รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปที่ จ.สมุทรปราการ เพื่อรู้จัก “ครูเบียร์” ที่โรคร้ายได้ทำให้ชีวิตพลิกผันจากการเป็นครู กลายมาเป็นคนตกงาน ต้องเก็บขยะเก็บขวดพลาสติกขาย รายได้ไม่พอเลี้ยงครอบครัว
“ครูเบียร์” พรชนก พชรกิตติณดา อดีตครูโรงเรียนเอกชน วัย 37 ในวันนี้ ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวอีก 2 ชีวิต คือลูกสาววัยเรียน และยายวัย 91 ด้วยการเก็บขวดขาย หลังถูกโรคร้ายอย่างมะเร็งเต้านมเล่นงาน จนเธอต้องเข้า รพ.เพื่อรักษาตัวบ่อยๆ
“ตอนนี้ก็มีช่วงเช้ามืดกับช่วงหัวค่ำที่จะเดินไปเก็บขวด จะไประหว่างวันไม่ได้ เพราะฉายแสงมา มันร้อน ผิวหนังมันจะไหม้ อักเสบด้วย แต่การเก็บขวดก็ไม่เป็นผลเท่าไหร่ เพราะหลายๆ ครั้งที่ไปแอดมิดที่ รพ.ก็เพราะติดเชื้อในกระแสเลือด”
“ก่อนหน้านี้เบียร์เป็นคุณครูที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ทำงานด้านเกี่ยวกับวิชาการและคอมพิวเตอร์ (ถามลักษณะงานที่เราทำมีหน้าที่ต้องทำอะไรบ้าง?) มีผลิตสื่อพวกป้ายประชาสัมพันธ์โรงเรียน และจะเป็นพวก ปพ.เด็ก เอกสารใบรับรองเด็กจบหลักสูตรของเด็ก พวกใบเกียรติบัตร ใบวุฒิบัตร (ถาม-ทำได้กี่ปี?) 13 ปี แต่เพิ่งมาบรรจุเมื่อ 4 ปีหลัง (ถาม-ชีวิตการทำงานการเป็นครูวิชาการเป็นอย่างไรบ้าง?) ก็สนุกนะ ถามว่าชอบไหม ชอบ รัก นอกจากเป็นครูวิชาการ บางครั้งเราก็ช่วยทางโรงเรียนดูแลเด็ก เราได้เห็นพัฒนาการเด็กตั้งแต่อนุบาลจนเขาโตทุกวันนี้ เด็กรุ่นที่เบียร์ดูแลเขา จบปริญญาตรีไปแล้ว ก็มีความสุข”
ที่ผ่านมา การเป็นครูฝ่ายวิชาการของโรงเรียนเอกชน ซึ่งได้ค่าตอบแทน 1.5 หมื่นต่อเดือน ทำให้ครูเบียร์เลี้ยงครอบครัวได้อย่างไม่ลำบาก แต่เมื่อถูกมะเร็งคุกคาม ชีวิตต้องพลิกผันอย่างไม่คาดคิด
“ก็คือช่วงเดือน มี.ค. ปีที่แล้ว 2566 เริ่มจับคลำเจอก้อนเนื้อที่หน้าอก ผลออกมาช่วงประมาณวันที่ 28 ส.ค. หมอบอกว่าเป็นก้อนเนื้อร้าย พอให้คีโมไปแล้ว ปรากฏว่า ก้อนไม่ยุบ แถมโตขึ้น เป็น 4.5 มิหนำซ้ำยังมีลูกก้อน หมอเรียกว่า ลูกรากของมัน จะเป็น 10 มิลฯ 11 มิลฯ อยู่รอบๆ ก้อนอีกเยอะมาก ซึ่งต้องเปลี่ยนแนวทางการรักษา หมอก็จะผ่าตัดเลย เพราะเชื้อมันค่อนข้างรุนแรง (ถาม-ทางการแพทย์ระบุไหมว่าเป็นระดับไหน?) หมอบอกว่า เป็นระดับ 3+ คือระยะ 3 และ + นี่คือกระจายเข้าต่อมน้ำเหลือง (ถาม-ต้องใช้เวลาในการรักษาตัว?) ใช่ นอนแอดมิดอยู่ รพ. 51 วัน”
มะเร็งร้าย ส่งผลให้ต้องลาจากงานที่รัก!
“ส่งผลกระทบทุกอย่างเลย ทั้งเรื่องที่ทำงาน เราลาหยุดบ่อย ด้วยความที่ไปโรงเรียน งานมันต้องเดินจันทร์ถึงศุกร์ (ถาม-ช่วงที่ต้องรักษา เดือนหนึ่งไปทำงานกี่วัน?) 15 วัน ครึ่งเดือนน่าจะประมาณนั้น (ถาม-กระทบต่องานประจำ สุดท้ายต้องยอมลาออก?) ออก ช่วงเดือน มิ.ย. ตอนนี้ออกได้จะ 6 เดือนแล้ว”
“พอออกจากงานปุ๊บ อย่างแรกเบียร์ก็ยังมองหางานใหม่อยู่ ยอมแล้ว ยอมไปเป็นลูกจ้างรายวันก็ได้ ล้างจานหรืออะไรตามร้านอาหารก็ได้ แต่ก็ไปได้อยู่แค่แป๊บเดียว เพราะด้วยระบบการรักษาที่ต้องไปรักษาทุกวัน จนกระทั่งไปทางไหนไม่ได้เลย จากชีวิตครู ต้องเดินเก็บขวด”
ความเจ็บป่วยของครูเบียร์ไม่เพียงทำให้สูญเสียงานประจำ แต่ยังกระทบต่อการเรียนของลูกสาวอย่างใบข้าวด้วย
“ปกติใบข้าว ตั้งแต่อนุบาลจนถึง ป.4 เรียนได้เกรดเฉลี่ยเกือบ 4.00 ตลอด แต่เทอมนี้ร่วง ร่วงไปถึงลำดับที่ 26 ด้วยความขาดเรียนไปกับเบียร์บ่อย (ถาม-เท่ากับรายได้หลักตอนนี้มาจากการเก็บขวด?) ใช่ (ถาม-แล้วทั้งหมดก็ให้ลูกไปโรงเรียนหมด?) ใช่ แต่ลูกสาวก็เหลือกลับมา กินวันละ 10-15 บาท บางวันไม่กินเลย”
สภาพจิตใจย่ำแย่ อยากทำงาน แต่สุขภาพไม่อำนวย!
“(ถาม-สภาพจิตใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?) แย่มากเลย อยากทำงานแต่ร่างกายมันไม่อำนวย มันไปด้วยไม่ได้ ร่างกายอาจจะไปได้ แต่ด้วยการรักษา ที่จะต้องไปเจอหมอ เดี๋ยวไปเจอหมอหัวใจ หมอซีที หมอเกี่ยวกับมะเร็งฉายแสง ซึ่งคนละคนกันหมด และนัดคนละวัน (ถาม-ไปแต่ละครั้งต้องมีค่าใช้จ่าย?) ใช่”
“มันเหมือนเคราะห์ซัดกรรมซ้อน ทุกอย่างประดังมาตูมเดียว สิ่งที่เราสร้างทั้งหมด 13 ปี ความสะดวกสบายทั้งหมดเหมือนโดนระเบิดลง หายวับไปกับตาหมดเลย และไม่รู้จะกู้มันกลับมายังไง เพราะด้วยศักยภาพการทำงาน คืองานเราไม่มี ศักยภาพมี แต่งานเราไม่มี มันก็ผ่านไปไม่ได้ (ถาม-แล้วในส่วนของอดีตสามี?) เขาก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย น่าจะเปลี่ยนเบอร์หรืออะไร ติดต่อไม่ได้เลย”
พยายามทำของขาย แต่หาช่องทางจำหน่ายไม่ได้!
“ทำน้ำตาลกัมเพจ ใช้สำหรับตกแต่งหน้าเค้ก (ถาม-ที่มาของการทำน้ำตาลแต่งหน้าเค้กมายังไง?) มาจากเพื่อนชื่อดรีม เป็นเพื่อนสมัยเรียน เป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กด้วย ก็เริ่มเห็นความดราม่าในเฟซ ความขอช่วยเหลืออะไรอย่างนี้ (ถาม-ตอนนั้นครูเบียร์ไม่มีงานทำเลย?) ไม่มี มีแต่เดินเก็บขวด จนติดเชื้อที่มือ แล้วไปแอดมิด พอเพื่อนเห็น เขาก็มีญาติที่ป่วย เขาก็รู้ว่า มะเร็งมันติดเชื้อง่าย เขาก็ไม่อยากให้ออกไปเก็บขวด”
“(ถาม-ขั้นตอนการทำน้ำตาลกัมเพจต้องทำยังไง?) เอาแป้งมา แล้วเราก็มานวดให้นิ่ม พอนิ่ม ก็มาผสมสีตามที่เราต้องการ แล้วนวดสักระยะ (ถาม-ใช้เวลานานไหมกว่าจะเซ็ตตัวให้สามารถเอาไปใช้งานได้?) 2-3 วัน เพราะมันต้องแข็งและไม่ชื้นจริงๆ (ถาม-รายได้เป็นยังไง?) ตั้งแต่เริ่มทำมา 3-4 เดือน ขายได้ 200 บาท เพราะเบียร์ไม่มีฐานลูกค้าเลย พยายามไปโพสต์ในกลุ่มเบเกอรี่ ไปแอดต่างๆ เข้าร่วมกลุ่มขายเบเกอรี่อุปกรณ์ทำขนมต่างๆ ก็ยังไม่มีลูกค้า (ถาม-แล้วเอาเงินที่ไหนมาใช้จ่ายทุกวันนี้?) ก็ได้รับการช่วยเหลือจากผู้ปกครองนักเรียน อดีตผู้ปกครองนักเรียน และเพื่อนๆ ที่เดี๋ยวส่งข้าวสาร ส่งอะไรมาให้ ก็ยังพอประทัง กินตามอัตภาพเลย”
ทยอยขายของในบ้าน เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย!
“(ถาม-เท่ากับรายได้หลักตอนนี้ มาจากการเก็บขยะ?) ใช่ แม้แต่ทีวีเครื่องสุดท้ายที่ยายไว้ดูแก้เหงา เบียร์ก็จำเป็นต้องเอามาเป็นค่าไฟในบ้าน อย่างเมื่อก่อน ออกจากงานมาทีแรก มีโน้ตบุ๊กมา ก็ยังรับจ้างพิมพ์งาน พิมพ์เอกสาร ผลิตสื่อต่างๆ สื่อการสอนได้อยู่ พอมาช่วงประมาณกลางเดือน ค่าใช้จ่ายในบ้านไม่พอ ไหนจะลูกกินอะไรอีกเยอะแยะมากมาย เลยจำเป็นต้องขายโน้ตบุ๊ก ขายเครื่องมือชิ้นสุดท้ายไป”
เศร้าใจ ชีวิตมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?
“(ถาม-ทุกวันที่ออกไปเก็บขวดพลาสติก คิดอะไรบ้าง?) เอาจริง ความรู้สึกตอนนั้นคือ เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง จากอาชีพที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีทุกอย่าง มีเงินมีทอง มีคนนับหน้าถือตา จนทุกวันนี้ ด้วยความที่โพสต์ผ่านเฟซ ความเดือดร้อน คือ ไม่มีใครอยากรู้จัก กลายเป็นคนที่ไม่มีอะไรเลยสักอย่างในชีวิต เดินเก็บขวดเพื่อให้ผ่านไปแต่ละวัน และมันต้องผ่านให้ได้”
เกือบถอดใจไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่คำพูดลูกทำให้เปลี่ยนใจ!
“มีจุดหนึ่งที่เป็นจุดเปลี่ยน และจุดพีคสุดคือ วันนั้นเบียร์หมดทุกอย่าง คือนั่งดูทุกอย่าง จนอ่อนแอร้องไห้ เลยถามใบข้าวว่า ใบข้าว ถ้าวันหนึ่งแม่ไม่อยู่ หนูอยู่ได้ไหมลูก ใบข้าวตอบมาคำเดียว ถ้าวันไหนแม่ไม่อยู่ วันนั้นหนูก็ไปวิ่งให้รถชนตาย ครอบครัวหนูหมด แล้วหนูจะอยู่กับใคร จุดนี้คือจุดเปลี่ยนจริงๆ ที่ทำให้เราอยากสู้ต่อไปในวันพรุ่งนี้ ทิ้งเขาไม่ได้เลย”
ลูกและยายคือกำลังใจให้มีแรงสู้ต่อไป!
“สิ่งที่คาดหวังอย่างแรก ขอให้การรักษาเป็นไปตามเป้าเพื่อที่เราจะได้กลับมาทำงาน กลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ ถึงวันนี้ทรัพย์สินในบ้านไม่เป็นไร เบียร์ขอแค่มีงานทำ แค่นั้นชีวิตเบียร์ จะเอาทุกอย่างกลับมาเหมือนที่เคย ยายกับลูกจะได้สบาย จะได้เห็นรอยยิ้มของพวกเขา ทุกวันนี้เดินผ่าน เอาจริง เบียร์ไม่อยากผ่านยาย ผ่านทีไร เบียร์จะร้องไห้ ชีวิต 91 ปีของยาย น่าจะไปได้ดี และสบายมากกว่านี้ (ถาม-พูดถึงลูกและยายถือว่าเป็นดวงใจที่สำคัญ?) ใช่ (ถาม-ในวันที่เราเหนื่อยล้า คนทั้งสองคนมีความสำคัญกับเรายังไงบ้าง?) กำลังใจเลย เห็นหน้าคือ ทำให้เรามีแรงสู้ต่อไป มีแรงเพื่อที่จะอยู่ถึงวันพรุ่งนี้ มีแรงที่จะอยู่กับเขาให้นานที่สุดเท่าที่เราจะทำได้”
อยากได้เครื่องมือทำงาน พร้อมผ่อนหากมีผู้สนับสนุน!
“(ถาม-ในสภาพที่เราทำงานได้ไม่เต็มที่ เพราะต้องใช้เวลาในการรักษาตัว ถ้าเป็นไปได้หรือเลือกได้ อยากขออะไร?) เบียร์อยากจะขอโน้ตบุ๊กกับปริ๊นเตอร์ เพราะเบียร์มั่นใจว่า อันนี้เหมาะกับเบียร์ในช่วงรักษาตัวช่วงนี้ เบียร์มีความสามารถทั้งแคนวา ทั้งพาวเวอร์พ้อยต์ เวิร์ด เอ็กซ์เซล เบียร์ทำได้หมด แม้แต่จะรับจ้างพิมพ์งาน ถ่ายเอกสาร ก็ทำได้ ถ้าเกิดใครที่จะสนับสนุนโน้ตบุ๊กหรือปริ๊นเตอร์ ไม่ต้องการให้เขามาให้เราฟรี ก็อยากจะทำเรื่องผ่อนหรืออะไร”
หากท่านใดต้องการช่วยเหลือปัจจัยในการดำเนินชีวิตให้กับครูเบียร์ โอนไปได้ที่ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี น.ส.พรชนก พชรกิตติณดา เลขที่บัญชี 660-4-119-416
คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “แสงสุดท้ายของครูเบียร์”
https://www.youtube.com/watch?v=55c2saQUwGk
ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )
หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos