xs
xsm
sm
md
lg

ปมร้อน ข่าวลึก : 4 คนดีลลับ 'ทักษิณ-อิ๊ง-เนวิน-อนุทิน' เคลียร์จบหรือรอแทงหลัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปมร้อน ข่าวลึก : 4 คนดีลลับ 'ทักษิณ-อิ๊ง-เนวิน-อนุทิน' เคลียร์จบหรือรอแทงหลัง

ชั่วโมงนี้การต่อสู้กันทางการเมืองไม่มีคู่ไหนสนุกเท่ากับศึกใหญ่ชนใหญ่ระหว่าง ‘พรรคเพื่อไทย’ และ ‘พรรคภูมิใจไทย’ เพราะต่างฝ่ายต่างเริ่มเก็บอาการกันไม่อยู่ หลังจากสะสมความแค้นกันมาสักพักก่อนจะมาปะทุผ่านการเล่นสงครามตัวแทน เพื่อปั่นประสาทซึ่งกันและกันในหลายกรณีจนยาวเป็นหางว่าว

ความแค้นที่ปะทุขึ้นมาทำให้เกิดเวทีเจรจาหยุดแทงกันข้างหลัง โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 4 คน ได้แก่ ‘ทักษิณ ชินวัตร‘ อดีตนายกรัฐมนตรี ‘แพทองธาร ชินวัตร‘ นายกรัฐมนตรี ‘อนุทิน ชาญวีรกูล‘ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ ‘เนวิน ชิดชอบ‘ นายใหญ่แห่งแดนอีสานใต้ของพรรคสีน้ำเงิน โดยการหารือเกิดขึ้นที่บ้านจันทร์ส่องหล้าของครอบครัวชินวัตร

เดิมทีก่อนหน้านี้มีข่าวมาตลอดการเจรจากันของทั้งสองพรรค น่าจะมีขึ้นที่โรงแรมหรูใจกลางเมืองตามที่ปรากฎภาพของเนวินมาที่สถานที่ดังกล่าว แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายไป จนกระทั่งมีข่าวออกมาว่าทั้งสองฝ่ายสี่คนมาพบกันจริงที่บ้านของทักษิณ โดยในเรื่องนี้ ‘อนุทิน’ ยอมรับเองว่า “ไปเป็นเรื่องปกติเป็นประจำอยู่แล้วทุกเดือน”

การยอมเปิดบ้านคุยกันในครั้งนี้ แม้อาจจะเกิดขึ้นบนความไม่สมัครใจของแต่ละฝ่ายมากนัก แต่ถ้าไม่คุยกันตอนนี้ งานใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้าอาจเสียหายและล้มลงอย่างไม่เป็นท่า

งานใหญ่ที่ว่านี้ไม่ได้อยู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เป็นการผลักดันร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งเป็นอภิมหาโครงการลงทุนครั้งใหญ่ของประเทศไทยตามที่พรรคเพื่อไทยตั้งใจไว้ โครงการนี้มีผลประโยชน์มหาศาลวางอยู่ตรงหน้า แต่ครั้นพรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าไปโดยลำพังก็กลัวว่าจะไปตกม้าตายกลางทางอีก

เนื่องจากบรรดานักกฎหมายระดับอ๋องในสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายเวอร์ชั่นของฝ่ายการเมืองที่เสนอผ่านกระทรวงการคลังมากนัก จึงเป็นที่มาที่ทำให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาปรับแก้ไขในหลายประเด็นที่ไม่ตรงใจพรรคเพื่อไทย

ด้วยเหตุนี้ การจะให้พรรคเพื่อไทยไปหักกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยลำพังก็อาจจะเป็นความเสี่ยงเกินไป จึงจำเป็นต้องมาหาแนวร่วมจากพรรคภูมิใจไทยด้วย

ว่าจะเดินจับมือผลักดันโครงการนี้ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่งหรือไม่

เพราะต้องไม่ลืมว่าอีกด้านหนึ่งพรรคภูมิใจไทยในฐานะเป็นเจ้ากระทรวงมหาดไทยก็เป็นเจ้าของกฎหมายการพนันด้วย ดังนั้น หากทั้งสองพรรคมองเห็นปลายทางของโครงการนี้ตรงกัน ก็พอจะทำให้ไปต่อกันได้

โดยหากไม่คุยกันและหลับหูหลับตาผลักดันเสนอร่างกฎหมายนี้เข้าสภา อาจจะมีบทสรุปลงเอยเหมือนร่างกฎหมายกัญชาที่ต้องล่มไม่เป็นท่าช่วงปลายรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อันเป็นการฝากรอยแค้นให้กับพรรคภูมิใจไทย

ที่สำคัญ ร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร ถือเป็นร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ซึ่งนายกฯเป็นผู้ลงนามเสนอมายังสภาผู้แทนราษฎร หากที่สุดแล้วไปไม่รอด แน่นอนว่าต้องเกิดกระแสให้นายกรัฐมนตรีออกแสดงความรับผิดชอบในทางการเมืองด้วยการยุบสภาผู้แทนราษฎรหรือลาออก ซึ่งนายกฯจะทนกับกระแสกดดันแบบนี้ไปได้อีกกี่น้ำ ดังนั้น การเจรจาหยุดแทงกันข้างหลังของทั้งสองพรรคที่ผ่านมา จึงมาได้ถูกจังหวะถูกเวลา

อย่างไรก็ตาม ภายใต้ความชื่นมื่นที่เกิดขึ้น ก็ยังก่อให้เกิดคำถามว่าเป็นจบลงด้วยดีหรือยังลับมีดรอแทงข้างหลังกันต่อ

เนื่องจากหลายๆเรื่องเองพรรคเพื่อไทยก็ยังกั๊กอยู่ เช่น การอนุมัติงบประมาณต่อสัญญาลิขสิทธิ์โมโตจีพี ซึ่งเป็นงานระดับโลกที่เป็นหน้าเป็นตาที่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับนายใหญ่บุรีรัมย์มาโดยตลอด หรือ จะเป็นกรณีการตรวจสอบเอกสารสิทธิในที่ดินเขาใหญ่ หรือแม้แต่ข้อพิพาทที่ดินเขากระโดง รวมไปถึงความชัดเจนในตำแหน่งรัฐมนตรีภายหลังเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ภายใต้รอยยิ้มที่เกิดขึ้นและความปรารถนาดีที่มอบให้แก่กันผ่านสื่อนั้น อีกมือหนึ่งอาจถือมีดรอแทงกันข้างหลังอีกครั้ง และครั้งนี้อาจเป็นฟางเป็นสุดท้ายจริงๆ ก็เป็นไปได้
กำลังโหลดความคิดเห็น