xs
xsm
sm
md
lg

ปมร้อนข่าวลึก : เศรษฐกิจไทยถึงทางตัน? หันหน้าพึ่งเงินอบายมุข กาสิโน - พนันออนไลน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปมร้อนข่าวลึก : เศรษฐกิจไทยถึงทางตัน? หันหน้าพึ่งเงินอบายมุข กาสิโน - พนันออนไลน์

ท่ามกลางความพยายามในการผลักดันร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งเวลานี้ยังลูกผีลูกคนอยู่ว่าคณะรัฐมนตรีจะสามารถผลักดันเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้หรือไม่ ภายหลังยังมีประเด็นและข้อคิดเห็นที่คณะรัฐมนตรี และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มีความเห็นไม่ตรงกัน

แต่ปรากฎว่าอีกด้านหนึ่งมีความพยายามของฝ่ายการเมืองในการผลักดันร่างกฎหมายเพื่อรับรองการพนันออนไลน์

โดยในเรื่องนี้กลายมาเป็นประเด็นและเกิดความพยายามจากภาครัฐได้เนื่องมาจากการที่นายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เคยแสดงความคิดเห็นในทำนองว่าการพนันออนไลน์เป็นธุรกิจที่มีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก ซึ่งรัฐควรดำเนินการควบคุมให้ถูกต้อง เพื่อสร้างรายได้ให้กับรัฐต่อไป

"ประเทศไทยมีคนเล่นพนันออนไลน์ประมาณ 2.5-4 แสนคน มีเงินฝากก่อนที่จะเล่น 3 ล้านล้านบาทต่อปี เล่นได้เสียปีหนึ่งประมาณ 5 แสนล้านบาท สมมติว่า ถ้าเก็บภาษี 20% ก็จะได้ประมาณ 1 แสนล้านบาท แต่ถ้าเก็บภาษีเงินฝาก 1% ก็จะได้เพียง 3 หมื่นล้านบาท ถ้าทำพนันออนไลน์ให้ถูกกฎหมายก็จะได้ภาษีเพิ่มมา 1 แสนกว่าล้านบาท" ตอนหนึ่งของการแสดงความคิดเห็นของนายทักษิณ บนเวทีเสวนา “Chat with Tony : Bull Rally of Thai Capital Market” เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา

นับจากนั้น ท่าทีของฝ่ายบริหารก็ต่างออกมารับลูกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยล่าสุดกระทรวงมหาดไทย ได้มีการเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ให้พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 ซึ่งอยู่ในระหว่างการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โดยแม้ว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะยังไม่ได้เป็นการแก้ไขเปลี่ยนให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมายโดยตรง แต่ด้านหนึ่งก็เหมือนเป็นสัญญาณที่ทำให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้กำลังเดินหน้าลุยเข้ากองไฟ

สำหรับร่างกฎหมายดังกล่าว มีสาระสำคัญ คือ การแก้ไขนิยามการพนัน และการพนันออนไลน์ ทันสมัย เหมาะสมกับสถานการณ์ รูปแบบการพนันใหม่ ๆ เพิ่มเติมอำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ โทษเดิม โทษใหม่ มีอำนาจตรวจสถานประกอบการได้ตลอดเวลา สั่งให้บุคคลปฏิบัติเท่าที่จำเป็นเพื่อตรวจสอบ เรียกผู้จัดให้เล่นมาให้ถ้อยคำหรือแจ้งข้อเท็จจริง เพิ่มบทสันนิษฐานความผิด ของที่พบหรือใช้ในวงพนัน หรืออาจเกี่ยวข้องเป็นของที่พึงต้องริบ เจ้าหน้าที่มีอำนาจยึดหรืออายัดได้ เพิ่มบทกำหนดโทษ กำหนดอัตราโทษสูงขึ้น สำหรับผู้เกี่ยวข้องทุกคน ไม่ว่าจะเป็น ผู้จัด จำคุกตั้งแต่ 3 เดือน -3 ปี ON-SITE จำคุกตั้งแต่ 5-10 ปี ผู้เล่น จำคุกไม่เกิน 3 ปี ON-SITE จำคุกไม่เกิน 3 ปี ผู้เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ เช่น ผู้ชักชวน ผู้โฆษณา ผู้ทำอุบาย หรือจูงใจให้เข้าเล่นพนัน จำจุกตั้งแต่ 7-12 ปี

เช่นเดียวกับ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ก็ยืนยันในหลักการแล้วว่าการพนันออนไลน์จะมีขึ้นได้แน่ โดยอยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในเดือนเมษายน

ท่าทีของฝ่ายรัฐบาลที่ออกมาเช่นนี้ กำลังเกิดคำถามครั้งสำคัญว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเข้าตาจนถึงขนาดที่ต้องหวังพึ่งเงินจากการพนันอย่างนั้นแล้วเหรอ? ทั้งๆที่รัฐบาลประกาศมาตลอดว่าเศรษฐกิจไทยมีทิศทางที่ดีและยังมีอนาคตที่สดใส

ในเรื่องการผลักดันธุรกิจจากใต้ดินมาสู่บนดิน ถ้ามองในมุมเชิงตัวเลขแน่นอนว่ามีตัวเลขมหาศาลและน่าลองกระโดดเข้าไปลงทุน โดยน่าจะสามารถทำให้รัฐได้รายได้ในรูปแบบของภาษีเงินได้นิติบุคคลหรือภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือแม้แต่ภาษีในรูปแบบอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก แต่ถ้ามองย้อนกลับในมุมของสังคมแล้ว ยังคงเป็นปริศนาว่าการสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตจากการพนันเป็นการกำหนดเข็มทิศทางไปถูกทางหรือไม่

ตัวอย่างความล้มเหลวหนึ่ง คือ ประเทศฟิลิปปินส์ โดยในประเด็นนี้ 'นวลน้อย ตรีรัตน์' ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน เคยให้ข้อมูลกลางเวทีเสวนาเรื่อง "สังคมเศรษฐกิจไทยในนโยบาย กาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย" เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ฟิลิปปินส์ที่เปิดให้มีกาสิโนถูกกำหมายมาตั้งแต่ปี 2520 เพื่อเพิ่มนักท่องเที่ยว บริหารโดยรัฐบาลแต่เพราะความหละหลวมของกฎหมายที่ให้ฝ่ายบริหารสามารถล้วงเงินไปใช้ได้ตลอด และมีการออกใบอนุญาตเพิ่มให้เอกชน จนทำให้การแข่งขันสูง สุดท้ายมีการขายใบอนุญาตเพิ่มให้ทำกาสิโนออนไลน์ได้อีก จนกระทั่งเกิดปัญหาการก่ออาชญากรรมจำนวนมาก ทำให้ในที่สุดต้องยกเลิกใบอนุญาตพนันออนไลน์ทั้งหมด

ตัวอย่างของความล้มเหลวมีให้เห็นแล้ว แต่ทำไมประเทศไทยกลับเลือกที่จะเดินสวนทาง เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้ว เรื่องการพนันแค่มองในแง่มโนสำนึก ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำให้เป็นเรื่องถูกกฎหมาย แม้จะมีบางฝ่ายที่มองว่าการไม่ยอมรับเรื่องการพนันนั้นเป็นคนดัดจริตก็ตาม
กำลังโหลดความคิดเห็น