ไม่สั่งฟ้อง 'พอล แซมเบอร์ส' ไทยพร้อมเจรจาสหรัฐ แต่หวั่นโดยบีบจากเรื่องอื่น
หากจะบอกว่าเวลานี้รัฐบาลไทยกำลังอยู่ในช่วงเมาหมัดอย่างเห็นได้ชัด หลังจากปัญหาเศรษฐกิจกำลังรุมเร้าหนักพอสมควร โดยเฉพาะกรณียังไม่มีความชัดเจนว่าไทยจะได้เจรจากับสหรัฐอเมริกาในเรื่องมาตรการทางภาษีเมื่อไหร
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่า ในเรื่องกำแพงภาษีเราได้เตรียมตัวแล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปเข้าใจว่าทางฝั่งสหรัฐฯ ต้องการดูแผนที่สามารถจับต้องได้มากขึ้น และทั้งสองประเทศได้ผลประโยชน์อะไรร่วมกันบ้าง
"แต่ที่เราห่วงคือ อันที่ไม่เกี่ยวกับภาษีมากกว่า เช่น เรื่องกติกาต่างๆ ซึ่งแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ สหรัฐฯ คงพิจารณาว่าบ้านเรามีอะไร น่าจะเป็นส่วนนี้มากกว่าที่เราจะต้องเตรียมโจทย์ เตรียมคำตอบ"
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า ในสภาวะสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ เราอยากเป็นประเทศที่อยู่ตรงกลาง ประสานผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ฉะนั้น เวลาเราคุยจะไม่ได้ดูว่าเอาผลประโยชน์ของใคร แต่จะดูว่าเราจะเอาอะไรที่สามารถไปแลกเปลี่ยนได้
ขณะเดียวกัน คดีความของนายพอล แซมเบอร์ส (Dr.Paul Chambers) ผู้ต้องหาคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (2) , 20 ซึ่งเป็นกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตมีผลต่อการเจรจาระหว่างไทยกับสหรัฐ ปรากฎว่านายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นคดีสำคัญตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด อธิบดีอัยการภาค 6 มีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎมายอาญา มาตรา 112 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 ตามความเห็นและมติของคณะทำงานกำหนดแนวทางการบังคับใช้กฎหมายในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ