หมอรุกกลับ ปกป้องมติแพทยสภา ทุกอย่างถูกต้องตาม กม.
เวลานี้มีความเคลื่อนไหวหนึ่งที่น่าสนใจ คือ การมีขบวนการพยายามดิสเครดิตมติของคณะกรรมการแพทยสภาในรูปแบบโดยเฉพาะการแสดงท่าทีในเชิงต่อต้านจาก 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงการมีข้ออ้างว่าแพทยสภาส่งข้อมูลให้กับคณะทำงานของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นฐานะสภานายกพิเศษ ไม่ครบ ด้วยเหตุนี้ทำให้เริ่มมีการออกปกป้องมติของแพทยสภา
ผศ.นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ แพทย์สาขานิติเวชวิทยาภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หนึ่งในกรรมการแพทยสภา โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์ แพทยสภาส่งเอกสารไม่ครบ ว่า ขออธิบายสักเรื่องหนึ่งที่เป็นข่าวอยู่ช่วงนี้ แล้วทำให้คนเข้าใจผิดแพทยสภา แพทยสภาส่งเอกสารให้สภานายกพิเศษไม่ครบ?
"คำตอบ ไม่จริง แพทยสภาได้ส่งเอกสารเกี่ยวกับมติแพทยสภาที่รวมขั้นตอนตั้งแต่ผู้ร้องทำการร้อง หลักฐานต่างๆ ที่รวบรวมมาได้ ความเห็นอนุกรรมการจริยธรรม ความเห็นอนุกรรมการสอบสวน ความเห็นอนุกรรมการกลั่นกรอง และความเห็นคณะกรรมการแพทยสภาเอง มีจำนวน 95 หน้า รวมทั้งยังให้เอกสารหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับคดี เช่น เวชระเบียน คำให้การ อีก 1500 กว่าหน้า ดังนั้นให้ข้อมูลไปครบแล้ว แต่ทีมที่แต่งตั้งโดยสภานายกพิเศษกลับขอรายชื่ออนุกรรมการกลั่นกรอง กับรายงานการประชุมของอนุกรรมการกลั่นกรอง เพิ่มเติม แพทยสภาจึงไม่ให้ เพราะไม่เกี่ยวกับส่วนของมติกรรมการแพทยสภา และไม่เข้าใจเหตุผลว่าต้องการไปเพื่ออะไร เพราะก็มีความเห็นของอนุกรรมการกลั่นกรองระบุในมติ 95 หน้าที่ส่งให้ไปแล้ว"
"อนุกรรมการกลั่นกรอง ไม่มีอยู่ใน พรบ. วิชาชีพเวชกรรม แต่มีข้อบังคับแพทยสภาให้มีขึ้นมา เพื่อช่วยแพทยสภาในการตรวจสอบคดี ก่อนที่แพทยสภาจะมีมติ แต่สุดท้ายแพทยสภาก็เป็นผู้ชี้ขาดอยู่ดี แล้วเอาจริงๆ ถ้าคิดถึงเรื่องการมีมติลงโทษหรือไม่ลงโทษแพทย์ที่ถูกร้อง ควรเน้นที่ความเห็นของแพทยสภากับหลักฐานในคดีที่แพทยสภาใช้ประกอบความเห็นเท่านั้น เพราะแพทยสภาเป็นผู้ชี้ขาด ไม่ว่าอนุกรรมการไหนจะมีความเห็นอย่างไรก็ตาม ดังนั้น ถ้าท้วงติงหรือขอข้อมูลเพิ่มเติม ควรดูถึงหรือขอหลักฐานที่แพทยสภาใช้ในการตัดสิน มากกว่ามาบอกว่า แพทยสภาส่งเอกสารไม่ครบ"
ด้าน ศิษย์เก่าแพทย์ศิริราชรุ่น 82 -รามาธิบดีรุ่น 7 (พศ.2514-2519) จำนวน 73 ราย ออกแถลงการณ์ระบุว่า มติของแพทยสภา: การพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา เมื่อ 8 พ.ค. 2568 ได้มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน ในกรณีประกอบวิชาชีพเวชกรรมไม่ได้มาตรฐาน และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 ท่าน ในกรณีให้ข้อมูลหรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง
"พวกเราสมาชิกแพทยสภา ขอให้กำลังใจแพทยสภา ในการยืนยันมติเดิมของแพทยสภา ในวันที่ 8 พ.ค. 2568 โดยยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นกิจที่หนึ่ง และจะไม่ยินยอมให้อำนาจอื่นที่ไม่มีจริยธรรมมายับยั้ง หรือแสวงหาประโยชน์ส่วนตนเด็ดขาด"