รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปที่ จ.ชลบุรี เพื่อรู้จัก “พี่แอน” เจ้าของสวนเกษตรแห่งหนึ่ง ซึ่งสู้ชีวิตมาตั้งแต่เด็ก และประกอบอาชีพมาแล้วหลายอาชีพ กระทั่งสุขภาพแย่จากอาชีพแม่ค้าที่ชีวิตต้องเร่งรีบ จึงตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพเพื่อสุขภาพ ทั้งยังสามารถสร้างรายได้ และเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนอีกมากมายด้วย
“แอน พรมศักดิ์” เจ้าของเกษตรสุข ณ ทุ่งเขาเขียว จ.ชลบุรี หรือที่หลายคนเรียกเธอว่า “ครูแอน” เพราะมีลูกศิษย์ลูกหาเข้าคอร์สเรียนปลูกผักกับเธอแล้วนับพันคน ย้อนอดีตให้ฟังว่า แม้เธอจะมีภูมิลำเนาอยู่ จ.นครสวรรค์ แต่ความยากจนบีบให้เธอต้องเข้ามาสู้ชีวิตทำงานรับจ้างในเมืองหลวงตั้งแต่วัยแค่ 12 จากเด็กล้างจาน สู่สาวโรงงาน กระทั่งแต่งงาน ก่อนจะเป็นผู้รับเหมา เมื่องานค่อนข้างซบเซา จึงผันตัวมาเป็นแม่ค้าขายข้าวมันไก่ แถมยังขับวินมอเตอร์ไซค์ในยามที่พอมีเวลาว่างอีกด้วย วิถีชีวิตที่มีแต่ความเร่งรีบ ทำงานแข่งกับเวลา ไม่มีเวลาใส่ใจเรื่องอาหารการกิน สุดท้าย จึงมีภาวะไขมันในเลือดสูง ส่งผลให้เธอต้องหาวิธีฟื้นฟูสุขภาพ
“ตอนเป็นแม่ค้า เราต้องทำงานแข่งกับเวลาอยู่ตลอดเวลา ถึงจุดหนึ่งร่างกายก็ส่งสัญญาณเตือนมา โดยการที่เราปวดหัว เจ็บป่วยง่าย มีความมึนงง เครียด อารมณ์และจิตใจเราไม่ดี จนเรารู้สึกได้ว่า ร่างกายและสุขภาพเรามันไม่ดี เลยทำให้เราต้องจริงจัง และมีความคิดหันมาดูแลตัวเอง”
“พี่แอนมีปัญหาเรื่องไขมันในเลือดสูง การคุมอาหารเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเราไม่อยากกินยาที่เป็นเคมีเข้าไป พี่แอนเป็นคนที่ไม่ชอบกินยา เราเลยอยากกินพวกผักผลไม้สด เช่น น้ำผักปั่น มาดูแลตัวเอง การกินอาหารที่มีผักในมื้ออาหารเยอะๆ พอเราไปซื้อมา รู้สึกว่ามันไม่ใช่ ไม่ได้รู้สึกว่าผักที่เราซื้อมามันปลอดภัยกับเราจริงๆ”
เมื่อไม่มั่นใจในความปลอดภัยของผักจากท้องตลาด พี่แอนจึงตัดสินใจปลูกผักอินทรีย์ไว้กินเอง เริ่มจากปลูกในกระถาง เพราะทาวน์เฮาส์ที่เช่าอยู่ในกรุงเทพฯ ไม่มีพื้นที่เพียงพอ ก่อนจะขยับขยายไปเช่าพื้นที่ท้ายซอยเพื่อปลูกผัก พร้อมปลูกบ้านเล็กๆ เพื่ออยู่อาศัยในบริเวณเดียวกัน ซึ่งนั่นได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนให้พี่แอนและพี่ตี๋ สามี เลิกอาชีพแม่ค้า แล้วหันมาเป็นเกษตรกรปลูกผักอินทรีย์ทั้งไว้กินและขาย จนเป็นที่รู้จักในนาม“เกษตรสุขกลางกรุง ณ ทุ่งบางเขน”
เกษตรอินทรีย์...เปลี่ยนชีวิต!
“พี่แอนศึกษาหาความรู้และเริ่มปลูกผักตั้งแต่ก่อนโควิดระบาด 1 ปี พอโควิดมา ทุกคนภายนอกเขาวุ่นวายกันมาก ต้องไปห้างหาซื้อข้าวสารอาหารแห้งมาตุนเตรียมตัวสำหรับล็อกดาวน์เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตอยู่รอด ตอนนั้นทุกคนจะบอก ที่เชลฟ์ไม่มีเลยนะ มาม่าปลากระป๋องมันหมดเลย อาหารก็เริ่มขาดแคลน ขณะที่พี่แอนอุดมสมบูรณ์มาก มีพืชผักมีปลามีไข่เป็ดกินอยู่ในบ้าน”
การมีแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์และปลอดภัยไว้ยังชีพยามเจอสถานการณ์วิกฤต ไม่เพียงทำให้พี่แอนพบความสุขที่แท้จริง แต่ยังจุดประกายให้มนุษย์เงินเดือนอีกไม่น้อยได้หันมาทบทวนชีวิตตนเองว่า ความสุขที่แท้จริง อาจไม่ใช่เงินเดือนที่สูงๆ เสมอไป
“อาชีพที่เขาเคยคิดว่ามั่นคง เงินเดือนสูงๆ ที่จะสามารถทำให้ชีวิตเขาแคล้วคลาดปลอดภัย มีคุณภาพชีวิตที่ดี มันไม่ใช่แล้ว เพราะหลายคนที่มาหาพี่แอน บางคนเงินเดือนสูง 2-3 แสน ก็ยังมาหาพี่แอน การเล่าของเขามันทำให้เรารับรู้ว่า ความธรรมดาของเรามันคือสิ่งที่เขาต้องการนะ เพราะในชีวิตจริงมันมีความเครียด มีความกดดัน ...ไม่ว่าคุณจะอยู่ในอาชีพอะไร ไม่ว่าคุณจะอยู่ในอายุเพศไหน คุณก็ต้องกินถูกไหม และคุณก็ต้องใช้ชีวิต แต่ในการใช้ชีวิตของเรา เวลาที่เรากิน เราทำงานหรือใช้ชีวิต แต่ละคนก็มีวิถีไม่เหมือนกัน ผลสุดท้ายคุณก็ต้องป่วย และการที่คุณป่วย มันไม่สามารถทำให้คุณมีความสุขที่แท้จริงได้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในอาชีพที่รู้สึกมั่นคง หรือมีรายได้เยอะขนาดไหนก็แล้วแต่”
หลังมีความสุขกับอาชีพเกษตรกรที่ “เกษตรสุขกลางกรุง ณ ทุ่งบางเขน” ได้ 5-6 ปี และเป็นแรงบันดาลใจให้คนรักสุขภาพอยากหันมาปลูกผักแบบพี่แอนจนมีลูกศิษย์ลูกหานับพันคนเข้าคอร์สเรียนปลูกผักกับเธอ ในที่สุด ก็ถึงจุดที่พี่แอนตัดสินใจออกจากเมืองหลวง ไปอยู่ที่เขาเขียว จ.ชลบุรี พร้อมกับสานต่อการปลูกผักอินทรีย์ ภายใต้ชื่อ“เกษตรสุข ณ ทุ่งเขาเขียว”
“ตัวพี่แอนมีเป้าหมายว่า อนาคตคงไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ ตลอด พอเราทำอาชีพนี้ เก็บทุนได้สักก้อนหนึ่ง พี่แอนก็อยากจะไปอยู่กับธรรมชาติที่แท้จริง ก็มีการวางแผนว่า เราอยากจะไปอยู่สักที่ใดที่หนึ่งที่มีป่าเยอะๆ มีธรรมชาติเยอะๆ แล้วเราก็สร้างแหล่งอาหารเอง ตื่นเช้ามา จิบกาแฟ แลวิวเขาบ้าง แล้วโอกาสมันก็มาถึง พี่แอนไม่ได้มาซื้อที่ เราเช่าเขา แต่เป็นการเช่าระยะยาว ที่จะอยู่กันไปจนแก่แบบนี้”
การย้ายมาปลูกผักอินทรีย์ที่เขาเขียว ไม่เพียงเจอปัญหาเรื่องดินทราย แต่ดินยังเสื่อมคุณภาพอย่างหนัก แต่ถึงกระนั้น ก็ไม่เกินความสามารถของพี่แอนและพี่ตี๋ที่จะพื้นฟูปรับปรุงดินให้เหมาะต่อการปลูกผัก
“ก่อนที่เราจะเข้ามา มันเป็นไร่มันสำปะหลังมาก่อน ซึ่งแน่นอน มันสำปะหลังมันเป็นพืชที่สูบเอาแร่ธาตุจากในดินเยอะมาก แล้วมันผ่านการปลูกมาหลายสิบปี ดินมันก็เสื่อมโทรมไปเยอะ แต่ถามว่า เรามองว่ามันเป็นปัญหาไหม ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเรา เพราะเรามีความรู้ฟื้นฟูดินมาระดับหนึ่งแล้ว สิ่งที่เราต้องมาทำคือ สร้างเขาขึ้นมาใหม่ ปรุงเขาขึ้นมาใหม่”
“ตอนนี้ก็ยังคงปลูกเป็นกลุ่มของผักสลัด ผักสวนครัวที่เรากินในครัวเรา เราก็จะขยับขยายเป็นผักที่เราใส่ในโถน้ำผักปั่นที่เราไม่ต้องไปซื้อ เช่น มะเขือเทศ แครอท หรือรวมไปถึงพืชหัวต่างๆ ที่เราอยากจะมีเป็นของตัวเอง ปลูกมีกินเป็นของตัวเองปุ๊บ เราสามารถขายได้ด้วย”
“(ถาม-สิ่งที่เราได้ระหว่างทางที่ผ่านมาคือได้สุขภาพจริงไหม?) จริง (ถาม-ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะไหม เรื่องสุขภาพ?) 6 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปลูกผักมา ก็ไม่เคยกินยาเลยแม้แต่เม็ดเดียว ไม่เคยหาหมอเลย ...อย่างพี่ตี๋เห็นผอมๆ ดำๆ แบบนี้ แต่แข็งแรงมาก เราก็ไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ และจิตใจเราก็แข็งแรงขึ้น ซึ่งต่างจากเมื่อก่อนตอนที่เราทำอาชีพที่เราเร่งรีบ”
แม้ความสุขของคนเรา อาจแตกต่างกันไป แต่เชื่อเหลือเกินว่า การได้มีชีวิตอยู่กับธรรมชาติที่สงบ ร่มรื่น แมกไม้เขียวขจี พร้อมกับมีแหล่งอาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพไว้รับประทาน และสามารถสร้างรายได้ไปพร้อมๆ กัน น่าจะเป็นอีกหนึ่งความสุขที่ผู้คนจำนวนไม่น้อยปรารถนาที่จะมีชีวิตแบบนี้ แบบที่พี่แอนและพี่ตี๋ช่วยกันสร้างฝันเพื่อสุขภาพที่ดี ทั้งยังปันสุขที่มีจากเกษตรอินทรีย์ผ่านออนไลน์ จนเป็นแรงบันดาลใจให้ใครต่อใครอยากเจริญรอยตาม …ถึงวันนี้เป็นเวลา 6 ปีแล้วที่พี่แอนเลือกทิ้งอาชีพแม่ค้า และผันตัวมาเป็นเกษตรกรปลูกผักอินทรีย์ คงพิสูจน์ได้อย่างดีว่า เกษตรอินทรีย์สามารถเปลี่ยนชีวิตให้เธอพบกับสุขภาพที่ดีและมีความสุขอย่างแท้จริง
หากท่านใดต้องการติดตามความเคลื่อนไหวของพี่แอนและการปลูกผักเกษตรอินทรีย์ ติดตามได้ที่เพจเฟซบุ๊ก“เกษตรสุข ณ.ทุ่งเขาเขียว”
คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “เกษตรอินทรีย์...เปลี่ยนชีวิต”
https://www.youtube.com/watch?v=adq5PZlU-xQ
ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )
หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos