ปมร้อน ข่าวลึก
**** พรรคส้มกะซัดนายกฯ เดี่ยวๆในฐานะผู้นำประเทศอยู่แล้ว สอดคล้องกับแนวร่วมฝ่ายค้าน พรรคพลังประชารัฐ ที่ส่งหัวข้ออภิปรายไปให้พรรคประชาชน ตั้งใจถลกรัฐบาล4 เรื่องใหญ่
ข้อมูลยืนยันตรงกัน ฝ่ายค้านนำโดยพรรคประชาชนตั้งใจขึงพืดอภิปรายไม่ไว้วางใจ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนเดียวมาตั้งแต่ต้นแล้ว ส่วนรัฐมนตรีอีก 9 คน ที่ข้อสอบรั่วออกมา ไม่ได้เปลี่ยนแผนแต่อย่างใด แต่ตั้งใจตั้งแต่แรกจะซัดไปที่นายกฯ เดี่ยวๆในฐานะผู้นำประเทศ สอดคล้องกับแนวร่วมฝ่ายค้านอย่างพรรคพลังประชารัฐ ที่ส่งหัวข้ออภิปรายตัวเองไปให้พรรคประชาชนทราบ ตั้งใจถลกรัฐบาลใน 4 เรื่อง ได้แก่ คดีที่ดินอัลไพน์, เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์, คดีป่วยทิพย์ชั้น 14 และเอ็มโอยู 44 ซึ่งจะซักฟอก อุ๊งอิ๊ง คนเดียวเหมือนกัน
งานนี้เรื่อง อุ๊งอิ๊ง บอบช้ำเพราะโดนรับน้องไม่น่าสนใจเท่าไหร่ ผู้คนโฟกัสไปที่ความสามัคคีในรัฐนาวามากกว่า โดยเฉพาะศึกในระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย ที่เปิดฉากเล่นสงครามตัวแทน ซึ่งการที่ฝ่ายค้านซักฟอกตัวนายกฯคนเดียว ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลได้แต้มต่อ โดยเฉพาะเรื่องเสียงโหวต หากพรรคร่วมบางพรรคที่กุมเสียงไว้เยอะสุมหัวกัน ไม่มาตามนัดในวันโหวต ตัวนายกฯมีสิทธิ์ตกเก้าอี้คาสภาได้
ช่วงก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นไปได้สูงที่ค่ายสีแดงจะส่งสัญญาณสงบศึกชั่วคราวกับค่ายสีน้ำเงิน เพื่อรักษาเสถียรภาพของรัฐบาล ซึ่งมีสัญญาณให้เห็นแล้ว หลังคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือบอร์ดคดีพิเศษ เลื่อนลงมติรับคดีฮั้ว สว.ออกไปเป็นวันที่ 6 มี.ค. ทั้งที่จากเดิมขึงขังจะดันเข้าเป็นคดีพิเศษให้ได้ ดูแล้วฝ่ายสีแดงไม่กล้าเปิดเกมรุกไล่ในช่วงนี้แน่ เพราะหากค่ายสีน้ำเงินเอาคืนด้วยการตุกติกขึ้นมา งานนี้มีโอกาสบันเทิงสูง
#########
****เคลียร์เรื่องมาตรฐานจริยธรรม นิยามคำว่า “ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์” มันครอบคลุมแค่ไหน ปูทาง “ผู้กองยอดรัก”กลับครม.
การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังประชุมวาระทั่วไปเสร็จสิ้น ได้มีการเชิญบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป เหลือแต่รัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการบางคนที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือกันเรื่องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญกรณีของ เศรษฐา ทวีสิน แต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ จนหลุดเก้าอี้ผู้นำ โดยที่ประชุมอยากเคลียร์เรื่องมาตรฐานจริยธรรม โดยเฉพาะนิยามคำว่า “ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์” มันครอบคลุมแค่ไหน เลยมอบหมายให้ ชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ มือกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยกร่างส่งเรื่องไปสอบถามศาลรัฐธรรมนูญ
การมาถามเรื่องคุณสมบัติช่วงนี้ มันเลยถูกโยงไปที่ข่าวคราวการปรับ ครม.หลังจบศึกซักฟอกในเดือน มี.ค. ว่าเป็นการเตรียมพร้อม หรือตั้งใจจะถามให้ใครหรือไม่ เพราะตอนตั้ง ครม.แพทองธาร 1 ก็ไม่ได้ถามมาที่ศาลรัฐธรรมนูญ โดยหลายคนโฟกัสไปที่ชื่อของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ที่ขณะนี้เป็นคีย์แมนคนสำคัญของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งรอบแรก หนูอิ๊งค์ กลัวตกเก้าอี้ซ้ำรอยเศรษฐา ไม่กล้าตั้งเพราะคุณสมบัติคลุมเครือ แต่หนนี้เหมือนมีความพยายามผลักดัน ร.อ.ธรรมนัสกลับมานั่งเป็นเสนาบดีอีกหน เพื่อจะปูนบำเหน็จให้
แต่เสียงลือเสียงเล่าอ้างลอยมา นอกจากข้อกฎหมายที่นายกฯลูกสาวกลัวหากตั้ง ยังมีเรื่องภาพลักษณ์ ครม. สุดท้ายเลยต้องพึ่งศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าโอกาสน้อยที่จะตอบกลับมา จนดูเหมือนว่า ที่ส่งไปเพื่อเป็นทางออกให้กับตัวเองว่า ได้พยายามช่วยแล้ว แต่มันตั้งไม่ได้จริงๆ
#########
**** พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เสร็จเรียบร้อย เตรียมทางด่วนเข้าครม.
คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะพิเศษ ที่มี วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี นั่งเป็นประธาน ปรับถ้อยคำในร่าง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เสร็จเรียบร้อย ล่าสุดส่งเรื่องกลับไปยังสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เรียบร้อยแล้วเหมือนกัน ขณะนี้ สลค.อยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง หากจบไว จะชงเข้าที่ประชุม ครม.วันจันทร์ที่ 3 มี.ค.นี้เลย แต่หากไม่ทันจะเป็นการประชุม ครม.วันอังคารที่ 11 มี.ค.นี้แทน
เนื้อหาสาระเหมือนที่มีการเผยแพร่ออกมา โดยเฉพาะเรื่องเงินในบัญชีของผู้ที่จะเข้าไปเล่นต้องมี 50 ล้านบาท ซึ่งแม้ เสี่ยหนิม จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง จะไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไหร่ แต่ดูแล้วน่าจะไม่มีปัญหาในชั้น ครม. เพราะสามารถเอาไปปรับแก้กันได้ในชั้นกรรมาธิการเมื่อเข้าไปสู่สภา
โดยหาก ครม.ไม่ตัดขัดอะไรก็สามารถส่งให้วิปรัฐบาลนำเข้าไปเสนอเพื่อพิจารณากันในสภาผู้แทนราษฎรต่อ แต่ดูแล้วคงไม่จบง่ายๆ เพราะสายยื้ออย่างพรรคภูมิใจไทยไม่ให้ผ่านง่ายๆ แน่ หากสิ่งที่ต้องการยังไม่ได้ คิวขบเหลี่ยมเฉือนคม ยังมีให้ดูต่อระหว่างศึกสีแดงกับสีน้ำเงิน
#########
*****ส่งอุยกูร์กลับจีน รัฐบาลเสียรังวัด ตรงที่ทำอะไรลับๆ ล่อๆ ไม่เปิดเผย ซวยถึง อุ๊งอิ๊ง
กลายมาเป็นปมร้อนๆ ก่อนศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ กรณีรัฐบาลส่งชาวอูยกูร์ 40 ชีวิต กลับไปให้ประเทศจีน ซึ่งฝ่ายค้าน นำโดยพรรคประชาชน ออกโรงประณามรัฐบาลเพราะห่วงความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นหลังส่งตัวไป งานนี้สังคมเสียงแตก ฝ่ายหนึ่งไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลทำ เพราะมองมิติเรื่องมนุษยธรรม ความเป็นคน แต่อีกฝ่ายเห็นด้วย เพราะรัฐบาลต้องใช้งบประมาณปีๆ นึงไม่น้อยในการดูแลคนเหล่านี้ เรื่องนี้ทำเอารัฐบาลก้นร้อน อยู่เฉยไม่ได้ ต้องตั้งโต๊ะแถลงกันตอนหัวค่ำ ยืนยันว่า ได้ขอให้จีนดูแลเรื่องความปลอดภัยคนเหล่านี้ แถมยังจะเอาสื่อตามไปดูชีวิตความเป็นอยู่หลังส่งไป เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีอะไรรุนแรง
งานนี้รัฐบาลเสียรังวัด ตรงที่ทำอะไรลับๆ ล่อๆ ไม่เปิดเผย ซวยถึง อุ๊งอิ๊ง ที่โดนตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่เดินทางไปจีนกลับมาได้ไม่กี่วัน ถูกตั้งข้อสงสัยแรงๆ ไปแลกเปลี่ยนเรื่องนี้มาด้วยหรือเปล่า