักษิณและแกนนำเพื่อไทย รวมถึงคนในตระกูล ชินวัตร โดยเฉพาะ แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ -ลูกสาว ก็ต้องเตรียมพร้อมตั้งรับทุกรูปแบบ กับสิ่งที่จะเกิดขึ้น 13 มิ.ย. ทำให้ ภูมิธรรม ผู้จัดการรัฐบาล ย่อมไม่อาจวางใจบินไปทำงาน-ท่องเที่ยวกรุงปารีสได้ จึงต้องปักหลัก เตรียมพร้อมรับมือ สิ่งที่จะเกิดขึ้น
ที่น่าจับตาคือ ทักษิณ จะหนีออกนอกประเทศก่อนวันที่ 13 มิ.ย.หรือไม่ หรือ ทักษิณ จะไปศาลฎีกาฯวันที่ 13 มิ.ย.หรือไม่ เป็นต้น