xs
xsm
sm
md
lg

ครูผู้เสียสละ! “ครูแล่ม” อุทิศเงินเดือนเลี้ยงดูเด็กยากจนกว่า 20 ชีวิต ปั้นเด็กติดทีมชาติ-มีอาชีพมั่นคงแล้วหลายรุ่น ลำบากแค่ไหน ครูจะสู้เพื่อเด็ก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปที่ จ.มหาสารคาม เพื่อรู้จัก “ครูแล่ม” ครูผู้เสียสละ ที่ไม่เพียงใช้ชีวิตกินนอนอยู่ที่โรงเรียนเพื่อดูแลเด็กยากจน 22 ชีวิต แต่ยังอุทิศเงินเดือนเพื่อเลี้ยงดูเด็ก-ซ้อมกีฬาและพาไปแข่ง ซึ่งก็ไม่เพียงพอ ถึงขั้นต้องกู้หนี้เพื่อมาเสริม เพราะโรงเรียนไม่มีงบ ครูต้องทำทุกทาง เพื่อพาเด็กไปต่อให้ได้



โล่รางวัลและเหรียญรางวัลมากมายที่เรียงรายอยู่ภายในห้องเก็บผลงานของโรงเรียนเมืองเตาวิทยาคม อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสามคาม ไม่เพียงดูน่าตื่นตาตื่นใจ แต่ยังรู้สึกภูมิใจในผลงานของเด็กนักเรียนโรงเรียนแห่งนี้ โดยเฉพาะผลงานที่สะท้อนถึงความเป็นเลิศด้านกีฬา จนอดสงสัยไม่ได้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเด็กๆ ต้องทุ่มเทขนาดไหนจึงเห็นผลถึงเพียงนี้?


ผู้มีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะกีฬาวอลเลย์บอลชาย จนเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับ ก็คือ “ครูแล่ม” บุตรดา สาโสก ที่แม้จะเป็นเพียงครูอัตราจ้างรายได้ไม่มาก และไม่ได้มีสวัสดิการหรือความมั่นคงใดๆ แต่ครูได้ทุ่มเททุกสิ่งอย่างถึงขนาดกินนอนใช้ชีวิตอยู่ที่โรงเรียนกับเด็กๆ ที่ครูรักและเลี้ยงดูเหมือนลูก 20-40 ชีวิตมานานถึง 11 ปีแล้ว


“เด็กที่เราสร้างขึ้นมาจนประสบผลสำเร็จ มีทั้งเยาวชนทีมชาติ วอลเลย์บอลชายหาด และมีเด็กเราเคยติดทีมชาติชุดใหญ่ นายนพวิทย์ เหงกระโทก และตอนนี้เขาก็ยังเล่นลีกสโมสรให้สโมสรโคราชที่โคราช และเยาวชนทีมชาติที่ยังเล่นอยู่ปัจจุบัน ตอนนี้ก็ยังศึกษาอยู่กับเรา ม.6 นายธีรภัทร ปะทัง เพิ่งได้อันดับ 3 ชิงแชมป์อาเซียนที่ร้อยเอ็ดล่าสุด”


ด้าน “ธีรภัทร ปะทัง” หรือเหน่ง 1 ในลูกศิษย์ครูแล่มที่ประสบผลสำเร็จจนติดทีมชาติ เผยเหตุที่ได้มาเรียนที่นี่ว่า“แม่บอกว่า ถ้าเรียนที่บ้าน กลัวเรียนไม่จบ กลัวเกเร (ถาม-มาแรกๆ เล่นวอลเลย์เป็นแค่ไหน?) ไม่เป็นเลย เริ่มจาก 0 เลย ครูแล่มช่วยจับมืออันเดอร์เลย อยากบอกครูว่า ถ้าผมไม่มีครู ผมก็ไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีครูในวันนั้น ก็ไม่มีผมในวันนี้”


เพราะเคยเป็นเด็กยากจนและด้อยโอกาสมาก่อน ครูแล่มจึงอยากช่วยให้เด็กยากไร้ได้เข้าถึงโอกาสและมีความสามารถด้านกีฬา เพื่อเป็นใบเบิกทางต่อยอดเรื่องการศึกษาและมีอาชีพการงานที่มั่นคงต่อไป


“ครูต้องการให้เด็กทุกคนได้มีโอกาสเรื่องการศึกษา เราเลยแนะนำเขาว่า ถ้ามาอยู่กับครู สิ่งแรกที่พวกเธอต้องทำคือ เรียน และเราก็ใช้วอลเลย์บอลในการปลุกปั้นเด็กให้ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัย จนตอนนี้เราก็มีเด็กที่จบมหาวิทยาลัยเป็นครู เป็นทหารตำรวจเยอะแยะแล้ว”


ลูกศิษย์ของครูแล่มไม่เพียงได้ดิบได้ดีมีอนาคตกับหลากหลายอาชีพ แต่ล่าสุด มีเด็กสอบติดคณะแพทย์เป็นคนแรกของโรงเรียนเมืองเตาวิทยาคมแล้ว

“หนูชื่อนายศิริภัทร ไชยอินศูนย์ ชื่อเล่นซูกัส กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนเมืองเตาวิทยาคม เป็นนักกีฬาวอลเลย์ฯ ของโรงเรียน และตอนนี้กำลังรอสัมภาษณ์ศึกษาต่อคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม”


แม้ครูแล่มจะไม่ได้จบด้านครูมาโดยตรง แต่สายเลือดนักกีฬาบวกหัวใจจิตอาสา ได้นำพาให้ครูพลิกชีวิตมาเป็นพ่อแม่คนที่สองของเด็กๆ ด้อยโอกาสรุ่นแล้วรุ่นเล่าให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ

ชีวิตที่ต้องกินนอนอยู่ในโรงเรียน ครูแล่มไม่เพียงช่วยพัฒนาฝีมือเด็กให้เป็นเลิศด้านกีฬา แต่ครูยังฝึกให้เด็กมีระเบียบวินัย เข้มแข็งและอดทน ครูต้องดูแลทุกอย่างทั้งการกินอยู่ และการใช้ชีวิต


“ตอนเช้าเด็กจะตื่นตี 5 ครึ่ง ทำภารกิจตัวเอง ลุกซ้อม ถ้าไม่มีแมตช์แข่งที่หนัก เราก็จะแค่วิ่งและเวทเอากำลังนิดหน่อย พอ 6 โมงครึ่ง เขาจะมีเวร แยกหน้าที่กันทำ ล้างถ้วยจาน ทำกับข้าว หุงข้าว ทำความสะอาดบริเวณรอบหอพัก ล้างห้องน้ำ และไปอาบน้ำแต่งตัว มากินข้าว 7 โมงครึ่ง 8 โมงทุกคนต้องพร้อมเข้าเรียนปกติ 8 โมงถึงบ่ายสามครึ่ง เราต้องบอกว่า เราเน้นเรื่องการศึกษาเน้นเรียน เลิกเรียนบ่ายสามครึ่ง 4 โมงเย็น ต้องไปทำกิจกรรมที่หอพัก ทำเวรเหมือนตอนเช้า และมาสนามซ้อมถึงทุ่มหนึ่ง เสร็จแล้วหุงข้าวทำกับข้าว กินข้าวประมาณ 2 ทุ่ม”


ครูแล่มยอมสละความสุขส่วนตัวที่จะได้อยู่กับบุพการีที่บ้าน ให้กับการสร้างอนาคตเด็ก ท่ามกลางความขาดแคลนงบประมาณในการดูแลและฝึกซ้อมกีฬา แม้แต่เงินเดือนที่ครูเคยได้รับและอุทิศเพื่อดูแลเด็ก ก็ติดปัญหารอต่อสัญญา ส่งผลให้ครูและเด็กยิ่งอัตคัดขัดสนมากขึ้น จนต้องทำทุกทาง รวมทั้งออกรับจ้างทำงานแลกเงิน เพื่อมาใช้ในการกินอยู่และการซ้อมของเด็ก เช่น รับจัดงานตกแต่งสถานที่ จับจีบผ้า เกี่ยวข้าว ดำนา ฯลฯ


“ปัจจุบันเงินเดือนครูอยู่ที่ 9 พันบาท สัญญาจ้างครั้งละ 3 เดือน ล่าสุด สัญญาสิ้นสุดลงตั้งแต่ช่วงสิ้นเดือน ก.ย. ต้องไปรอต่อสัญญาเดือน พ.ย. (ถาม-เท่ากับระหว่างนี้ไม่ได้รับเงินเดือน?) ใช่ เมื่อก่อนครูดูแลเด็ก 30-40 คนต่อปี ด้วยเรื่องทุนทรัพย์ ด้วยสถานการณ์ต่างๆ เรื่องงบประมาณต่างๆ เราเลยไม่สามารถรับเด็กที่เขามีความต้องการมาอยู่กับเราได้เต็มที่ ตอนนี้ก็เลยเลี้ยงเด็กอยู่ที่ประมาณ 22 คน เด็ก 22 คนนี้ก็จะอยู่กินกับเรา (ถาม-แล้วตอนนี้มีงบสนับสนุนอาหารให้กับเด็กที่กินอยู่กับเราไหม?) เมื่อก่อนทางฝ่ายบริหารมีงบประมาณค่ากับข้าวให้เดือนละ 1 หมื่นบาท แต่ตอนนี้ไม่มี เพราะเราไม่ใช่โรงเรียนกีฬาที่สามารถเบิกได้”


“(ถาม-งบก็ไม่มี เงินเดือนก็ไม่ได้รับ แล้วตอนนี้ครูเอาที่ไหนมาใช้จ่าย?) ก็ได้แรงสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจบุญหลายๆ ท่านที่เข้ามาช่วย ที่เขาเห็นว่าเราทำตรงนี้จริง เขาก็มาช่วยคนละนิดคนละหน่อย เป็นข้าวสารบ้าง เป็นเงินสนับสนุนบ้าง และเราพาเด็กออกรับจ้างทำงานบ้าง จัดเวดดิ้ง ไปจับจีบผ้า ไปรับจ้างต่างๆ ที่มีใครจ้าง เราก็ไปหมด เพื่อหาเงินมาหล่อเลี้ยงทีมเรา”


ด้าน “พระครูบวรธรรมคุณ” เจ้าคณะอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม ได้ทราบถึงความลำบากของครูแล่มและเด็กๆ ในความดูแล จึงพยายามให้ความช่วยเหลือและบอกกล่าวญาติโยมให้ทราบบ้าง เผื่อมีผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือ


“เด็กน้อยเหล่านี้เขาฐานะลำบากยากจน บางคนขาดพ่อบางคนขาดแม่ บางคนไม่มีพ่อแม่เลย มาจากหลายจังหวัด ทีนี้พอมาอยู่ที่นี่ ก็เหมือนครูแล่มจะต้องรับผิดชอบเรื่องที่อยู่ที่พักด้วย ครูแล่มเป็นทั้งครู เป็นทั้งโค้ช เป็นทั้งผู้ฝึกสอน เป็นทั้งพ่อครัว เป็นทั้งแม่บ้านทุกอย่าง เป็นทั้งพ่อแม่เด็กด้วย เมื่องบประมาณไม่เพียงพอหรือถูกตัด ก็ทำให้การแข่งขันหรือการซ้อมติดขัดไป ถ้าเราในสังคมจะมาช่วยครูแล่มก็ดีเหมือนกัน”


“เรามีเพชรในมืออยู่แล้ว มีแต่เราจะเจียระไนยังไง เรามีช้างเผือกในมือ ดูขนาดซ้อมอยู่โรงเรียนบ้านนอกอย่างนี้ จ.มหาสารคาม บ้านเมืองเตา เป็นหมู่บ้านที่ไกลที่สุดของพยัคฆภูมิ เรียกว่าเป็นชายแดนที่สุด เขาเรียกว่าไกลปืนเที่ยง ไปแข่งขันที่ต่างจังหวัดที่ทัวนาเมนต์ใหญ่ๆ ยังได้รับชัยชนะมา ไม่ธรรมดาเลยนะ ถ้าทางรัฐหรือทาง อบจ.หรือทางจังหวัดเรา อนุเคราะห์งบมาดูแล คิดว่าผลงานของทีมวอลเลย์บอลโรงเรียนเมืองเตาวิทยาคมไม่เป็นสองรองใครในการสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดมหาสารคามของเรา”


ลำบากแค่ไหน จะไม่ทิ้งเด็ก!

ในภาวะคับขันและยากลำบากจากการขาดแคลนงบในการดูแลเด็ก อุดมการณ์และจิตวิญญาณของครูแล่มยังคงยึดมั่นอยู่กับเด็กๆ และโรงเรียนเมืองเตาวิทยาคมไม่เปลี่ยนแปลง จึงไม่เคยคิดที่จะไปจากที่นี่ แม้จะมีข้อเสนอที่ดีเข้ามาก็ตาม


“(ถาม-ด้วยผลงานของครู เคยมีคนหยิบยื่นโอกาสให้ครูไปอยู่ในที่ๆ พร้อมด้านการเงินหรือเสนอผลประโยชน์ให้ครูเพื่อจะได้ทำงานได้เต็มที่ และครูไม่ต้องมาแบกภาระกับการหาเงินมาเลี้ยงดูเด็ก มีบ้างไหม?) มี มีเสนอมาเกือบทุกปี (ถาม-ทำไมครูปฏิเสธ?) เรารักเมืองเตาฯ ในจิตสำนึกของเรา เมืองเตาวิทยาคมนี่คือบ้านเรา และพื้นฐานทุกสิ่งอย่าง คนรู้จักครูแล่มเพราะเมืองเตาวิทยาคม เราก็เลยเลือกที่จะ อยู่นี่แหละ เราสู้อยู่ตรงนี้ให้ได้ เลยเลือกที่จะปฏิเสธไป”


ครูแล่มยอมรับว่า ภาวะขัดสนในการหาเงินมาดูแลเด็กๆ 20-30ชีวิตเกิดขึ้นมานานแล้ว และสะสมมาเรื่อยๆ ส่งผลให้ครูต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อมีเงินมาดูแลเด็ก กระทั่งช่วงหนึ่ง ครูรู้สึกท้อแท้กับภาวะหนี้ ถึงขั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่เพราะความรักที่เด็กๆ มีให้กับครู ทำให้ครูมีแรงใจที่จะสู้เพื่อเด็กๆ ต่อไป

“เพราะเด็กคำเดียวเลยทำให้เรามีแรงสู้ และอยู่ได้ทุกวันนี้ (ถาม-สิ่งที่ครูทำมาตลอด ความสุขของครูคืออะไร?) ความสุขของครูคือ เราเห็นเด็กที่เราสร้างขึ้นมาประสบผลสำเร็จ และเขามีหน้าที่การงานที่ดี และเขาสามารถเลี้ยงตัวเองได้ ครูอยากให้ลูกครูทุกคนเป็นคนดีและมีหน้าที่ที่ดีกว่าครู”


หากท่านใดต้องการสนับสนุนข้าวสารอาหารแห้งหรืออุปกรณ์ฝึกซ้อมกีฬาแก่เด็กๆติดต่อครูแล่มได้ที่ 083-663-7529 หรือเฟซบุ๊ก “ครูแล่ม คนใจบาง” หรือหากต้องการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการดูแลเด็ก โอนไปได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี บุตรดา สาโสก เลขที่บัญชี 531-264-4396

คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “ครูจะสู้เพื่อเด็ก”
https://www.youtube.com/watch?v=v3pvrSKV020


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อhttps://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อhttps://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos


กำลังโหลดความคิดเห็น