โจ๊ก-ดร.นิด ศีลเสมอกัน เอี่ยวทำวิทยานิพนธ์
คดีโกงสอบครั้งประวัติศาสตร์ ของคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีนักวิชาการระดับดอกเตอร์ของมหาวิทยาลัยมหิดล ตกเป็นผู้ต้องหา ส่อเค้าจะยาวเป็นหนังชีวิต
โดยตำรวจไซเบอร์ที่ตามกลิ่นทุจริตขบวนการฉลาดเกมส์โกงโขยงใหญ่ ที่ช่วยกันโกงสอบ จนบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้สวมครุยบัณฑิตจุฬาฯ สมใจอยาก เมื่อปี 2567 และสามารถจับกุมตัวการสำคัญคนแรกได้ คือ ดร.นิด นางสาวขนิษฐา เลิศบรรเจิดวงศ์ แห่ง ม.มหิดล จนเป็นข่าวสั่นสะเทือนวงการวิชาการไปแล้วนั้น
ปรากฎว่า ตำรวจไซเบอร์สืบสวนขยายผล พบสายสัมพันธ์อันยาวนาน ระหว่างบิ๊กโจ๊กกับดร.นิด ย้อนไปถึงช่วงปี 2563
โดยปีนั้น บิ๊กโจ๊กทำวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอก ของคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ม.มหิดล
หัวข้อ การใช้มาตรการที่เป็นแนวปฏิบัติที่ดีของตำรวจ ในการลดปัญหาเด็กแว้นในประเทศไทย
ซึ่งในที่สุด บิ๊กโจ๊กก็สอบผ่าน ได้ดีกรี ปริญญาเอก หลักสูตรปรัชญา ดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาอาชญาวิทยา การบริหารงานยุติธรรมและสังคม ได้เป็นดอกเตอร์ของ มหาวิทยาลัยมหิดล
ครั้งนั้น ก็มีชื่อของ ดร.นิด เข้ามา มีเอี่ยว เกี่ยวข้องกับ บิ๊กโจ๊ก ในลักษณะ เป็นออร์แกไนซ์ ให้กับการเรียนปริญญาเอก ของบิ๊กโจ๊ก โดยดร.นิด ได้รับค่าจ้างจากบิ๊กโจ๊ก หลายงวด รวมแล้วเป็นเงิน ถึง 4-5 แสนบาท ในช่วงเวลาที่มีการทำวิทยานิพนธ์ ดังกล่าว
หลักฐานที่ตำรวจไซเบอร์ ได้มา เป็นแชทไลน์ ระหว่างบิ๊กโจ๊กกับดร.นิด ส่อเค้าว่า ดร.นิด รับจ้าง ทำวิทยานิพนธ์ให้ เมื่อถูกซักถาม จากตำรวจ ดร.นิดก็อ้างว่า เป็นการจ้างตรวจปรูฟ แก้ไขคำผิด ในวิทยานิพนธ์ ไม่ใช่การรับจ้างทำ แต่อย่างใด เพียงแต่ตำรวจ ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจาก สงสัยว่า เพราะเหตุใด ค่าจ้างตรวจปรูฟ จึงมี ราคาแพงถึงขนาดนั้น
ในเมื่อดอกเตอร์นิด ตกเป็นผู้ต้องหา กระทำการ โกงสอบให้บิ๊กโจ๊ก ในการสอบ ที่คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จึงน่าสงสัยว่า จะมีพฤติกรรมเดียวกันหรือไม่ เมื่อตอนบิ๊กโจ๊ก ทำปริญญาเอก ที่มหิดล ถิ่นของ ดร.นิดเอง
ทั้งนี้ คดีโกงสอบ ที่คณะนิติจุฬา ดร.นิด ให้การภาคเสธ ยังไม่ยอมรับสารภาพ หรือซัดทอดไปถึงใคร ขณะที่บิ๊กโจ๊ก เคยแสดงความภาคภูมิใจ ในความฉลาดของตัว ผ่านทางเพจชาวปักษ์ใต้ ข้อความว่า "สวัสดีครับ แฟนเพจ ทุกท่าน เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันพระราชทานปริญญาบัตรให้แก่บัณฑิตในรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผมเองได้ใช้โอกาสในการเรียนรู้เพิ่มเติมในช่วงเวลาที่ว่าง เพื่อศึกษาเพิ่มเติมในคณะนิติศาสตร์ เพื่อเป็นการ up-skill พัฒนาตัวเอง เพิ่มเติมความรู้เพื่อนำความรู้ กลับมาใช้ในงานเพื่อทำประโยชน์ให้กับประเทศและพ่อแม่พี่น้องต่อไป ขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตทุกท่าน ในปีนี้ด้วยครับ"