6 หน่วยงาน บูรณาการปราบปรามบัญชีม้านิติบุคคลครบวงจร ล่าสุดระงับบัญชีที่ทำผิดชัดเจนแล้ว 7 แสนบัญชี
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center: AOC) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกันผลักดันมาตรการจัดการบัญชีม้านิติบุคคล เพื่อบูรณาการการทำงานอย่างครบวงจร ตั้งแต่การเพิ่มความเข้มข้นในการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล การติดตามพฤติกรรมและตรวจจับนิติบุคคลที่มีความเสี่ยงเพื่อดำเนินการอย่างเข้มข้น รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายผลการสืบสวนสอบสวนและนำนิติบุคคลหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องที่กระทำความผิดมาลงโทษ
นางรุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภัยทุจริตทางการเงิน เป็นปัญหาสำคัญที่ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญและร่วมกันผลักดันมาตรการแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดให้สถาบันการเงิน เพิ่มความเข้มข้นจัดการกับบัญชีนิติบุคคล ทั้งกรณีนิติบุคคลที่มีรายชื่อเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐานของสำนักงาน ปปง. ที่สถาบันการเงิน จะดำเนินการเทียบเท่ากรณีบุคคลธรรมดา ที่เข้าข่ายกระทำผิด และกรณีที่นิติบุคคลมีผู้เกี่ยวข้อง เช่น กรรมการ,หุ้นส่วนผู้จัดการ เป็นบุคคลที่มีรายชื่ออยู่ในฐานข้อมูลสำนักงาน ปปง.หากสถาบันการเงิน ประเมินแล้วว่า มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นบัญชีม้า สถาบันการเงินจะระงับการใช้บริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ และไม่ให้เปิดบัญชีใหม่
ข้อมูล ณ สิ้นเดือนมกราคม 2568 มีการระงับบัญชีม้า 3 สีไปแล้ว 140,000 คน หรือ 1,920,000 บัญชี ในจำนวนนี้ เป็นการระงับม้าดำ หรือ บัญชีที่มีการกระทำผิดชัดเจนและมีข้อมูลจาก ปปง. 70,000 คน หรือ 700,000 บัญชี
พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กล่าวว่า ระยะหลังพบว่า มิจฉาชีพมีแนวโน้มนำบัญชีนิติบุคคลมาก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายมากขึ้น จึงร่วมมือกับหลายหน่วยงาน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลนิติบุคคลกลุ่มเสี่ยง และร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ทั่วประเทศ ขยายผลสืบสวนสอบสวนและนำนิติบุคคลหรือบุคคลที่กระทำความผิดมาลงโทษ
พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า ที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีกับผู้ที่ใช้บัญชีนิติบุคคลในการกระทำความผิดเป็นจำนวนมาก โดยแต่ละคดีมีมูลค่าความเสียหายค่อนข้างสูง เนื่องจากบัญชีนิติบุคคลใช้โอนเงินได้ครั้งละจำนวนมากโดยไม่ต้องสแกนใบหน้า CIB จึงร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อยกระดับการจัดการบัญชีม้า และขยายผลการจับกุมไปถึงผู้ว่าจ้างให้จดทะเบียนบริษัทและเปิดบัญชีม้านิติบุคคลด้วย
นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กล่าวว่า สำนักงาน ปปง. มีบทบาทหลักในการประกาศรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐานซึ่งรวมถึงความผิดกรณีบัญชีม้า ทั้งกรณีบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล และให้หน่วยงานต่าง ๆ นำข้อมูลไปใช้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบัน อยู่ระหว่างพิจารณากำหนดแนวทางจัดการกับนิติบุคคลเสี่ยงให้ชัดเจนขึ้น เพื่อให้สามารถจัดการบัญชีม้าได้อย่างเหมาะสม โดยต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบคอบด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจและนิติบุคคลที่สุจริต รวมถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจ
นายเอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า “ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ (ศูนย์ AOC) มีหน้าที่หลักในการให้บริการสายด่วนหมายเลข 1441 ตลอด 24 ชั่วโมง แบบ One Stop Service ให้กับผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงทางออนไลน์ โดยข้อมูลล่าสุดพบว่าบัญชีม้าบุคคลธรรมดามีจำนวนลดลง ขณะที่มีการนำบัญชีนิติบุคคลมาใช้หลอกลวงประชาชนมากขึ้น จึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดตั้งกลไกในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน โดยใช้ศูนย์ AOC เป็นศูนย์รวม และในระยะต่อไปจะนำเทคโนโลยีมาใช้ประมวลผลอาชญากรรมออนไลน์ เพื่อปรับปรุงการทำงานตามนโยบายให้สอดคล้องและรวดเร็ว สร้างความปลอดภัยยิ่งขึ้นให้กับประชาชน
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ให้ความสำคัญและเพิ่มความเข้มข้นในการปราบปรามบัญชีม้านิติบุคคล โดยกรมได้เชื่อมข้อมูลกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) และกำหนดมาตรการเข้มในการจัดการบัญชีม้านิติบุคคล ดังนี้
(1) ออกคำสั่งสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ที่ 3/2567 เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์การจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดของบุคคล โดยเมื่อมีบุคคลตามรายชื่อในบัญชี HR-03 ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐานของ ปปง. มาขอจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลและแจ้งชื่อเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการหรือกรรมการบริษัท จะให้บุคคลดังกล่าวมาแสดงตัวยืนยันตัวตนต่อหน้านายทะเบียนก่อนรับจดทะเบียน และส่งชื่อนิติบุคคลดังกล่าวให้ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) เพื่อการติดตามขยายผลต่อไป
(2) ทุกครั้งที่ AOC แจ้งการอัปเดตบัญชีรายชื่อ HR-03 กรมจะตรวจสอบ และหากพบนิติบุคคลที่มีกรรมการหรือหุ้นส่วนผู้จัดการอยู่ในบัญชี HR-03 จะแจ้งกลับ AOC เพื่อขยายผลต่อไป
ความร่วมมือครั้งนี้ จะป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพนำบัญชีนิติบุคคลไปใช้กระทำความผิดและสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน โดยทุกหน่วยงานพร้อมร่วมมือกันเพิ่มเติม เช่น ขยายการจัดการไปถึงบัญชีนิติบุคคลที่มีผู้เกี่ยวข้องเป็นบุคคลที่ถูกแจ้งความ แม้จะยังไม่อยู่ในรายชื่อเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐานของสำนักงาน ปปง. รวมถึงการกำหนดมาตรการจัดการการถ่ายโอนเงินผ่านช่องทางสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อแก้ไขปัญหาภัยทุจริตทางการเงินให้ได้อย่างครบวงจรและยั่งยืนต่อไป
ประชาชนที่มีข้อสงสัยสามารถติดต่อธนาคารเจ้าของบัญชีหรือศูนย์ AOC 1441