ปมร้อนข่าวลึก : เปิดพฤติกรรมฮั้ว ส.ว.ล็อคผลเบ็ดเสร็จ AI พบเส้นเงินชัดเจน
การเดินหน้าทำงานตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลของกระบวนการในการมาซึ่งส.ว.โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ถือว่ากำลังสู่หลักกิโลเมตรที่สำคัญ ภายหลังได้เดินแจ้งให้ส.ว.กว่า 50 คนเข้ามาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ซึ่งในการตรวจสอบเชิงลึกนั้น ผ่านระบบ Super Computer และใช้เทคโนโลยี AI ขั้นสูง ปรากฎว่าได้พบหลักฐานเชิงประจักษ์ ความเชื่อมโยงทั้งเครือข่าย
โดยพฤติการณ์ที่ค้นพบเริ่มตั้งแต่ 1. กลุ่มฮั้วที่เดินเข้าเมืองทองธานี กว่า 900 คน มีเส้นเงิน ประวัติการรับโอนเงิน ในช่วงเดือนที่มีการเลือกตั้ง พบเส้นเงิน 2. ข้อมูลโทรศัพท์ วันเวลา โลเคชั่น ที่สมาชิกกลุ่มฮั้วใช้ติดต่อกัน ในเดือนเลือกตั้งก็ว่า 3 หมื่นรายการ ที่สัมพันธ์กับเส้นเงิน
3. พบตำแหน่งของโทรศัพท์ที่เผลอเปิดเครื่องไว้ ในคืนก่อนวันเลือกตั้ง ทำให้รู้ว่า ใครพักในโรงแรมเดียวกันที่ไหนบ้าง 4. ใช้ AI วิเคราะห์ภาพ จากกล้องวงจรปิดของ กกต. ในระหว่างการเลือกตั้ง นับรวมกันหลายพันชั่วโมง ชนิดเฟรมต่อเฟรม ด้วยผู้เชี่ยวชาญ จากต่างประเทศ, Super Computer และเทคโนโลยี AI ขั้นสูง 5. สืบพบ กลุ่มฮั้วราว 900 คน ใส่เสื้อ ทรงผม แว่นแบบไหน ในวันเลือกตั้งระดับประเทศ จากภาพวิดิโอ ของสื่่อมวลชน AI พบ ใครเดินทางมารถคันเดียวกัน ใครถ่ายรูปร่วมกัน ใครพูดคุยกับใคร ด้วยเหตุนี้เองทำให้ดีเอสไอไม่จำเป็นต้องขอ กกต เปิดหีบอีกต่อไป เพราะ Super AI คัดเฟรมที่มีการนับคะแนนทีละใบ ทุกคูหา ทั้งเช้าบ่าย และพบ การกรอกเลข ตรงตามโพยที่ทำตก ที่สื่อเผยแพร่ก่อนหน้า
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่า การมีหมายเรียกส.ว.มาชี้แจง เป็นเอกสารแจ้งข้อกล่าวหา เป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของ กกต.ที่ตั้งขึ้นเป็นพิเศษ คือ คณะที่ 26 ที่มี ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาธิการ กกต.เป็นประธานและขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ดีเอสไอมาช่วยด้วยเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และเมื่อตรวจสอบพยานหลักฐานเบื้องต้นแล้วพบว่าสามารถนำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหาได้ จึงได้มีการดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาด้วยการทำหนังสือนัดหมายกำหนดเวลา ให้บุคคล 53 คนตามข่าวให้มารับทราบข้อกล่าวหา และให้โอกาสชี้แจง แสดงหลักฐานของตัวเอง
ส่วนการแจ้งให้มาชี้แจงสามารถทำได้3ช่องทาง คือ ยื่นหนังสือทางไปรษณีย์หรือคณะกรรมการฯไปยื่นด้วยตัวเองแล ะติดหมายเรียกไว้หน้าบ้าน ส่วนกรณีไม่พบเจ้าตัวซึ่ง สว.ที่ได้รับหมายเรียกต้องเข้าไปชี้แจงกับคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนคณะที่ 26ที่สำนักงานกกต.
"ไม่ใช่ มีความผิด แต่มีพฤติการณ์ที่อาจจะเป็น การฝ่าฝืนจะวินิจฉัยว่าผิดเลยไม่ได้เพราะหลักฐานทางวิทยา ศาสตร์และพยานบุคคลที่มีทำให้เราเชื่อ แต่การตัดสินว่าใครผิดหรือไม่ผิด เป็นหน้าที่ศาล" นายอิทธิพร ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวที่ถามว่า ในหมายเรียกระบุชัดเจนว่า ส.ว.มีความผิดเรื่องฮั้ว