ทีเส็บ จัด MICE Day 2025 ภายใต้แนวคิด “Unfolding Journey : Authenticity, Technology, Sustainability” ชูเป็นหัวใจสำคัญสร้างความแตกต่างและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ไทยสู่ความยั่งยืน พร้อมนำเสนอการจัดงานตอบโจทย์สังคมยุคใหม่ทั้งเรื่องคาร์บอนต่ำและความเท่าเทียม พร้อมประกาศก้าวสู่ปีแห่งการเฉลิมฉลองไมซ์ไทย MICE Celebration Year ในปี 2569 ต้อนรับนักเดินทางไมซ์ทั่วโลกให้เห็นศักยภาพของไทย
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า ทีเส็บ ในฐานะหน่วยงานขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันระดับสากลเพื่อให้เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เชื่อมั่นในระบบนิเวศไมซ์ไทยที่มีการร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการปรับตัวรับมือก้าวข้ามอุปสรรคต่าง ๆ จึงทำให้การจัดงาน MICE Day 2025 ซึ่งจัด ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี กำหนดแนวคิด “Unfolding Journey : Authenticity, Technology, Sustainability” เพื่อนำเสนอให้เห็นและเข้าใจเส้นทางของอุตสาหกรรมไมซ์ไทยที่ต้องบริหารจัดการปัญหาท้าทายใหม่ ๆ มาโดยตลอด
เพื่อกำหนดทิศทางที่ชัดเจนต่อจากนี้ไป ทีเส็บ จึงประกาศ 3 แนวคิดคือ Authenticity, Technology และ Sustainability สำหรับทุกภาคส่วนใช้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ไทยให้มีจุดขายที่แตกต่าง มีขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน เพราะทั้ง 3 แนวคิดสามารถตอบโจทย์การจัดงานของภาคธุรกิจยุคใหม่ได้ ทั้งในเรื่องการแสวงหาประสบการณ์ตรงกับวิถีท้องถิ่น และสร้างมูลค่าเพิ่มในพื้นที่ที่เข้าไปจัดงาน การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการจัดงานเพื่อให้สร้างผลลัพธ์ที่แตกต่าง และการบรรลุเรื่องความยั่งยืนที่วัดผลได้ทั้งมิติสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม
การจัดงาน MICE Day 2025 นำเสนอกิจกรรมผลงานที่แสดงความพร้อมของอุตสาหกรรมไมซ์ไทยในการปรับตัวบนเส้นทางใหม่ และนำเสนอสาระที่เป็นประโยชน์ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม เริ่มจากพิธีมอบตราสัญลักษณ์มาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทยและสถานที่จัดงานอาเซียน (Thailand MICE Venue Standard and ASEAN MICE Venue Standard) และมาตรฐานการบริหารการจัดงานอย่างยั่งยืนประเทศไทย (Thailand Sustainable Event Management Standard) และเกณฑ์ประเมิน 2 HYs (Hygiene & Hybrid) ให้แก่สถานประกอบการที่ผ่านการประเมินมาตรฐาน 265 แห่ง
ภายในงาน มีการเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในหัวข้อต่างๆ เช่น “MICE: The Dynamic Growth Engine for Thai Economy” โดย คุณนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ คุณสรพล วีระเมธีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย คุณสิทธิพงศ์ ศิริมาศเกษม กรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท RGB72 จำกัด และผู้จัดงาน Creative Talk Conference คุณพอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด เพื่อตอกย้ำให้เห็นว่า ไมซ์เป็นเครื่องจักรทางเศรษฐกิจใหม่ ที่มีศักยภาพนำมาซึ่งการค้าการลงทุนและสร้างโอกาสให้กับประเทศไทย
การเสวนาพิเศษ หัวข้อ “Innovating MICE Experience with Local Thai Wisdom” โดย ดร.กรกต อารมย์ดี เจ้าของแบรนด์ KORAKOT เชฟโบ ดวงพร ทรงวิศวะ ผู้ก่อตั้งร้านโบ.ลาน และ ดร.กฤษดา กฤตยากีรณ ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Urban Mobility Tech (MuvMi) เพื่อกล่าวถึงกลยุทธ์ที่ช่วยยกระดับการจัดงานไมซ์ให้ทันสมัยผ่านการใช้นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ การยกระดับภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่สากล ตลอดจนแนวทางการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน ที่สามารถดึงดูดผู้เข้าร่วมงานที่สนใจในการหาสิ่งใหม่ ๆ ในการดำเนินธุรกิจได้ รวมถึงการบรรยายโดยวิทยากรรับเชิญพิเศษ Mental Models for MICE คุณทอย กษิดิศ สตางค์มงคล ผู้เชี่ยวชาญด้าน Data จาก DataRockie และ SAMSUNG ที่ได้นำเสนอการวิเคราะห์ข้อมูล ที่เปลี่ยน Data ให้กลายเป็น Information และ Knowledge ที่ช่วยตอบโจทย์ หรือช่วยให้ธุรกิจเติบโตขึ้นได้
ผู้อำนวยการทีเส็บ กล่าวว่า เพื่อแสดงให้เห็นการจัดงานของอุตสาหกรรมไมซ์ไทยตอบโจทย์ของภาคธุรกิจและสังคมยุคใหม่ การจัดงาน MICE Day 2025 จึงตั้งเป้าใช้กระบวนการจัดงานที่จะทำให้งานนี้เป็นงานที่เป็นกลางทางคาร์บอนเพื่อตอบสนองเรื่องการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการจัดงาน ในส่วนของการใช้พื้นที่จัดงาน สามารถรองรับผู้พิการและมีบริการห้องน้ำรองรับกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศที่เข้าร่วมงาน เพื่อตอบโจทย์เรื่องความเท่าเทียม นอกจากนี้ ยังมีการนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ตลอดการจัดงาน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ร่วมงานด้วย
นอกจากนี้ ทีเส็บ จะใช้ MICE Day 2025 เป็นเวทีกระตุ้นอุตสาหกรรมไมซ์ไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในงานนี้ ทีเส็บได้ประกาศให้ปี 2569 หรือปี 2026 เป็น “MICE Celebration Year” ของประเทศไทย และเตรียมจัดงาน Thailand MICE Week 2026 อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อแสดงศักยภาพของประเทศไทย ในฐานะศูนย์กลางไมซ์ระดับสากลอย่างแท้จริง เนื่องจากในปีหน้า ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงานขนาดใหญ่ระหว่างประเทศหลายรายการ ที่สามารถใช้สื่อสารประชาสัมพันธ์ประเทศไทยไปยังตลาดต่างประเทศเพื่อดึงดูดนักเดินทางไมซ์ อาทิ มหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569, งานประชุมระดับโลก The 2026 Annual Meetings of the World Bank Group and the International Monetary Fund (IMF) ,งาน World Congress on Pain 2026 ,งาน UFI Asia Pacific Conference 2026 งาน Global Sustainable Tourism Conference 2026 เป็นต้น