xs
xsm
sm
md
lg

'ทักษิณ' อิสรภาพสั่นคลอน ใกล้ถึงเวลาต้องเลือก 'หนี' หรือ 'สู้'

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



'ทักษิณ' อิสรภาพสั่นคลอน ใกล้ถึงเวลาต้องเลือก 'หนี' หรือ 'สู้'

กลายเป็นเรื่องใหญ่และเรื่องร้อนขึ้นมาทันที ภายหลังแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 คน ที่ให้ข้อมูลรักษา 'ทักษิณ ชินวัตร' ไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะไม่พบภาวะวิกฤตจริง โดยในเรื่องนี้ ศ.เกียรติคุณ ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา อธิบายถึงมติที่ออกมาว่า

การมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน แบ่งเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพเวชกรรมไม่ได้มาตรฐาน โดยเป็นความผิดไม่ได้รุนแรง และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูลหรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง

คำอธิบายจากนพ.ประสิทธิ์ บอกว่า"ขณะนี้ข้อมูลที่เราได้รับ ไม่ได้มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจน ว่ามีภาวะวิกฤตเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้เรามีการลงโทษ เป็นการพักใช้ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งเป็นการลงโทษขั้นรุนแรง วันนี้ทำไมเราไม่สามารถบอกได้ว่าพักใช้ใบอนุญาตนานเท่าไหร่ เพราะจะต้องผ่านความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขก่อน”

มติที่เกิดขึ้น ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะจะเป็นสารตั้งต้นไปยังอีกหลายคดีที่อยู่ในกระบวนการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือปปช.ที่พิจารณาในเรื่องความผิดอาญา และวินัยร้ายแรง

รวมไปถึงศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งได้รับเรื่องกรณีที่ทักษิณได้รับการรักษาตัวนอกเรือนจำไว้พิจารณาและเตรียมนัดไต่สวนทุกฝ่ายกลางเดือนมิถุนายน

แน่นอนว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จัดว่าปลายทางของคดีนี้ คือ ทักษิณจะได้อยู่บ้านหรือกลับเข้าเรือนจำไปรับโทษที่ควรต้องได้รับอีกประมาณ 1 ปี ซึ่งมติของแพทยสภาในครั้งนี้ จะเป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ที่เข้าสู่การพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ด้วยเหตุวิธีการพิจารณาของศาลฎีกาฯนั้นเป็นระบบไต่สวนที่ไม่จำเป็นต้องผูกพันเฉพาะข้อมูลและข้อเท็จจริงจากโจทก์และจำเลยเท่านั้น แต่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทั้งหมดตราบเท่าที่ข้อมูลนั้นเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี

หัวใจของคดีในศาลฎีกาที่จะกำหนดชะตากรรมของทักษิณอยู่ที่บทพิสูจน์ว่า 'ทักษิณ' นั้นป่วยจริงหรือป่วยทิพย์

ถ้าป่วยจริงก็ย่อมต้องเข้าเงื่อนไขของการได้รับการรักษาตัวนอกเรือนจำและได้รับการพักโทษ แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น เท่ากับว่าต้องกลับไปรับโทษจำคุกที่เหลืออีกต่อไป ซึ่งมติของแพทยสภาที่ออกมามีโอกาสที่จะถูกนำชี้ขาดในประเด็นที่ว่านี้ก็เป็นไปได้

มองในทางการเมืองแล้ว ต้องยอมรับว่าอิสรภาพของทักษิณในเวลานี้กำลังอยู่ในช่วงสั่นคลอนอย่างหนัก เพราะไม่ได้มีเพียงแต่มติของแพทยสภาที่ทำให้เสียขวัญเท่านั้น โดยล่าสุดก็เพิ่งหมดโอกาสเดินทางไปต่างประเทศตามคำเชิญของผู้ครองนครรัฐกาตาร์ แม้ว่าจะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไปทำหน้าที่เป็นพยานฝ่ายทักษิณให้ก็ตาม

ดังนั้น ภายใต้สถานการณ์และเงื่อนไขที่กำลังมัดตัวทักษิณเวลานี้ อาจทำให้ใกล้ถึงจุดที่ทักษิณต้องเลือกแล้วระหว่าง 'หนี' หรือ 'สู้'
กำลังโหลดความคิดเห็น