เมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เนื่องจากในพื้นที่ถูกน้ำท่วมและเกิดน้ำป่าไหลหลาก ทำให้มีผู้สูญหาย และผู้เสียชีวิตหลายราย
เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ได้ผนึกกำลังกับภาคเอกชน มีอาสากู้ภัยจากหน่วยงานต่างๆ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ตำรวจ ทหาร และ อบต.ในพื้นที่ และยังมีพนักงานบริษัทกัลฟ์ (GULF) กว่า 20 คน อาสามาช่วยหมู่บ้านผู้ประสบภัยน้ำท่วมไหลหลากที่ห่างไกล และได้ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกมานานหลายวัน เนื่องจากไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไฟฟ้า และน้ำประปา
โดยบริษัท กัลฟ์ ได้นำทีมพนักงาน “กัลฟ์อาสา” ลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือน สิงหาคม เพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ที่เสียหาย โดยล่าสุดได้เข้าไปฟื้นฟูระบบประปาภูเขา บ้านห้วยทรายขาว หมู่ 7 ต.บ้านโป่ง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็น เวลาประมาณ 15.00-17.00 น. ขณะที่ทีมกัลฟ์อาสาปฏิบัติงานได้รับการสื่อสารผ่านทางวิทยุของเจ้าหน้าที่ อบต.บ้านโป่ง ว่าขอความช่วยเหลือด่วน พบศพผู้ที่สูญที่หายจากเหตุน้ำป่าไหลหลาก ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. 2567 ติดอยู่ใต้สะพานของหมู่บ้าน ระหว่างนั้นไม่มีหน่วยกู้ภัย พนักงานกัลฟ์จึงอาสาออกช่วยเหลือ โดยได้เดินเท้าเข้าหมู่บ้านกว่า 3 กิโลเมตร และได้พบเจ้าหน้ากรมป่าไม้และทราบว่าร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากใต้สะพาน ทางทีมกัลฟ์อาสาพร้อมเจ้าหน้าที่ อบต. เข้าประเมินสถานการณ์ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ อบต. เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และหน่วยงานต่างๆ ร่วมกันวางแผนหาวิธีการนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เพราะมีสิ่งกีดขวางและดินโคลนจำนวนมาก และไม่นานปฏิบัติการก็ได้เริ่มขึ้น
สำหรับวิธีการนำศพออกมานั้น ได้ใช้ไม้กระดานปูสอดเข้าไปจนถึงร่างผู้เสียชีวิต บริเวณดังกล่าว มีไม้และสิ่งกีดขวาง ดินโคลน เศษไม้ขวางตัวผู้เสียชีวิตอยู่จำนวนมาก พนักงานกัลฟ์ และเจ้าหน้าที่ พยายามอย่างสุดความสามารถ จึงได้นำศพออกมาและได้ทำการล้างทำความสะอาด อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ผู้เสียชีวิต และห่อศพและช่วยกับแบกไปยังที่ฝังศพบนภูเขา ห่างประมาณ 1 กิโลเมตร
ทั้งนี้ ทราบภายหลังว่า ผู้เสียชีวิตชื่อ นายจะสอ จะไซ อายุ 62 ปี ซึ่งจากสถานการณ์ช่วงน้ำหลากมาแรงมากพัดพาบ้านของเขาพังทั้งหลัง ส่วนลูกเมีย อีก 3 ชีวิต รอดปลอดภัย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่น่าสลดใจอย่างมากกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากอุทกภัยน้ำไหลหลากในครั้งนี้ อีกด้านหนึ่งก็ทำให้เห็นถึงความสามัคคี ความมีน้ำใจของคนในชาติ ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันอย่างเต็มที่ โดยหวังว่าพื้นที่ประสบภัยจะฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติได้ในเร็ววัน
