เปิดลับ ขั้วน้ำเงิน เร่งสปีด โหวต ป.ป.ช.3 ชื่อ ส.ว.อิสระกระโดดขวาง
เริ่มตั้งแต่วันนี้ จันทร์ที่ 19 พ.ค.ไปจนถึงวันพุธที่ 21 พ.ค.ที่สมาชิกวุฒิสภา 55 คนจะต้องไปชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากับ อนุกรรมการไต่สวนของสำนักงานกกต.ที่รับผิดชอบสำนวนคดีสอบสวนการเลือกสว.
จากนั้น อนุกรรมการไต่สวนฯที่มีเจ้าหน้าที่ของดีเอสไอ นั่งอยู่ด้วย ต้องประชุมและลงมติว่าจะกล่าวโทษเอาผิดสว.ที่ถูกเรียกไปชี้แจง
หรือไม่ โดยหากมีการเอาผิด ก็ต้องส่งไปให้ กกต.กลางพิจารณาต่อไป ว่า จะเอาผิดยื่นศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เพื่อตัดสินให้พ้นจากการเป็นสว.หรือไม่
ขณะที่ การสอบสวนของดีเอสไอ ก็ทำไปแบบคู่ขนาน แต่ของดีเอสไอ เน้นไปเรื่องคดีอาญา ในความผิดฐานฟอกเงินและอั้งยี่ และตอนนี้คงเร่งให้เร็วขึ้น เพราะถือว่า ดีเอสไอกับสว.สีน้ำเงิน-การเมืองขั้วน้ำเงิน แตกหักกันแล้ว หลังสว.ยื่นข้อมูลเพิ่มเติมให้ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หยุดปฏิบัติหน้าที่คุมดีเอสไอและเป็นรองประธานบอร์ดคดีพิเศษ
จุดนี้อาจทำให้พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอลุยเต็มสูบ ปิดคดีสว.สีน้ำเงิน ให้ได้โดยเร็ว ดังนั้นคดีฮั้วสว.ใกล้ถึงจุดไคลแมกซ์เต็มที
ขณะที่คดีกำลังดำเนินไป เรื่องนี้ไม่เพียงทำให้ กลายเป็นศึกระหว่าง”สว.สีน้ำเงิน-ทวีและดีเอสไอ”เท่านั้น แต่ทำให้ “สว.กลุ่มเสียงข้างน้อย”ที่เรียกตัวเองว่าสว.อิสระที่มีประมาณ 30-35 เสียง ใช้จังหวะ ระหว่าง สว.สีน้ำเงิน ที่คุมเสียงข้างมากในสภาสูง ปะทะกับทวี -ดีเอสไอ ขู่ล่าชื่อสว.ให้ครบ 20 คนเพื่อส่งคำร้องให้ศาลรธน.วินิจฉัยเป็นกรณีเร่งด่วน
สั่งให้ สว.ทั้งหมด หยุดปฏิบัติหน้าที่ในส่วนของการตั้งกรรมาธิการสอบประวัติและความประพฤติของผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต.หนึ่งคน-ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญสองคน และการโหวตเห็นชอบป.ป.ช.ใหม่สามคน ในวันศุกร์ที่ 30 พ.ค.นี้ ที่เป็นการประชุมในช่วงที่มีการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญระหว่าง 28-30 พ.ค.
โดยจะอ้างเหตุว่า สว.หลายคนตอนนี้กำลังโดนทั้งกกต.และดีเอสไอ สอบสวน-ไต่สวนว่าเข้ามาเป็นสว.โดยมิชอบ จึงไม่มีความชอบธรรมที่จะไปใช้อำนาจตั้งกมธ.สอบประวัติฯองค์กรอื่น รวมถึงที่สำคัญจะโหวต”ป.ป.ช.ใหม่สามคน” วันที่ 30 พ.ค.
สว.กลุ่มอิสระ เลยขอให้ศาลรธน.สั่งให้สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวไว้ก่อน จนกว่าคดีจะสิ้นสุดในชั้นกกต.และดีเอสไอ
ปฏิบัติการของสว.กลุ่มอิสระ ต้องเร่งเครื่องล่าชื่อและยื่นคำร้องส่งให้ มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เบอร์หนึ่งของสว.สีน้ำเงินที่ติดร่างแห โดนอนุกกต.สอบสวนเช่นกัน จากนั้น ประธานวุฒิสภา ก็ต้องส่งต่อให้ ศาลรธน.พิจารณาว่าจะมีคำสั่งให้สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่การเลือกองค์กรอิสระหรือไม่ ภายในวันพุธนี้ 21 พ.ค. ที่จะมีการประชุมตุลาการศาลรธน.ประจำสัปดาห์ แต่หากไม่ทัน ก็ต้องรอเข้าที่ประชุมพุธหน้า 28 พ.ค.
อย่างไรก็ตาม เรื่องขวางตั้งกมธ.สอบประวัติฯ บุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นกกต.และตุลาการศาลรธน. ไม่ใช่เป้าหมายใหญ่ที่สว.กลุ่มนี้ออกมาเคลื่อนไหว แต่ไฮไลท์สำคัญ มันอยู่ที่ การประชุมลับเพื่อโพวต ว่าจะ”เห็นชอบ-ไม่เห็นชอบ” รายชื่อ 3 ว่าที่ป.ป.ช.ที่ผ่านการเลือกมาจากกรรมการสรรหา คือ
1/ นายประกอบ ลีละเปสนันท์ รองประธานศาลฎีกา ที่ถูกเสนอชื่อเป็น ป.ป.ช.คนใหม่ แทน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ อดีตประธานป.ป.ช.
2/ เพียรศักดิ์ สมบัติทอง อธิบดีอัยการภาค 2 ที่จะมาแทนวิทยา อาคมพิทักษ์ และ 3/นายประจวบ ตันตินนท์ ผู้สอบบัญชีอิสระ แทนนางสุวณา สุวรรณจูฑะ ที่อยู่ครบวาระอายุ 70 ปี
ข่าวว่า การโหวต 3 ป.ป.ช.ใหม่วันศุกร์ที่ 30พ.ค.นี่แหละ ที่ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” และพรรคเพื่อไทย หวั่นใจ เพราะหากป.ป.ช.ใหม่ เป็นคนของสีน้ำเงิน-บ้านบุรีรัมย์หมดทั้งสามคน เท่ากับ ขั้วสีน้ำเงิน ก็คุมเสียงป.ป.ช.ได้เพิ่มอีกสามเสียง หลังลือกันว่า ตอนนี้สว.สีน้ำเงิน ผนึกกับบ้านป่ารอยต่อฯ กลุ่มขั้วอำนาจเก่า คุมเสียงป.ป.ช.ไว้แล้ว 3 เสียง หากได้เพิ่มมาอีก 3 เสียง ก็เท่ากับมีเสียงในหน้าตักร่วมๆ 5-6 เสียง แค่นี้ ก็คุมทิศทางการไต่สวน-ลงมติของที่ประชุมใหญ่ป.ป.ช.ได้เลยเบ็ดเสร็จ
ซึ่งมีข่าวว่า ใครบางคน คนในสามชื่อ ที่ได้รับเลือกและถูกเสนอชื่อให้เป็นป.ป.ช.ใหม่สามคน แอบไปนั่งกินกาแฟที่โรงแรมดัง ย่านซอยรางน้ำ เซฟเฮ้าส์ใหญ่ของเครือข่ายการเมืองสีน้ำเงิน เพื่อแนะนำตัวกันไว้แล้ว
ตรงนี้แหละที่ บ้านจันทร์ส่องหล้าและเพื่อไทยหนักใจ เพราะหากขั้วสีน้ำเงิน-บ้านบุรีรัมย์คุมป.ป.ช.ได้ นั่นเท่ากับว่า ทำให้อาจมีผลต่อ”คดีชั้น 14”ของทักษิณ ชินวัตร ที่มีการตั้งอนุกรรมการไต่สวนฯไว้แล้ว ที่อาจถูกขั้วสีน้ำเงิน นำมาต่อรองทางการเมืองได้ รวมถึงคดีที่ 92 สว.สีน้ำเงินร่วมกันลงชื่อยื่นป.ป.ช.ให้ไต่สวนเอาผิด พ.ต.อ.ทวี กับพ.ต.ต.ยุทธนา อธิบดีดีเอสไอ ที่ยื่นไปแล้วเกือบสองเดือน ฝ่ายขั้วสีน้ำเงิน ก็อาจประสานป.ป.ช.ให้เร่งรัดคดี เอาผิดทั้ง ทักษิณ คดีชั้น 14 และพ.ต.อ.ทวี กับพ.ต.ต.ยุทธนา ได้ เพื่อเอาคืน
หากขั้วสีน้ำเงินมี ป.ป.ช.เป็นดาบการเมือง ไว้จัดการกับฝ่ายที่อยู่ตรงข้าม
คือสิ่งที่ จันทร์ส่องหล้าและพ.ต.อ.ทวี กำลังวางแผนแก้เกมอยู่
ดังนั้น การที่ สว.กลุ่มอิสระ เคลื่อนไหวล่ารายชื่อ 20สว.ส่งศาลรธน. ใน1-2 วันนี้ หากว่า ล่าชื่อครบสำเร็จ มันก็เลยเป็นเรื่องที่ ทักษิณ-พ.ต.อ.ทวีและดีเอสไอ เอาใจช่วยอย่างเต็มที่
เพราะหากศาลรธน.สั่งให้สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่การโหวตเลือกองค์กรอิสระและองค์กรศาลอย่างเช่น ตุลาการศาลรธน.ไว้ก่อน
ผลก็คือทำให้ ฝ่ายทักษิณ-พ.ต.อ.ทวี -ดีเอสไอ มีเวลาพอพักหายใจได้บ้าง ในการเดินหน้าปิดคดีฮั้วสว.เพื่อจัดการกับสว.สีน้ำเงิน โดยไม่ต้องกังวลคดีของตัวเองที่ตึกป.ป.ช. ที่จะถูกป.ป.ช.ไล่เช็คบิล
แต่คำถามก็คือ หลังสว.ล่ารายชื่อได้ครบตามจำนวน “เฮียหมง มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ”จะดึงเชง ส่งคำร้องไปศาลรธน.ล่าช้าหรือไม่ แต่ดูแล้วหากส่งช้า สว.กลุ่มอิสระ คงออกมาโวยวายตลาดแตกแน่ ถ้าประธานวุฒิสภา ดึงเชง ส่งช้า
ถ้าไม่มีปัญหาก็ต้องดูว่า เมื่อส่งไปแล้ว ศาลรธน.จะรับคำร้องเรื่องนี้ไว้วินิจฉัยหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องใหม่ ไม่เคยมีมาก่อน ที่สว.ด้วยกันเอง มายื่นเรื่องทำนองนี้
ซึ่งหากรับ แล้วศาลรธน.จะมีคำสั่งออกมาก่อนวันที่ 30พ.ค.นี้หรือไม่ และคำสั่งนั้น จะสั่งให้ สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่การโหวตเลือกองค์กรอิสระและองค์กรอื่นๆเช่นกรรมการป.ป.ช และตุลาการศาลรธน.หรือไม่
เรียกได้ว่า เป็นการชิงไหวชิงพริบการเมืองระหว่าง บ้านบุรีรัมย์-สว.สีน้ำเงิน กับฝ่ายทักษิณ-พ.ต.อ.ทวี-ดีเอสไอ และตอนนี้มีสว.อิสระ เข้ามาแทรกเป็นตัวแปร จากปมคดีฮั้วสว.ที่บานปลาย ออกไปเรื่อยๆ