กระทรวงพาณิชย์ ร่วม ซีพี แอ็กซ์ตร้า ส่งเสริมธุรกิจโฮเรก้า ธุรกิจโชห่วย และธุรกิจรายย่อย พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ พร้อมพลิกโฉม แม็คโคร สาทร ศูนย์กลางทางธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฝั่งใต้ ร่วมกระตุ้นจับจ่ายผ่านมาตรการ ‘Easy E-Receipt 2.0’ปักหมุดสู่การเป็นจุดหมายปลายทางค้าส่งรูปแบบใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ
(23 ม.ค.68) นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นสักขีพยาน การลงนามความร่วมมือ (MOU) ด้านการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพธุรกิจโฮเรก้า (ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจบริการจัดเลี้ยง) ธุรกิจโชห่วย และธุรกิจรายย่อย ระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กับ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจค้าส่งค้าปลีก “แม็คโคร-โลตัส” ซึ่งถือเป็นพันธมิตรกับกระทรวงพาณิชย์
นายนภินทร เปิดเผยว่า SMEs ถือเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจไทย เป็นหน่วยเศรษฐกิจขนาดเล็กที่มีความสำคัญระดับประเทศ นโยบายสนับสนุน SMEs ของรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์เป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยรัฐบาลมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ขยายตลาด และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ รวมทั้งเพิ่ม GDP SME จาก 35.2% เป็น 40% ในปี 2570
MOU ฉบับนี้จะช่วยให้ SMEs ประกอบด้วย ผู้ประกอบธุรกิจโฮเรก้า ธุรกิจโชห่วย และธุรกิจรายย่อย เกิดการพัฒนาและเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการส่งเสริมธุรกิจโฮเรก้า และธุรกิจโชห่วย และธุรกิจรายย่อย มีการพัฒนาอย่างเป็นระบบ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการ พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโอกาส สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และเป็นกำลังสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยได้อย่างยั่งยืน ซึ่งสอดรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพให้กับ SMEs ทุกภาคส่วน ยกระดับธุรกิจให้มีความเข้มแข็งแข่งขันได้ รวมทั้งผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของธุรกิจโฮเรก้า ในระดับเอเชีย
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวเสริมว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และซีพี แอ็กซ์ตร้าฯ ได้ร่วมกันพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร เพื่อเป็นการเสริมสร้างองค์ความรู้ให้แก่ธุรกิจร้านอาหารอย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้สอดรับกับนโยบายสำคัญของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วทุกภูมิภาค และเป็นการขยายโอกาสทางการตลาดให้กับผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวที่จะช่วยกระจายรายได้ให้แก่เศรษฐกิจชุมชน การพัฒนาจำเป็นต้องให้ความสำคัญในทุกด้าน ตั้งแต่การพัฒนาคุณภาพบริการไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาร้านโชห่วยไทยให้เป็น “สมาร์ทโชห่วย” มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเสริมสร้างองค์ความรู้ การปรับภาพลักษณ์ร้านค้า และการส่งเสริมให้ร้านค้าใช้เทคโนโลยี POS ในการบริหารจัดการ ส่งผลให้ร้านโชห่วยสามารถแข่งขันได้ทุกระดับ ช่วยให้มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น และในปีนี้จะร่วมกันพัฒนาผู้ประกอบการโดยเน้นการใช้ช่องทางออนไลน์ อาทิ การเรียนรู้ในรูปแบบของ e-learning เพื่อให้เข้าถึงโชห่วยมากขึ้น รวมทั้งการจัดสัมมนาออนไลน์เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน นายนภินทร ร่วมเปิดโฉมใหม่ แม็คโคร สาทร ศูนย์กลางทางธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฝั่งใต้ โดยเปิดโซนใหม่ Rotisserie conner มุมอาหารอบพร้อมทาน มอบประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ รวบรวมสินค้าอุปโภคบริโภคที่ตอบโจทย์ลูกค้าในพื้นที่ เชื่อมต่อการเดินทางกับระบบขนส่งมวลชนที่สะดวกสบายหลากหลายเส้นทาง พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจใจกลาง CBD ปักหมุดสู่การเป็นจุดหมายปลายทางค้าส่งรูปแบบใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ
การปรับโฉมสาขาสาทร ไม่เพียงแต่จะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการบริการและการซื้อสินค้าให้กลุ่มผู้ประกอบการ ธุรกิจโฮเรก้า และลูกค้าทั่วไปให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เท่านั้น แต่ด้วยศักยภาพของทำเลใจกลางเมืองซึ่งเป็นย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ ที่มีประชากรระดับกลาง-สูงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งยังเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายหลายเชื้อชาติ (Multi-National Diversity) และปริมาณนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้อัตราการใช้จ่ายซื้อสินค้าต่อครั้งสูงเป็นลำดับต้น ๆ ของกรุงเทพฯ
แม็คโคร สาทร จึงเป็นอีกหนึ่งทำเลยุทธศาสตร์สำคัญที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจการค้าที่แข็งแกร่ง การปรับโฉมในครั้งนี้ จึงถือเป็นการยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งค้าส่งสมัยใหม่แบบครบวงจรที่มีจุดเด่นในการเป็นแหล่งรวมสินค้าอุปโภคบริโภคคุณภาพดีหลากหลายจากทั่วทุกมุมโลก ในราคาค้าส่งที่ดีที่สุด พร้อมรองรับความต้องการของผู้ประกอบการและลูกค้าทุกกลุ่มในย่านสาทร และพื้นที่ใกล้เคียง
นอกจากนี้ ลูกค้าที่มาซื้อสินค้าที่แม็คโครและโลตัส รวมถึงแอปพลิเคชันออนไลน์ ทั้ง Makro PRO และ Lotus's SMART App ตั้งแต่วันนี้ - 15 กุมภาพันธ์ 2568 สามารถแสดงใบเสร็จรับเงินที่ซื้อสินค้าภายในวันนั้น ๆ พร้อมบัตรประชาชน เพื่อรับใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) หรือ ใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) ณ จุดบริการลูกค้าของแม็คโครและโลตัสทุกสาขาทั่วประเทศ ตามนโยบายกระตุ้นการจับจ่ายภาครัฐ ‘Easy E-Receipt 2.0’