ปมร้อนข่าวลึก : คดีลูกชาย นายกเบี้ยว ‘เพื่อไทย’ ตกที่นั่งลำบาก กระทบการเมืองภาพใหญ่
ชั่วโมงนี้คงไม่มีเรื่องไหนจะเป็นที่น่าสนใจมากเท่ากับกรณีนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ "พีช" บุตรชายของ นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือนายกเบี้ยว นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี ภายหลังขับรถยนตร์หรูชนรถกระบะบนทางด่วนพร้อมกับแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
ปัจจัยที่ทำให้เรื่องนี้เดือดขึ้นมาเพราะ 'พีช' เป็นผู้สมัครสมาชิกเทศบาลตำบลธัญบุรี ในนามทีมธัญญก้าวหน้า ซึ่งทำให้มีความกังวลจะมีมือที่มองไม่เห็นเข้ามาแทรกแซงกระบวนการในการพิจารณาคดีหรือไม่
เพราะผู้สมัครรายนี้เป็นทายาทนักการเมืองชื่อดังอย่าง “นายกเบี้ยว” กฤษฎา หลีนวรัตน์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยครอบครัวนี้ถือเป็นครอบครัวการเมืองอย่างแท้จริง เพราะสมาชิกครอบครัวล้วนแต่ลงสนามการเมืองแทบทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะเป็น “น้ำอ้อย” ยุพเยาว์ หลีนวรัตน์ อดีตรองนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ปัจจุบันลงชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี “ฟลุ๊ค” มนัสนันท์ หลีนวรัตน์ ส.ส.ปทุมธานี เขต 5 พรรคเพื่อไทย “ฝ้าย” เกวลิน หลีนวรัตน์
สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เขต 5
เรียกได้ว่าเป็น 'บ้านใหญ่ธัญบุรี' ของจริงเพราะบ้านใหญ่ครอบครัวนี้แม้แต่นายใหญ่แห่งพรรคเพื่อไทยอย่าง 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี และ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังให้ความสำคัญถึงขนาดที่มาร่วมงานอุปสมบทนายสมิทธิพัฒน์ เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2567
แต่พอเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ปรากฎว่าพรรคเพื่อไทยเริ่มตีกรรเชียงหนีทันที โดยนายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความบน X ระบุว่า "จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์อุบัติเหตุทางรถยนต์ที่กำลังเป็นข่าวอยู่ตอนนี้นั้น #ธัญบุรี เป็นอุบัติเหตุที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลยจริงๆ ผมขอเป็นกำลังใจให้กับผู้บาดเจ็บ ขอให้ปลอดภัยและหายในเร็ววันนะครับ ในส่วนของคู่กรณีก็ขอให้เป็นเรื่องของตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนั้นในกรณีที่มีการโยงถึงทางพรรคเพื่อไทย ต้องเรียนแจ้งว่า คู่กรณีคนดังกล่าวเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด
ขอทุกท่านอย่านำเรื่องดังกล่าวมาโยงกับการเมือง หรือ ท่านอดีตนายกฯ ทักษิณ และ นายกฯ แพทองธาร พวกเรามาร่วมเป็นกำลังใจให้กับผู้บาดเจ็บดีกว่าครับ"
พรรคเพื่อไทยพยายามจะกันตัวเองออกมาจากความขัดแย้งด้วยการอ้างว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล และคนในข่าวที่ว่านั้นก็ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย แต่ในภาพรวมนั้นต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่พรรคเพื่อไทยจะสลัดออกไปให้ได้อย่างเด็ดขาด เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าครอบครัวหลีนวรัตน์ กับครอบครัวชินวัตร มีความกลมเกลียวกันพอสมควร ดังจะเห็นได้จากการแสดงออกของอดีตนายกฯทักษิณอย่างที่กล่าวไปในข้างต้น
งานนี้เท่ากับว่าพรรคเพื่อไทยได้ติดร่างแหโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งในระยะยาวอาจส่งผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทยอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ โดยเฉพาะในการเลือกตั้งครั้งหน้านายใหญ่จะตัดสินใจอย่างไร สภาพแวดล้อมในทางการเมืองวันนี้ไม่เหมือนกับในอดีต คนไทยไม่ได้เป็นคนลืมง่ายอีกแล้ว เพราะทุกวันนี้มีระบบDigital Footprint ที่พร้อมจะถูกขุดอดีตขึ้นมาห้ำหั่นกันได้ทุกเวลาที่ต้องการ
หากให้ครอบครัวนี้ร่วมชายคาพรรคเพื่อไทยต่อไปก็ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องคอยแก้ดราม่าเป็นรายวัน ครั้นจะตัดขาดเลยก็เป็นการตัดสินใจลำบาก เพราะการทำเช่นนั้นแทบจะไม่ต่างอะไรกับการยกพื้นที่ทางการเมืองจังหวัดปทุมธานีทั้งจังหวัดไปให้กับพรรคการเมืองอื่น จนกระทบต่อการเข้าสู่อำนาจรัฐอีกครั้งของพรรคเพื่อไทย
จริงอยู่คดีความเป็นเรื่องที่ต้องว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรมและกฎหมาย แต่สำหรับในทางการเมืองนั้นเป็นที่กระทบภาพลักษณ์ของพรรคเพื่อไทยเข้าเต็มๆ และที่สำคัญแรงกระแทกในทางการเมืองอาจไม่ได้จำกัดวงเฉพาะปทุมธานีเท่านั้น เพราะจะลามไปถึงการเมืองภาพใหญ่ระดับประเทศอีกด้วย หากพรรคเพื่อไทยยังไม่มีความเด็ดขาดในการตัดสินใจ