xs
xsm
sm
md
lg

“สามพี่น้องหัวใจกตัญญู” เรียนด้วย ช่วยย่าหารายได้ทุกทาง บางวันไม่มีตังค์ไปโรงเรียน กินแค่น้ำประทังหิว!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปที่ จ.ราชบุรี เพื่อรู้จักครอบครัวหนึ่ง ซึ่งค่อนข้างอัตคัดขัดสน แม้ผู้เป็นย่าจะพยายามสู้เพื่อหลาน แต่สุขภาพก็เริ่มเสื่อมถอย โชคดีหลานๆ เปี่ยมด้วยความกตัญญู ช่วยย่าสู้ทำงานหารายได้ทุกทาง จะอิ่มหรืออดแค่ไหน พร้อมสู้ไปด้วยกัน



“ฝ้าย-บีม-ฟิล์ม” สามพี่น้องวัย 18-16-13 อาศัยอยู่กับย่าวัย 61 หรือป้ามาลี ยิ่งยงค์ ผู้เป็นเสาหลักในการหารายได้เลี้ยงดูหลานๆ ที่ จ.ราชบุรี หลังแม่น้องทิ้งไปตั้งแต่ลูกคนเล็กอายุแค่ 6 เดือน ส่วนพ่อ ปัจจุบันสมองไม่ปกติ ไม่ค่อยรับรู้อะไร แต่พอช่วยทำงานได้บ้าง ถ้าแม่บอกให้ช่วยทำอะไร


ก่อนหน้านี้ ป้ามาลีหาเลี้ยงหลานด้วยอาชีพเก็บผักขาย แต่มีอันต้องเลิก และหันมาเผาถ่านขายแทน“ช่วงนี้ตลาด(ตลาดอมยิ้ม)ไม่มีคนเดิน ผักก็หายากเพราะแห้งแล้ง ขาป้าก็ไม่ค่อยดี ตาหูมันฝ้าขึ้น เลยหยุด เลยมาหาเผาถ่านขาย”


ป้ามาลียอมรับว่า หลังจากเผาถ่านขาย รายได้ลดลงมาก“ตอนนั้นคนเยอะขายผักก็พอขายได้ อาทิตย์หนึ่งได้พันกว่าบาท ลงทุน 300-400 หาผักขาย หาผักพื้นบ้านผสม แต่เผาถ่านขายได้แค่เดือนละ 1,500-2,000 บาท”


แม้ลูกชายของป้ามาลีอีกคนที่มีครอบครัวไปแล้ว จะส่งความช่วยเหลือมาบ้างตามอัตภาพ แต่การกินอยู่ของย่าและหลานๆ ก็ยังคงลำบาก อดบ้างอิ่มบ้าง


“ฝ้าย” วิภาดา ทองมาก หลานคนโต ยอมรับว่า ครอบครัวไม่ค่อยมีอะไรกิน“มันมี แต่มีไม่พอกิน 4-5 คน ก็จะเฉลี่ยๆ กัน แบบมีไข่ 5 ฟอง บางคนกินไปแล้ว 2 ฟอง บางทีหนูข้าวเย็นก็ไม่กิน ข้าวเช้าหนูก็ไม่กิน หนูก็หาพวกผลไม้กิน (ถาม-ส่วนใหญ่ใครเสียสละให้คนอื่นกิน?) ก็มีหนูกับย่า ให้น้องกิน”


ในยามขัดสน และเสาหลักของครอบครัวสุขภาพไม่ดี โชคดียังมีหลานกตัญญู ช่วยแบ่งเบากำลังของย่า ทั้งงานในบ้าน หุงข้าวทำกับข้าว และงานนอกบ้าน ไปหาฟืนตัดฟืนเพื่อมาเผาถ่าน สอยมะขามเปรี้ยวมาไว้ขาย บางครั้งถึงขั้นต้องปีนต้นมะขามเพื่อเขย่าให้มะขามร่วงก็ทำ รวมถึงการเก็บถ่าน แบกถ่านทั้งกระสอบ เรียกได้ว่า หนักเอาเบาสู้ พร้อมช่วยย่าสู้เพื่อให้มีรายได้เข้าบ้าน แม้ไม่มากมายก็ตาม


ไม่เท่านั้น หลานคนโตอย่างฝ้าย ซึ่งเก่งด้านกีฬา ยังนำเบี้ยเลี้ยงที่ได้จากการแข่งกีฬามาจุนเจือครอบครัวด้วย“ช่วงปิดเทอม หนูไปแข่งกีฬาบ้าง แข่งบอล วอลเลย์ฯ บ้าง และมีเป็นตัวแทน จ.ราชบุรี ไปเป็นนักกีฬารักบี้ (ถาม-เป้าหมายหนูอยากเป็นนักกีฬาอาชีพไหม?) ตอนนี้ยังไม่มี แต่ก็เล่นไปก่อน เพื่อได้ค่าเบี้ยเลี้ยงมาจุนเจือบ้าน”


น้องฝ้าย บีม และน้องฟิล์ม เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน ซึ่งทั้งสามยอมรับว่า การหารายได้ของครอบครัวที่ค่อนข้างจำกัด ส่งผลต่อการกินอยู่ ทั้งที่บ้านและโรงเรียน บางวันไม่มีตังค์ไปโรงเรียน ยอมอดข้าว กินแค่น้ำเพื่อประทังหิว


ย่า : “ย่าก็ถามหลานๆ วันนี้ไม่มีตังค์ หนูจะไปเรียนไหม เขาบอก ไม่มี หนูก็ไปได้...”

ฝ้าย : “บางทีเพื่อนถามว่า กินข้าวยัง หนูก็บอกไม่หิว กินมาแล้ว บางทีก็เอาขวดไปกรอกน้ำกิน เพื่อนจะถามว่า ทำไมวันนี้กินน้ำทั้งวันเลย หนูก็บอกว่า กินอะไรไม่ค่อยลง เป็นกรดไหลย้อน (ถาม-กินน้ำต่างข้าว?) ค่ะ (ถาม-แล้วมีแรงหรือเรียนรู้เรื่องหรือ?) บางวันก็เรียนรู้เรื่อง บางวันก็เรียนไม่รู้เรื่อง บางทีก็หลับคาโต๊ะ”


บีม : “ถ้าไม่มีตังค์ไปโรงเรียน ต้องกินน้ำอย่างเดียว บางครั้งเพื่อนถาม ก็จะบอกว่าไม่ค่อยหิว (ถาม-เป็นบ่อยไหมภาวะที่มันขัดสนแบบนี้?) บ่อยอยู่ค่ะ”


ฟิล์ม : “เวลาไม่มีตังค์ ผมก็ยืมขวดน้ำเพื่อน เอาขวดไปกินน้ำ อดข้าว (ถาม-แล้วหิวไหม?) หิวครับ (ถาม-เห็นเพื่อนกินแล้วไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือ?) รู้สึกหิว อยากกิน”


ความจนไม่ได้ส่งผลแค่เรื่องการกินอยู่ แต่ยังทำให้อนาคตด้านการเรียนของฝ้าย ที่เพิ่งจบ ม.6 ไม่สามารถเดินตามฝันได้ เพราะชีวิตไม่มีทางเลือกมากนัก“หนูอยากเป็นตำรวจหรือไม่ก็ทหาร 2 ทีนี้พอเรารู้ว่ากำลังเราไปไม่ไหว หนูก็แค่อยากทำงานแล้วมีเงินดีกว่า หนูสอบติดที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา คณะนิติศาสตร์ แต่ไม่ได้ยืนยันสิทธิ์ เพราะค่าใช้จ่ายที่โน่นสูง ที่บ้านคงไม่ไหว เลยเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง คณะคุรุศาสตร์ สาขาพลศึกษา เพราะใกล้บ้าน และหนูถนัดเรื่องกีฬาด้วย ตอนนี้มอบตัวแล้ว 1,500 บาท แต่ค่าเทอม 1 หมื่นบาทยังไม่ได้จ่าย”


แม้ความฝันที่อยากเป็นตำรวจหรือทหารต้องพับไป แต่ลึกๆ แล้ว ฝ้ายอยากทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวมากกว่า และพร้อมเสียสละให้น้องๆ ได้เรียน หากวันใดความจนกระทบอนาคตน้อง “ถ้าน้องหนูจะไม่มีโอกาสได้เรียนต่อ หนูก็ยอมเสียสละ หนูก็จะไม่เรียน หนูจะทำงานส่งน้องเรียนแทนหนูให้ได้”


ขณะที่เรื่องบ้านที่อยู่อาศัยก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สร้างความลำบากให้กับย่าและหลานๆ ในช่วงที่ผ่านมา“ตอนนี้บ้านของหนูกำลังซ่อมแซมอยู่ ตัวบ้านซึ่งเป็นปูนแตกร้าวหมดเลย มันแตกจนช่างบอกว่า มันโยกแล้วนะมันจะทับอยู่แล้ว ถ้าไม่ทำ ก็ทับได้ ถ้าลมมาแรงจริงๆ ตอนนี้ซ่อมแซมหลังคา ก่อนหน้านี้มีพี่ๆ ที่ใจบุญช่วยเหลือมาบ้าง แต่ยังขาดเยอะอยู่”


ไม่ใช่แค่การกินอยู่ที่ลำบาก แต่สุขภาพของย่าก็เสื่อมถอยลงทุกวัน ทั้งโรคความดัน ทั้งปวดเข่า สะโพกเสื่อม อดถามย่าไม่ได้ว่า ถ้าวันใดร่างกายทำงานไม่ไหว แล้วใครจะดูหลานต่อ?)“ก็เคยคุยกับหลาน ถ้าไม่มีย่า จะทำยังไง เขาก็บอกว่า ต้องสู้ เขาบอกแล้ว เขาสู้ แต่คนใหญ่เขาสู้ เขาสู้สุดๆ”


ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหน 3 พี่น้องพร้อมสู้ โดยมีเป้าหมายเดียวกัน คือไม่อยากให้ย่าเหนื่อย อยากให้ย่าสบาย ไม่ต้องทำงาน อยากให้ครอบครัวมีกินมีอยู่ที่ดีขึ้น


หากท่านใดต้องการช่วยเหลือหรือสนับสนุนทุนการศึกษาของหลานๆ โอนไปได้ที่ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี น.ส.มาลี ยิ่งยงค์ เลขที่บัญชี 744-0-37478-9


คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “หนูจะช่วยย่าสู้”
https://www.youtube.com/watch?v=meIFWSWTGPQ


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 11.30-12.00 น. ทาง NEWS1 (กล่อง IPTV ของ NT ช่อง 64 / กล่อง AIS Play Box ช่อง 615 / กล่อง True ID ช่อง 19)

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos


กำลังโหลดความคิดเห็น