xs
xsm
sm
md
lg

ปมร้อนข่าวลึก : พีระพันธุ์ โดนล่อเป้า เพลี่ยงพล้ำ รทสช.ระส่ำ - ถุงยังชีพ ตามหลอน พีระพันธุ์ เตรียมสู้ ป.ป.ช. - ประชุมแพทยสภา 8 พ.ค. ผลสอบหมอรักษาทักษิณ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปมร้อนข่าวลึก

- พีระพันธุ์ โดนล่อเป้า เพลี่ยงพล้ำ รทสช.ระส่ำ

พรรค”รวมไทยสร้างชาติ”ส่งคนในพรรค ทั้งเสธหิ หิมาลัย ผิวพรรค นายทหารนอกราชการคนดัง- ผอ.พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มาร่วมก่อตั้งพรรครทสช. ตั้งแต่สมัยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกฯให้กับพรรครทสช.ตอนเลือกตั้งปี 2566 และอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี -โฆษกพรรครทสช.ออกมาดาหน้าชี้แจงและปกป้อง”พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและรมว.พลังงาน-หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ”ที่ช่วงนี้ งานเข้าหนัก เจอไล่ถลุงอย่างหนัก

เรื่องถือครองหุ้นบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทที่มีการพ่วงจดทะเบียนทำกิจการเกี่ยวกับการรับจ้างพิมพ์ -การผลิตสื่อก่อนเลือกตั้งและหลังได้เป็นส.ส.ตอนเลือกตั้ง14พ.ค.2566 รวมถึงมีชื่อครอบครองหุ้น และเป็นกรรมการบริษัทต่างๆ ประมาณสี่แห่ง เช่น บจ.รพีโสภาค ฯ ในช่วงเป็นรัฐมนตรีมาสองรัฐบาล ที่มีคนไปร้องป.ป.ช.และเตรียมร้องกกต.เพิ่มด้วยว่า เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และพ.ร.บ.หุ้นส่วน และหุ้นของคณะรัฐมนตรี พ.ศ.2543 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 ซึ่งจนถึงป่านนี้ นับแต่มีการไปยื่นเรื่องร้องป.ป.ช.มาร่วมสองสัปดาห์ พีระพันธุ์ ที่หลายคนมองว่าแม่นเรื่องข้อกฎหมาย เพราะเป็นอดีตผู้พิพากษา-อดีตมือกฎหมายที่เคยมีผลงานเช่นสมัยไปช่วยงานกระทรวงคมนาคมยุครัฐบาลพลเอกประยุทธ์ สู้คดีโฮปเวลล์จนชนะในชั้นศาลปกครองสูงสุด ทำให้รัฐไม่ต้องจ่ายค่าโง่หลายหมื่นล้านบาทให้โฮปเวลล์ทั้งที่หลายคนมองว่าไม่มีทางชนะคดีได้ ต้องจ่ายเงินตามคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการ แต่พีระพันธุ์ก็ทำสำเร็จ จนได้เครดิตไปเต็มๆ

แต่ปรากฏว่าเรื่องที่ถูกร้องป.ป.ช.ข้างต้น ถึงตอนนี้ “พีระพันธุ์”ก็ยังไม่ชี้แจงใดๆ ทั้งการให้สัมภาษณ์-การโพสต์เฟซบุ๊กหรือการทำเอกสารข่าวชี้แจง ทั้งที่ในเชิงข้อกฎหมายเป็นเรื่องที่ชี้แจงได้ไม่ยาก ทำเอกสารข่าวแจกไม่เกินสองแผ่นก็จบแล้ว ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร แต่กลับไม่ทำ

หลายคนที่รู้จัก พีระพันธุ์ ที่ในโซเชียลมีเดีย สายเชียร์ลุงตู่ เรียกกันว่า”คุณพี”บอกว่า การนิ่งเงียบของพีระพันธุ์ มันผิดวิสัยของพีระพันธุ์อย่างมาก

เอาง่ายๆก่อนหน้านี้ ตอนโดนพาดพิงเรื่อง”คดีแตงโม” ที่ถูกระบุว่า “ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ปอ”ที่อยู่ในเหตุการณ์แตงโมเสียชีวิต ได้โทรศัพท์ไปหาพีระพันธุ์ในคืนเกิดเหตุ  เหมือนกับขอความช่วยเหลือ ปรากฏว่า พีระพันธุ์ ไม่รอช้า หลังโดนพาดพิงไม่กี่ชั่วโมง ก็สั่งให้ทีมโฆษกพรรคไปอัดคลิปสัมภาษณ์ตัวเองชี้แจงเรื่องนี้ทันทีว่ามีการคุยกันจริง แต่ไม่ได้แนะนะหรือช่วยเหลือใดๆ

หรือเมื่อสิ้นปี 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งสื่อสายทำเนียบรัฐบาลตั้งฉายารัฐบาล-รัฐมนตรี โดยให้ฉายา”พีระพัง”กับพีระพันธุ์ เท่านั้นเอง ไม่กี่ชั่วโมงในวันเดียวกัน พีระพันธุ์กับทีมงานในพรรครทสช.ก็ตอบโต้ฉายาสื่อทำเนียบรัฐบาล ทันควันด้วยการอัดแคมเปญ "พีระ..พัง... การผูกขาด
พีระ..พัง...ระบบที่เน่าเฟะ
พีระ..พัง...การโกงกินทุกรูปแบบ # ฉายารัฐบาล 67"
เหล่านี้คือบุคลิกของพีระพันธุ์ ที่ไม่ยอมตกเป็นฝ่ายตั้งรับทางการเมือง แต่กรณีถูกร้องดังกล่าว พีระพันธุ์ กลับนิ่งเฉย ไม่ชี้แจงใดๆทั้งที่ชี้แจงได้ง่ายมาก หากไม่มีอะไรในกอไผ่ หรือเป็นเพราะที่ยังไม่ชี้แจงเพราะยังตั้งหลักอยู่?

ทำให้คนการเมือง เริ่มมองว่า เรื่องนี้จะทำให้พีระพันธุ์ตกม้าตายง่ายๆ หรือไม่ โดยเฉพาะกรณี มีชื่อในกิจการที่แจ้งจดทะเบียนทำธุรกิจผลิตสื่อในช่วงเลือกตั้งและหลังได้เป็นส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ รวมไทยสร้างชาติ ก่อนจะลาออกในเดือนมิ.ย.2566 แต่ให้มีผลตั้งแต่วันเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 หรือเพราะรู้ตอนนั้นว่า เสี่ยงมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ!

ตรงนี้ก็ต้องดูที่เจตนาเป็นสำคัญ เพราะก็อย่างที่รู้กัน ส่วนใหญ่เวลามีการไปแจ้งจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทฯ ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ก็มักจะแจ้งจดทำกิจการหลายๆอย่างไว้ก่อน เพื่อความสะดวก รวมถึงรับจ้างผลิตสื่อฯ แต่จริงๆ อาจไม่ได้ทำกิจการผลิตสื่ออะไร ที่ก็ต้องดูว่าเรื่องนี้จะไปถึงไหน หากมีการไปยื่นเรื่องต่อ กกต.แล้วกกต.จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแบบหลายเคสก่อนหน้านี้หรือไม่ หรือป.ป.ช.จะรับเป็นเจ้าภาพ เสียเอง รอติดตาม

- ถุงยังชีพ ตามหลอน พีระพันธุ์ เตรียมสู้ ป.ป.ช.

ล่าสุด พีระพันธุ์ หัวหน้าพรรครทสช. กำลังเสี่ยงจะโดนอีกดอก หลังมีรายงานว่า คณะกรรมการป.ป.ช. ได้เรียกรัฐมนตรีในรัฐบาลคนหนึ่งมาไต่สวนกรณีถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม กรณีแจกถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งถุงยังชีพดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนมาจากรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง แต่กลับมีการติดสติกเกอร์ป้ายชื่อตัวเองพร้อมกับหน้าตัวเองข้างถุง ที่อาจส่อเข้าข่ายกระทำผิดมาตรฐานทางจริยธรรมฯ โดยป.ป.ช.เรียกรัฐมนตรีคนดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 15 พ.ค.นี้

ซึ่งรัฐมนตรีคนดังกล่าว ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือ พีระพันธุ์ รองนายกฯและรมว.พลังงาน น้องรัก ลุงตู่ พลเอกประยุทธ์ ที่งานเข้ารัวๆ ตอนนี้

เรื่องนี้ หากสุดท้าย ป.ป.ช.ลงมติให้ส่งคำร้องไปยังศาลฎีกาฯ ที่ศาลรับเรื่องแน่และจะต้องสั่งให้ พีระพันธุ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่การเป็นรัฐมนตรี จากนั้น ต้องไปลุ้นว่า ศาลฎีกาจะมีคำตัดสินให้หลุดจากตำแหน่งและถูกตัดสิทธิการเมืองหรือไม่

หาก พีระพันธุ์ ไม่รอดในชั้นศาลฎีกาฯ ก็โดนตัดสิทธิการลงเลือกตั้งเพราะฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯ

มีโอกาสสูงที่ พรรครทสช. ระส่ำแน่ ถึงขั้นเสี่ยงพรรคแตก ทางใครทางมัน

เป็นไปได้ ที่ พีระพันธุ์ อาจชี้แจงเคลียร์ตัวเองได้ตั้งแต่ชั้นป.ป.ช. จนป.ป.ช.มีมติยกคำร้องและไม่ส่งเรื่องไปศาลฎีกาฯ หากออกมาแบบนี้ พีระพันธุ์ ก็โล่งอก และพรรครทสช.ก็คงไม่ระส่ำระสาย แม้จะมีคลื่นใต้น้ำลูกใหญ่อยู่ในพรรครทสช.ที่พร้อมก่อตัวขึ้นมาตลอด?

- ประชุมแพทยสภา 8 พ.ค. ผลสอบหมอรักษาทักษิณ

เรื่องการตรวจสอบ-ไต่สวน-สอบสวน กรณี นักโทษเทวดา ทักษิณ ชินวัตร ชั้น 14 รพ.ตำรวจ สรุปรวมได้ว่า ถึงตอนนี้ มีองค์กรตามกฎหมาย เข้ามา ตรวจสอบ-ไต่สวนแล้วทั้งสิ้น 3 องค์กร เรียงตามลำดับเวลา คือคณะกรรมการป.ป.ช.-แพทยสภา และล่าสุด ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่เข้าไปไต่สวนเรื่องนี้ และนัดเปิดศาลไต่สวนวันที่ 13 มิ.ย.
ซึ่งทั้งสามองค์กร ต้องบอกว่า ไฮไลท์สำคัญ ไปอยู่ที่ ศาลฎีกาฯ หลังทั้งป.ป.ช.-แพทยสภา มัวแต่ตั้งท่า ทำขึงขัง แต่งานไม่เดิน

ยิ่งการที่ศาลฎีกาซึ่งเป็นศาลสูง เข้ามาไต่สวนเอง และมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ไม่เหมือนป.ป.ช.-แพทยสภา ที่ก็มีอำนาจตามกฎหมายเช่นกัน แต่ก็ยังไม่เด็ดขาดเหมือนศาลฎีกาฯ ทำให้ การไต่สวนของศาลฎีกาฯ จึงเป็นจุดสำคัญ สำคัญที่สุดของปม ชั้น 14 อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแพทยสภา ก็มีความคืบหน้าที่น่าสนใจเพราะแพทยสภา จะนัดประชุมกันเดือนละครั้งทุกวันพฤหัสบดีที่สองของเดือน ซึ่งรอบนี้ตรงกับวันพฤหัสบดี8 พ.ค. นี้

คณะอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจสอบจริยธรรมแพทย์ที่รักษาตัว ทักษิณ ชินวัตร ที่มี นพ.อมร ลีลารัศมี กรรมการแพทยสภา เป็นประธานฯ จะนำผลสรุปการสอบสวนชงเช้าที่ประชุมใหญ่แพทยสภาวันพฤหัสบดีนี้ ทันหรือไม่ และหากส่งไปแล้ว ที่ประชุมจะว่าอย่างไร หลังก่อนหน้านี้ เลื่อนมาแล้วหนึ่งรอบตอนประชุม 10 เม.ย. โดยอ้างว่า รพ.ตำรวจกับรพ.ราชทัณฑ์ส่งเอกสารเข้ามาเพิ่มเติมทั้งที่เลยกำหนดเวลาที่ขีดเส้นตายไว้แล้ว

หากครั้งนี้เลื่อนอีก ทั้งอนุกรรมการฯและแพทยสภาฯ คงไม่พ้นโดนสังคมตั้งคำถาม “แพทยสภา จะสรุปผลสอบเสร็จกี่โมง”
กำลังโหลดความคิดเห็น