ธ.ก.ส.จัดมาตรการฟื้นฟูและเสริมสภาพคล่องเกษตรกร วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท ผ่านสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน 67/68 วงเงินรายละไม่เกิน 50,000 บาท ดอกเบี้ย 0% 6 เดือนแรก และสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต วงเงินรายละไม่เกิน 500,000 บาท ดอกเบี้ย MRR-2 พร้อมมอบหมาย ธ.ก.ส. สาขาในพื้นที่ประสบภัยสำรวจความเสียหายลูกค้าหลังน้ำลด เพื่อรวบรวมข้อมูลและวางแนวทางความช่วยเหลืออื่นๆ ต่อไป
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยฉับพลันที่สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและพื้นที่การเกษตร ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเป็นอยู่ของเกษตรกร ทั้งด้านการใช้ชีวิตและการประกอบอาชีพ ดังนั้นเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนดังกล่าว ธ.ก.ส. จัดมาตรการเสริมสภาพคล่องและฟื้นฟูลูกค้า เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าเข้าถึงแหล่งเงินทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำในการนำไปสร้างหรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัย โรงเรือนการเกษตร เครื่องมือ เครื่องจักรกลการเกษตร รวมถึงการฟื้นฟูการผลิตที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติหรือภัยพิบัติ วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท ประกอบด้วย
1) โครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน ปี 2567/68 เพื่อเสริมสภาพคล่องเกษตรกรในด้านค่าใช้จ่ายทั่วไป เช่น ค่าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น อัตราดอกเบี้ย 0% 6 เดือนแรก เดือนที่ 7 คิดอัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบัน MRR เท่ากับร้อยละ 6.975) วงเงินรายละไม่เกิน 50,000 บาท
2) โครงการสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อเป็นค่าลงทุนในการซ่อมแซมบ้านเรือนและทรัพย์สิน ค่าซ่อมเครื่องมือและอุปกรณ์การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย ค่าใช้จ่ายในการทำการเกษตรรอบใหม่ วงเงินรายละไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MRR-2
ธ.ก.ส. ขอให้เกษตรกรอย่ากังวลใจในช่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ธนาคารพร้อมเข้าไปดูแลและช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยมอบหมายให้ ธ.ก.ส. ในพื้นที่ประสบภัย ได้แก่ จังหวัดน่าน จังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยา และจังหวัดแพร่ จัดถุงยังชีพเพื่อให้การช่วยเหลือเบื้องต้นกว่า 10,000 ถุง ส่งมอบน้ำดื่ม ธ.ก.ส. และจัดทำอาหารกล่องสนับสนุนหน่วยบรรเทา สาธารณภัยในการปฏิบัติหน้าที่ และผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่ประสบภัยร้ายแรง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและหลังน้ำลดจะออกสำรวจความเสียหายของลูกค้า เพื่อรวบรวมข้อมูลในการวางแนวทางการช่วยเหลืออย่างตรงจุดต่อไป
เกษตรกรผู้ประสบภัย แจ้งความประสงค์ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02 555 0555 ตลอด 24 ชั่วโมง