GULF-AIS-สวพส. เดินหน้าโครงการ Green Energy Green Network for THAIs ปี 2 ขยายโอกาสเรียนรู้ ต่อยอดอาชีพ สร้างรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนห่างไกล ด้วยพลังงานสะอาด เครือข่ายดิจิทัล และการพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืน
บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ “GULF” บริษัทชั้นนำด้านพลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน โทรคมนาคม และดิจิทัล ผนึกกำลังร่วมกับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ “AIS” ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล และสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ “สวพส.” เดินหน้าสานต่อโครงการ Green Energy Green Network for THAIs พลังงานสะอาดเชื่อมเครือข่ายเพื่อคนไทย ปีที่ 2 เพื่อให้ผู้คนในพื้นที่ห่างไกลให้เข้าถึงบริการโครงสร้างขั้นพื้นฐาน พร้อมดึงศักยภาพและความร่วมมือบริษัทในเครือ AIS และ THAICOM ทั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และสัญญาณดาวเทียม ขยายโอกาสการเข้าถึงพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีดิจิทัล สู่การต่อยอดอาชีพ เพื่อการสร้างงาน สร้างรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน
นางสาวธีรตีพิศา เตวิชพศุตม์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านปฏิบัติการ บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF กล่าวว่า การนำความรู้ ความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจมาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสร้างคุณค่าร่วมให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนเป็นสิ่งที่ GULF ให้ความสำคัญมาโดยตลอด อย่างในโครงการ Green Energy Green Network for THAIs ที่ได้ผนึกกำลังกับ AIS และ สวพส. เพื่อส่งมอบพลังงานไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ให้แก่โรงเรียน และอาคารส่วนกลางของชุมชน พร้อมติดตั้งเสาสัญญาณเชื่อมต่อระบบเครือข่ายสัญญาณดิจิทัล ช่วยให้ผู้คนในพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงพลังงานและเทคโนโลยีดิจิทัล โดยปีที่ผ่านมา GULF ติดตั้งโซลาร์เซลล์ไปแล้วกว่า 30 กิโลวัตต์ใน 6 ชุมชนของประเทศไทย ช่วยให้ผู้คนในพื้นที่ห่างไกลกว่า 4,000 คน เข้าถึงโอกาสทางการศึกษา ระบบสาธารณสุข และที่สำคัญยังเกิดการต่อยอดพัฒนาด้านอาชีพ นำไปสู่การสร้างงาน รายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนที่ยั่งยืน
ในปีนี้ GULF มีความมุ่งมั่นที่จะสานต่อภารกิจในปีที่ 2 ร่วมกับพันธมิตรทุกภาคส่วน ตลอดจนพันธมิตรใหม่ ๆ เพื่อการขยายผลโครงการอย่างต่อเนื่อง อย่างที่บ้านดอยเวียง อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ 3 โดย GULF ได้ผนึกกำลังกับทั้ง AIS และ THAICOM ในการติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าให้แก่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวงบ้านดอยเวียง พร้อมทั้งเป็นไฟฟ้าสำหรับระบบสื่อสารผ่านสัญญาณอินเตอร์เน็ตและสัญญาณดาวเทียม THAICOM ทำให้เด็ก ๆ และเยาวชนในศูนย์การเรียนรู้ฯ เข้าถึงองค์ความรู้ใหม่ ๆ สร้างโอกาสด้านการศึกษา ขณะเดียวกันยังเชื่อมต่อระบบเครือข่ายสัญญาณ AIS ทำให้ผู้คนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ เข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล และบริการโครงสร้างขั้นพื้นฐาน
ไม่เพียงเท่านี้ด้วยจุดเด่นของบ้านดอยเวียงที่มี “กาแฟ” ซึ่งเป็นกาแฟที่ปลูกใต้ร่มเงาของไม้ใหญ่ เป็นวิถีเกื้อกูลกันระหว่างคนกับป่า ที่ปลูกกาแฟและดูแลผืนป่าต้นน้ำแห่งนี้ไปพร้อมกัน แต่ที่ผ่านมาชาวบ้านส่วนใหญ่จะขายกาแฟที่เป็นผลเชอรี่ ไม่มีการแปรรูปใด ๆ ราคาขายจึงขึ้นอยู่กับพ่อค้าคนกลาง GULF จึงได้ก่อสร้างโรงเรือนสำหรับการสีกาแฟที่ติดตั้งระบบไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมจัดซื้อเครื่องสีกาแฟมอบให้แก่ชุมชน เพื่อให้ชาวบ้านสามารถแปรรูปกาแฟ และต่อยอดไปสู่การสร้างแบรนด์กาแฟของชุมชน ซึ่งเป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ที่มั่นคง ที่สำคัญ GULF ยังส่งเสริมให้มีการรวมกลุ่มของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ เพื่อร่วมกันดูแลและรักษาโรงเรือน เครื่องสีกาแฟ ตลอดจนแผงโซลาร์เซลล์ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากความร่วมมือของ 3 องค์กร ทั้ง GULF, AIS และ THAICOM ในครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่การเข้ามาติดตั้งและส่งมอบโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ และเครือข่ายสัญญาณดิจิทัล ที่ทำให้ผู้คนในพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน ลดความเหลื่อมล้ำเท่านั้น แต่เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ทำให้ทุกภาคส่วนเติบโตไปด้วยกัน ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยสะท้อนความสำเร็จของโครงการนี้ คือ การที่หน่วยงานท้องถิ่นและประชาชนเห็นความสำคัญของการอยู่ร่วมกับป่า โดยได้ริเริ่มการจัดทำบันทึกความร่วมมือในการดูแลรักษาป่าให้ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย
นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์และงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า การทำให้ทุกพื้นที่ของประเทศไทยสามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเป็นหนึ่งในภารกิจที่ AIS ให้ความสำคัญมาโดยตลอด เพราะเราเชื่อว่าเมื่อผู้คนสามารถติดต่อสื่อสาร เข้าถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ต และเชื่อมโยงถึงกันได้ นั่นคือ “โอกาส” ที่จะตามมาอย่างมหาศาลในหลายมิติ ทั้งการศึกษา รับรู้ข่าวสาร ที่จะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลให้ดียิ่งขึ้น จึงเป็นที่มาของการสานต่อโครงการฯในปีที่ 2 ซึ่งเราดึงศักยภาพของบริษัทในเครือ ไม่ว่าจะเป็น AIS ACADEMY ในการต่อยอดการเรียนรู้ที่ไร้ขอบเขตด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและแพลตฟอร์มห้องสมุดดิจิทัล ให้เยาวชนในพื้นที่ดังกล่าวได้เข้าถึงความรู้อย่างเท่าเทียม รวมถึงเสริมกำลังด้วยอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ของ AIS 3BB FIBRE3 ไปยังพื้นที่ที่เป็นจุดศูนย์กลางของชุมชน เช่น โรงเรียน ศูนย์การเรียนรู้ หรือจุดบริการสาธารณสุข เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานโดยเฉพาะการสื่อสาร นอกจากนี้ ยังมี GULF ที่ช่วยติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ และ THAICOM ที่ให้การสนับสนุนสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านดาวเทียมและโซลูชันด้านเทคโนโลยีอวกาศในพื้นที่ห่างไกล และเมื่อนำมาผนวกกับความร่วมมือจาก สวพส. ในการคัดเลือกและลงพื้นที่ต่าง ๆ จึงทำให้โครงการดังกล่าว ขยายความสำเร็จไปสู่พื้นที่ต่างๆ ได้อย่างตรงจุด อีกทั้งยังช่วยเปิดโลกทางการศึกษา การค้าขาย และสร้างประโยชน์ให้กับคนในชุมชมได้นำไปต่อยอดสู่อาชีพที่มั่นคงและสร้างความฝันที่เป็นจริงได้
นอกจากการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานแล้ว โครงการดังกล่าวยังได้ดำเนินการประเมินผลตอบแทนทางสังคมอย่างเป็นรูปธรรมผ่านงานวิจัยภายใต้กรอบ Social Return on Investment (SROI) ซึ่งชี้ให้เห็นถึงคุณค่าและมูลค่าที่ส่งคืนสู่ชุมชน เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมได้อย่างแท้จริง โดยผลลัพธ์ของงานวิจัยจะถูกนำไปใช้ขับเคลื่อนการพัฒนาร่วมกันเฉพาะในแต่ละพื้นที่ห่างไกลได้อย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรมในมิติต่างๆ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ Green Energy Green Network for THAIs ที่นอกจากลงทุนด้านพลังงานสะอาดแล้ว ยังปูรากฐาน “เครือข่ายสร้างโอกาส” ที่เติบโตบนพื้นฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทั้งคน ชุมชน และสิ่งแวดล้อมด้วย
นายเอกชัย ภัคดุรงค์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกลยุทธ์องค์กร บมจ.ไทยคม กล่าวว่า “THAICOM มีปณิธานสำคัญในการแบ่งปันโอกาสทางการสื่อสารให้เกิดความทั่วถึงและเท่าเทียม และไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดีขึ้นในหลาย ๆ ด้าน THAICOM จึงให้การสนับสนุนไม่เพียงเฉพาะการติดตั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านดาวเทียมเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมในด้านเทคโนโลยีอวกาศอีกด้วย ทำให้คนในชุมชนนำสิ่งเหล่านี้มาสร้างสรรค์และต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้หลายด้าน อาทิ การศึกษาในรูปแบบดิจิทัล การส่งเสริมอาชีพออนไลน์ การแพทย์ทางไกล และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นต้น และเพื่อเป็นการขยายโครงสร้างพื้นฐานของคนในชุมชนให้ก้าวไปอีกขั้น เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ผนึกกำลังกับ AIS และ GULF กับการสนับสนุนสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่มีเสถียรภาพควบคู่ไปกับพลังงานสะอาดที่ยั่งยืน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับคนในชุมชนต่อไป”
“ด้วยพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งโครงข่ายอัจฉริยะ – พลังงานสะอาด – ภาครัฐอย่างเต็มกำลังนี้ จะทำให้ภารกิจ Green Energy Green Network for THAIs สามารถเดินหน้าสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมเป็นต้นแบบของภาคธุรกิจไทยในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสร้างโอกาส ลดความเลื่อมล้ำ นำพาผู้คน เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว” นางสายชล กล่าวเสริม