ปมร้อนข่าวลึก : ฝ่ายค้านถอย แก้ญัตติซักฟอก จังหวะเป็นใจ เสียของไม่ได้
จากญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านดันเอาชื่อ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีใส่เข้าไปด้วย ตราบใดที่ยังมีชื่อ ทักษิณ อยู่ในญัตติ หัวเด็ดตีนขาด ประธานสภาไม่ยอมแน่ เพราะสัญญาณมันชัดว่า แกนนำรัฐบาลไม่ต้องการให้มีการชื่อ ทักษิณ อยู่ในญัตติซักฟอกแม้แต่คำเดียว ฝ่ายค้านก็จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ได้ พรรคประชาชนดูเหมือนจะดื้อดึงและดันทุรัง แต่ท้ายที่สุดก็เป็นฝ่ายถอย ตามปฏิกิริยาที่พยายามหาคำทดแทนชื่อ ทักษิณ ล่าสุด ไม่ว่าจะเป็น ผู้ชายคนนั้น หรือ คนที่คุณก็รู้ว่าใคร ต่างๆ นานา
จริง ๆ แล้วพรรคประชาชนไม่ได้อยากขย้ำเรื่องของ ทักษิณ เท่าไหร่ เพราะเต็มที่ก็ทำได้แค่สะใจ เพราะสิ่งที่ประชาชนคาดหวังจากพรรคส้มคือ การทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล การเปิดแผล การชำแหละความไม่ชอบมาพากลให้ได้มากที่สุด ไม่ได้อยากเห็นวิธีการทางการเมืองเดิมๆ แบบตีหัวหมาด่าแม่เจ๊ก น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง
ตีเหล็กยามร้อนดีกว่า
หากไม่มีการซักฟอก งานนี้เสียของแน่ เพราะเวลานี้ฝ่ายค้าน ได้จังหวะและไทม์มิ่งเหมาะสมที่จะเปิดเวทีชำแหละรัฐบาล
โดยเฉพาะประเด็นที่ลูกพรรคอย่าง หนูไอซ์-รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน สวมบทโคนันสาว เปิดฉากชำแหละโครงการต่างๆ ที่บอร์ดประกันสังคม นำเงินไปลงทุนแปลกๆ โดยเฉพาะใช้เงินกองทุนไปซื้อตึกย่านรัชดาภิเษก ที่มีมูลค่า 3 พันล้านบาท ในราคา 7 พันล้านบาท เมื่อปี 2565 สมัย สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ เป็น รมว.แรงงาน ในรัฐบาลชุดที่แล้ว
และเรื่องสิทธิต่างๆ ที่ประชาชนได้ ก็ดูเพียงน้อยนิด จนเกิดอิมแพ็กใหญ่ บอร์ดประกันสังคมเห็นชอบปรับสูตรบำนาญใหม่
ถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงของ รักชนก และพรรคประชาชน ที่แม้แต่คนที่ไม่ชอบพรรคสีส้ม ยังต้องเอ่ยปากชมว่า เป็นประเด็นที่ดี มีประโยชน์ต่อประชาชนและสังคมมาก
ประเด็นนี้จึงน่าจะมีอะไรให้ขยี้และขยายอีกเยอะ ฉะนั้น หากไม่มีเวทีซักฟอกให้ รักชนก ได้โชว์ของ ถือว่าน่าเสียดาย
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีอีกหลายประเด็นที่กำลังร้อนๆ มีสิ่งที่ฝ่ายค้านสามารถนำไปชำแหละรัฐบาลได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่ก่อนหน้านี้ รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ ได้รับตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมตซ์ ในฐานะที่เป็นคนเกาะติด แบบกัดไม่ปล่อย จนนำมาสู่ปฏิบัติการปราบปรามจริงจังในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งยังมีตัวละครอีกหลายตัวที่น่าจะถูกนำเสนอ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องหรือพัวพัน หรือล่าสุดประเด็นการตายของ อดีตผู้กำกับโจ้ ธิติสรรค์ อุทธนผล ในเรือนจำคลองเปรม ที่มีความไม่ชอบมาพากล และจุดต้องสงสัยหลายอย่าง ซึ่ง เดอะเท้ง-ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ถึงขั้นลงไปดูพื้นที่ร่วมกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ด้วยตัวเอง
เรื่องพวกนี้น่าเสียดายถ้าไม่มีเวทีอย่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจให้พรรคประชาชนได้ฉายแสง เพื่อกอบกู้เรตติ้ง หลังที่ผ่านมาหลายคนผิดหวังกับฟอร์มฝ่ายค้านที่แผ่วไปพักใหญ่
ดูแล้วถอยดีกว่า ไม่เอาชื่อทักษิณดีกว่า แต่ถอยแบบมีชั้นเชิงสักหน่อย ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะแก้เกม ไม่แก้ญัตติ แต่เขียนญัตติใหม่แล้วค่อยไปยื่นต่อประธานสภาฯ
เพราะญัตติที่ยื่นไปก่อนหน้านี้ซึ่งมีปัญหา ยังไมได้รับการบรรจุแต่อย่างใด แต่ประธานสภาฯให้กลับมาแก้ไข เพราะเห็นว่า ผิดข้อบังคับ นั่นเท่ากับว่า ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉะนั้น หากฝ่ายค้านจะแก้เกมด้วยวิธีแบบนี้ก็ย่อมทำได้
และอาจเป็นไปได้ว่า อาจจะไม่ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนเดียวเหมือนรอบแรก แต่อาจจะอภิปรายรัฐมนตรีรายบุคคลด้วย ตามโพยที่รั่วออกมาก่อนหน้านี้ จำนวน 10 คน ประกอบด้วย แพทองธาร, ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม, อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย, พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและรมว.พลังงาน, มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ, พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ, เอกนัฎ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และ สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์
คนเหล่านี้มีประเด็นให้ฝ่ายค้านซักฟอกหมด จึงเป็นไปได้ว่า พรรคส้มอาจจะกลับไปยึดโพยเดิม หรือปรับเปลี่ยนบุคคลนิดหน่อย
จะขยี้แผลระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้ด้วย
ซึ่งการซักฟอก แพทองธาร คนเดียว เหมือนเสียของ ได้แค่ความสะใจเท่านั้น แต่หวังผลทางการเมืองไม่ได้มาก
เหล็กต้องตีตอนร้อน ซึ่งตอนนี้เหล็กกำลังร้อน ถอยเพื่อรุก ถูกใจประชาชนที่สุด