ต่อคิวตี 4 รอจดตั้งบริษัท ร้อง 'พาณิชย์' แก้ปัญหา เลิกสร้างทางตัน
ระบบขั้นตอนทางราชการที่ซับซ้อน ถือเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจไทยไม่ได้อยู่ในสภาพพุ่งทะยานมากนัก หนึ่งในปัญหา คือ การอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการจดทะเบียนนิติบุคคล ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้การประกอบธุรกิจของเหล่าผู้ประกอบการมีความถูกต้องและเป็นระเบียบตามกฎหมาย
แต่ปัจจุบันระบบของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นการส่งเสริมการทำธุรกิจมากนัก ในประเด็นนี้นายอรัญ พันธุมจินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนา ได้เคยหารือผ่านที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว
โดยระบุว่า ปัญหาการจดทะเบียนนิติบุคคล กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้ประกาศ
ยกเลิกการจดทะเบียนด้วยเอกสารแบบพิมพ์ (Walk in) และให้บริการผ่านระบบจดทะเบียนนิติบุคคลดิจิทัลเพียงช่องทางเดียวตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งในระหว่างนี้ สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้า ให้บริการจดทะเบียนด้วยเอกสารแบบพิมพ์ (Walk in) จำกัดไม่เกิน 25 คำขอ ต่อนายทะเบียน 1 คน ต่อวัน ปรากฎว่าส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมากที่จะต้องไปรับบัตรคิวจดทะเบียนตั้งแต่ตี 4 ตี 5 หรือในบางเขตพื้้นที่ประชาชนต้องไปลงชื่อจองคิวกันตั้งแต่ 1 ทุ่ม ทุ่ม และคิวเต็มก่อนเที่ยงคืน
จากการตรวจสอบพบว่า ประชาชนบางส่วนยังไม่พร้อมที่จะจดทะเบียนโดยใช้ระบบจดทะเบียนนิติบุคคลดิจิทัล เพราะต้องใช้เลขหลังบัตรประชาชนของกรรมการบริษัท ทำให้มีความกังวลว่าการให้ข้อมูลหลังบัตรไปจะไม่ปลอดภัย ดังนั้น จึงได้ขอหารือกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อให้มีการทบทวนแนวทางการยุติการจดทะเบียนด้วยเอกสารแบบพิมพ์ (Walk in) โดยขอให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ให้บริการรับจดทะเบียนนิติบุคคลทั้ง 2 แบบ ควบคู่กันต่อไปอีกระยะหนึ่ง โดยจะต้องไม่จำกัดคิวในการจดทะเบียน เพราะเป็นอุปสรรคในการทำธุรกิจของภาคเอกชน
นายอรัญ ย้ำว่า หากเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ถือเป็นหน้าที่ที่ภาครัฐจะต้องจัดให้มีบริการที่เพียงพอ โดยยึดหลักว่าหน่วยงานของรัฐ มีหน้าที่ให้บริการประชาชน และเมื่อประชาชนมีความพร้อมและเห็นว่า ระบบจดทะเบียนนิติบุคคลดิจิทัล สะดวก ปลอดภัย และประหยัดกว่าแบบเดิม ประชาชนผู้ใช้บริการก็จะเลือกทางที่ดีกว่าด้วยตนเอง
"ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่ภาครัฐได้ปรับปรุงระบบการให้บริการ ให้ประชาชนมีทางเลือก เพื่อเปลี่ยนไปสู่สิ่งที่ดีกว่า แต่ภาครัฐจะต้องไม่สร้าง ทางตันให้ประชาชนไม่มีทางเลือกในการเข้าถึงบริการของรัฐ" นายอรัญ ระบุ