xs
xsm
sm
md
lg

สถิติพ่อเลี้ยงหื่นพุ่งสูง เตือนสติคนเป็นแม่ อย่ารักชายอื่นกว่าลูก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สถิติพ่อเลี้ยงหื่นพุ่งสูง เตือนสติคนเป็นแม่ อย่ารักชายอื่นกว่าลูก

ในวันนี้ข่าวโฉดชั่วที่สร้างความสะเทือนใจให้กับสังคมจากพฤติกรรมและเหยื่อซึ่งเป็น “ลูกเลี้ยง” ที่ถูกกระทำจากผู้ที่อยู่ในฐานะ “พ่อเลี้ยง” เพิ่มมากขึ้น รุนแรงมากขึ้น ชนิดไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้

โดยเฉพาะในเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีการเปิดโปงและแจ้งความดำเนินคดีกับพ่อเลี้ยงที่ล่วงละเมิดข่มขืนลูกเลี้ยงถึง 3 ราย

เริ่มจากวันที่ 9 เมษายน พฤติกรรมโฉดของพ่อเลี้ยงถูกเปิดโปง เมื่อนายสายัณห์ สุขจันทร์ ประธานศูนย์พิทักษ์ธรรม และเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ ได้นำตัวเด็กหญิงเอ อายุ 11 ปี เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ว่าเด็กหญิงเอถูกนายธนกฤต อายุ 60 ปี ข่มขืนกระทำชำเราที่บ้านพัก ในเขตอำเภอเหนือคลองจังหวัดกระบี่

แต่เด็กหญิงเอไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง แม้แต่มารดาเนื่องจากผู้เป็นแม่แท้ ๆ เชื่อพ่อเลี้ยงมากกว่าลูกของตน จนกระทั่งพี่สาวสังเกตเห็นอาการผิดปกติ จึงได้คาดคั้นกับน้องสาวในวันที่รับตัวไปอยู่ที่บ้านพ่อแท้ๆ จึงได้ทราบความจริง และตัดสินใจขอความช่วยเหลือจนนำไปสู่การแจ้งความดังกล่าว

ต่อมาในวันที่ 11 เมษายน มีการเปิดโปงพ่อเลี้ยงล่วงละเมิดข่มขืนลูกเลี้ยงที่จังหวัด นครศรีธรรมราช โดยเมื่อค่ำวัน ที่ 11 เมษายน เจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.ถ้ำพรรณรา จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากหญิงสาวคนหนึ่งว่าเพื่อนของเธอ อายุ 18 ปี ส่งข้อความมาขอความช่วยเหลือทาง Facebook ระบุว่า ถูกพ่อเลี้ยงชื่อนายชัยณรงค์ อายุ 40 ปี นำตัวไปกักขังและข่มขืนที่บ้านพักในสวนยาง เขตอำเภอถ้ำพรรณรา จังหวัดนครศรีธรรมราช

เมื่อกำลังตำรวจไปถึงบ้านหลังดังกล่าว พบประตูปิดเงียบ จึงได้ตะโกนเรียกคนในบ้านแต่ไม่มีใครตอบ เจ้าหน้าที่จึงตัดสินบุกเข้าไปในห้องนอนและสามารถจับกุมนายชัยณรงค์ พ่อเลี้ยงหื่น พร้อมทั้งช่วยเหลือลูกเลี้ยงสาววัย 18 ปี ออกมาได้อย่างปลอดภัย โดยนายชัยณรงค์ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

หลังจากนั้นเพียงหนึ่งสัปดาห์ ในวันที่ 23 เมษายน ข่าวพ่อเลี้ยงล่วงละเมิดลูกเลี้ยงก็บังเกิดขึ้นอีก โดยครั้งนี้เหตุเกิดที่จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้ประสานกับ สภ.เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ให้ตำรวจฝ่ายสืบสวนติดตามจับกุมพ่อเลี้ยงหื่น ข่มขืนลูกเลี้ยง 2 คน เป็นเด็กหญิงสองพี่น้อง อายุ 11 ขวบ และ 12 ขวบ โดยเด็กหญิงทั้ง 2 คน ต้องทนทุกข์ทรมานถูกพ่อเลี้ยงขืนใจอย่างต่อเนื่อง

แต่เมื่อเด็กเล่าให้มารดาฟังผู้เป็นแม่กลับไม่ให้ความช่วยเหลือ แถมยังบังคับไม่ให้ลูกบอกใคร จนสองพี่น้องทนไม่ไหวร่ำไห้เล่าให้ยายฟัง จนนำไปสู่การร้องขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิปวีณาฯ

ทั้งนี้ผู้เป็นยายเปิดเผยว่า แม่กับพ่อเลี้ยงทำอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวตอนกลางคืน ซึ่งหลานสาวคนโตอายุ 12 ขวบ ถูกพ่อเลี้ยงกระทำตั้งแต่อายุ 9 ขวบ โดยครั้งแรกเหตุเกิดระหว่างที่ขายก๋วยเตี๋ยวตอนกลางคืน หลานง่วงนอน แม่จึงให้พ่อเลี้ยงพาเข้ามาส่งที่บ้าน แต่พ่อเลี้ยงได้ข่มขืนกระทำชำเราเมื่อมาถึงบ้าน

ต่อมาเมื่อแม่ขายของกลับมาถึงบ้าน หลานได้บอกแม่ว่าถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน แต่แม่กลับบอกให้เงียบไว้ห้ามบอกใคร หลังจากนั้นหลานก็ถูกพ่อเลี้ยงกระทำเรื่อยมา
ส่วนหลานคนเล็กถูกพ่อเลี้ยงล่วงละเมิดทางเพศเป็นประจำโดยการกอดจูบ จับอวัยวะเพศและหน้าอก การกระทำของพ่อเลี้ยงทำให้หลานทั้ง 2 คน ต้องทนทุกข์ทรมานเหมือนตกนรก เพราะบอกแม่แต่แม่ก็ไม่ช่วย ซึ่งหลังการจับกุมพ่อเลี้ยงชื่อนายเอ็มอายุ 40 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะขยายผลดำเนินคดีกับแม่ในข้อหาร่วมกันกระทำความผิดฐานล่วงละเมิดต่อเด็ก

ล่าสุดวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 พฤติกรรมพ่อเลี้ยงโฉดรายล่าสุดถูกเปิดเผย โดย “กันจอมพลัง” พร้อมทีมงานพาแม่พร้อมลูกสาวเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพ่อเลี้ยงหื่นล่วงละเมิดลูกเลี้ยงต่อเนื่องถึง 4 ปี ตั้งแต่อายุ 15 ปี จนถึง 19 ปี ซ้ำยังขู่ฆ่าหากขัดขืนและจะปล่อยคลิปวีดีโอของลูกเลี้ยงเพื่อแบล็คเมล์ที่เลวร้ายที่สุดคือ พ่อเลี้ยงยังเคยใช้กำลังข่มขู่ให้มีเพศสัมพันธ์พร้อมกันทั้งแม่ลูก แต่ลูกสาวไม่ยอมจึงถูกพ่อเลี้ยงบีบคอแต่ต่อสู้จนรอดมาได้

ทั้งนี้น้อง บี (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นลูกสาวเปิดเผยว่าก่อนถูกข่มขืนครั้งแรก พ่อเลี้ยงโทรวีดีโอคอลมาหาตนเอง แล้วช่วยเหลือตัวเองให้ดู ซึ่งตนเองตกใจจึงได้ตัดสายไป แต่เนื่องจากตนกับแม่ไม่มีที่ไป จึงจำเป็นต้องอาศัยอยู่บ้านเดียวกับพ่อเลี้ยง ในที่สุดก็ถูกข่มขืนต่อเนื่องมานานถึง 4 ปี โดยพ่อเลี้ยงได้ข่มขู่เอาไว้ว่าหากบอกใครก็จะไม่ดูแลไม่ส่งเสียเลี้ยงดูแม่และตนเอง

และเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา พ่อเลี้ยงบุกเข้ามาในห้อง หวังที่จะทำอนาจารต่อหน้าผู้เป็นแม่และต้องการมีเพศสัมพันธ์พร้อมกัน 3 คน ตนและแม่ทนพฤติกรรมของพ่อเลี้ยงไม่ไหวจึงตัดสินใจหลบหนีออกมา ทั้งที่เหลือเงินติดตัวเพียง 100 บาท จนนำไปสู่การแจ้งความที่ สน.ตลิ่งชัน ดังกล่าว

จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัด เห็นได้อย่างชัดเจนว่า สถิติการกระทำชั่วของผู้ที่อยู่ในฐานะพ่อเลี้ยงเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยยะที่สะท้อนถึงสถาบันครอบครัว และความเป็นไปในสังคมไทยว่า

คนที่อยู่ในฐานะพ่อเลี้ยง อาจไม่ใช่คนที่สมควรไว้ใจได้เหมือนเช่นอดีตที่ผ่านมาในยุคที่เป็นครอบครัวของคนรุ่นเก่า ซึ่งแม้จะเป็นครอบครัวที่มี่ทั้งพ่อเลี้ยงและลูกเลี้ยงอยู่ร่วมกัน แต่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่แตกต่างจากสังคมปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง เรื่องโฉดชั่วจึงแทบไม่เคยเกิดขึ้น

ไม่เหมือนกับในยุคโซเชียลปัจจุบันที่พ่อเลี้ยงโฉดชั่วกระจายตัวเป็นภัยเงียบอยู่ในหลายครอบครัวทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ดังนั้นเรื่องจริงเหล่านี้จึงเป็นบทเรียนราคาแพงที่ตอกย้ำให้คนเป็นแม่ได้ตระหนักและย้ำเตือนตนเองเสมอว่า

ในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่มีใครที่จะรักลูกของเราเท่ากับตัวเราเอง
และเราต้องเชื่อคำบอกเล่าจากลูกของเรามากกว่าผู้เป็นพ่อเลี้ยงของลูก
กำลังโหลดความคิดเห็น