ปมร้อน ข่าวลึก : องครักษ์พิทักษ์นายกฯ 'วิสุทธิ์ ไชยณรุณ' ดาวสภา สู่คนปากแซ่บ
ชั่วโมงนี้ในแวดวงของผู้ติดตามข่าวสารการบ้านการเมือง คงจะคุ้นหน้าและคุ้นชื่อของ 'วิสุทธิ์ ไชยณรุณ' ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ภายหลังออกมาเป็นหัวหน้าหน่วยทะลวงฟันตอบโต้การทำงานของพรรคประชาชนอย่างดุเดือด อย่างล่าสุดก็เพิ่งสวนกลับฝ่ายค้านไปว่าระวังพรรคฝ่ายค้านจะถูกยุบ
“ฝ่ายค้านหวังจะให้ยุบสภาหลังการอภิปรายครั้งนี้ ฝันกลางวันหรือเปล่า ระวังนะ คอยดูแล้วกันว่าจะยุบสภา หรือจะยุบพรรคฝ่ายค้าน ไม่แน่นะ คอยดู” ถ้อยคำของประธานวิปรัฐบาล แม้จะไม่ได้ระบุว่าเป็นพรรคการเมืองใด แต่การออกตัวแบบนี้แน่นอนว่าย่อมหมายถึงพรรคประชาชน
เอาจริงๆแล้วเวลานี้พรรคประชาชนก็ไม่ได้มีภาระในการต่อสู้คดียุบพรรคแต่อย่างใด มีแค่เพียงการต้องไปชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาคดีมาตรา 112 ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ของส.ส.จำนวนหนึ่งเมื่อครั้งเป็นส.ส.พรรคก้าวไกล เท่านั้น โดยไม่มีผลต่อสถานะความเป็นพรรคการเมืองของพรรคประชาชน
ดังนั้น หากจะบอกว่าการออกตัวล้อฟรีของ 'วิสุทธิ์' ดูจะเป็นเล่นใหญ่เกินเบอร์ไปพอสมควร เพียงเพราะต้องการพลังของบริวารนายใหญ่
การปะทะคารมของ 'วิสุทธิ์' กับพรรคประชาชนตามที่ปรากฏให้เห็นเวลานี้ ไม่ได้เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยออกมาแสดงความไม่พอใจกรณีส.ส.พรรคประชาชนเสนอให้ตัดลดงบประมาณการสร้างฝายกั้นน้ำของพรรคประชาชน จนช่วงหนึ่งกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์
หรือเมื่อครั้งที่ทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญวิสามัญศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ของสภาผู้แทนราษฎร ก็ปรากฏว่าก็แสดงอภินิหารในการเร่งรัดการทำรายงานเสนอต่อที่ประชุมสภาฯ ถึงขนาดที่กรรมาธิการวิสามัญในสัดส่วนของพรรคประชาชนต้องประกาศขอถอนตัว เนื่องจากไม่ได้เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้
นับจากนั้นประธานวิปรัฐบาลรายนี้ก็เริ่มแสดงความเกรี้ยวกราดและเขี้ยวลากดินมากขึ้น โดยมีพรรคประชาชนเป็นคู่ปะทะ อย่างล่าสุดที่มีการตบโต๊ะว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ควรมีเพียงแค่หนึ่งวันเท่านั้น คือ วันที่ 24 มีนาคม และลงมติในวันที่ 25 มีนาคม โดยอ้างว่าฝ่ายค้านอภิปราย 'แพทองธาร ชินวัตร' นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว ซึ่งจะว่าไปแล้วถ้าพรรคเพื่อไทยหักหาญให้อภิปรายเพียงแค่วันเดียว ถือว่าอาจเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ผิดเพี้ยนไปในระยะยาวของฝ่ายนิติบัญญัติ
เห็น 'วิสุทธิ์' แสดงทักษะการใช้พลังปากได้ขนาดนี้ รู้หรือไม่ว่าครั้งหนึ่งเคยเป็นถึงรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สองสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตรมาแล้ว เท่านั้นยังเคยถูกสื่อมวลชนประจำรัฐสภาตั้งฉายาให้เป็นดาวเด่นอีกด้วย เนื่องจากเวลานั้นได้รับการยอมรับว่าเวลาขึ้นทำหน้าที่ประธานควบคุมการประชุม สามารถทำให้บรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างราบรื่น
โดยเฉพาะการกล้าตำหนิและตักเตือนส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นฝ่ายรัฐบาลในเวลานั้นกลางที่ประชุมสภา หรือแม้แต่การกล้าออกมาเรียกร้องและติติงรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยอย่างตรงไปตรงมาว่าควรให้ความสำคัญกับการทำงานในสภาฯ อย่างการตอบกระทู้ถามของส.ส.ในที่ประชุมสภาฯ เพื่อเป็นการให้ความเคารพต่อฝ่ายนิติบัญญัติที่กำลังทำหน้าที่แทนประชาชน
เวลานั้นทำให้แม้แต่ส.ส.ฝ่ายค้านก็ยังให้การยอมรับว่าทำหน้าที่ได้ดีเมื่อเทียบกับประธานสภาฯและรองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง
ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าอดีตรองประธานสภาฯที่ชื่อ 'วิสุทธิ์' แทบไม่เหลือเค้าของความเป็นดาวสภาเหลืออีกอยู่เลย ภายหลังเลือกที่จะเล่นบทบาทผู้ใหญ่ที่ไม่น่ารักด้วยการพยายามแสดงท่าทีขัดแข้งขัดขาการทำงานของพรรคประชาชนและฝ่ายค้านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แม้การออกมาเล่นใหญ่เล่นแรงของอดีตรองประธานสภาฯ จะสามารถช่วงชิงกระแสได้มากขึ้น แต่ในระยะยาวแล้วอย่าลืมว่าประชาชนที่ติดตามการเมืองในวันนี้ไม่เหมือนกับประชาชนในอดีต โดยทุกอย่างถูกบันทึกในโลกออนไลน์ และพร้อมจะย้อนกลับมาผลร้ายให้กับพรรคเพื่อไทยได้ทุกเวลา