xs
xsm
sm
md
lg

พิการยังสู้! “ทวีศักดิ์” แม้อุบัติเหตุทำไร้ขา 1 ข้าง ยังสู้ เร่ขายเฉาก๊วยหารายได้เลี้ยงตัวเอง ไม่เป็นภาระครอบครัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปที่ จ.ราชบุรี เพื่อรู้จัก “ทวีศักดิ์” หนุ่มใหญ่ผู้ไม่ยอมจำนนต่อความพิการ ยึดอาชีพพ่อค้าขายเฉาก๊วย หารายได้เลี้ยงตัวเอง เพื่อไม่เป็นภาระครอบครัว ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่ท้อลุกขึ้นสู้อีกด้วย



บางครั้งชีวิตคนเราก็เอาแน่นอนไม่ได้ ไม่มีใครรู้ว่า วันหนึ่งวันใดจะเกิดอะไรขึ้นกับเราหรือคนที่เรารักหรือไม่ เช่นเดียวกับ “ทวีศักดิ์ เกสร” หนุ่มใหญ่วัย 54 ที่ถูกอุบัติเหตุทางถนนพรากขาข้างขวาและภรรยาสุดที่รักไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ขณะขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปส่งภรรยาทำงานใน อ.บ้านบึง จ.ราชบุรี


“ก็ขี่มา เขาซ้อนท้ายมาด้วยกัน จะไปส่งเขาที่โรงงาน ออกจากบ้านมาประมาณทุ่มกว่า ๆ มาเกิดอุบัติเหตุ 19.35 น. โดนรถชน ไม่ได้เบรกไม่ได้อะไร เป็นทางสวนเลน เปิดไฟสูงมา มีไฟสูงข้างเดียว พอมาถึงผม แว้งชนเลย ไม่ได้เบรก ผมขาขาด ภรรยาผมก็แบะขาไก่ ตรงนี้ฉีก ก็ตายอยู่ข้างๆ ผม ผมก็ขาขาดที่เกิดเหตุ และรถก็หนีเลย ไม่ได้ลงมาดูแล จนจับไม่ได้จนทุกวันนี้”


จากคนเคยทำงานเป็นช่างประปาหมู่บ้าน เมื่อต้องกลายเป็นผู้พิการไร้ขา 1 ข้าง การดำเนินชีวิตจึงค่อนข้างลำบาก


“ตอนเป็นช่างประปา เช้าขึ้นมาก็มาคอยเปิดน้ำ เปิดน้ำส่งตามหมู่บ้าน เปิดวาล์วใหญ่ และคอยดูดน้ำใส่ถุงใส่แท็งก์ เอามากองส่งต่อให้หมู่บ้านใช้ ถ้าท่อตรงไหนแตก เขาก็โทรแจ้ง หรือถ้าเราเห็น เราก็ซ่อมเอง มองขาตัวเองนึกน้อยใจตัวเอง มีความรู้สึก มันเดินไม่ได้ ผมก็อยากเดินได้อย่างเก่า เมียก็เสีย และผมอยู่กันสองคน คือทำอะไรลำบากมาก จะเดินจะทำอะไรก็ลำบาก เงินทองก็ไม่มีใช้”


“(ตอนนั้นเราใช้เวลานานไหมกว่าจะพลิกฟื้น?) ปีกว่า ๆ แต่ก็ต้องลุกขึ้นสู้ เพราะช่วงที่เสียเมียไป วันหนึ่งผมร้องไห้หลายครั้ง ข้าวผมไม่กิน ปีกว่า บางทีเหนื่อย มันท้อ แล้วมันนึกถึงเมีย ไม่มีคนคุย ไปไหนผมก็ไปด้วยตลอด พอเกิดอุบัติเหตุ บ้านที่อยู่กับแฟนก็ขายไป แล้วก็กลับมาอยู่บ้านพ่อแม่ อยู่ห้องข้างหลัง ติดห้องน้ำ ก็สบายหน่อย ไม่ต้องเดินไกล (ถามพ่อแม่อายุเท่าไหร่?) 60-70 แล้ว แม่ก็ไม่ค่อยดี ป่วย พ่อเป็นยามเข้ากลางคืนอย่างเดียว”


แม้พิการ ลุกขึ้นสู้ ไม่อยากเป็นภาระครอบครัว!

“คิดว่าต้องหาอะไรทำสักอย่าง ถ้าไม่ทำแล้วมาอยู่อย่างนี้ก็จะเป็นภาระกับพี่น้องครอบครัว ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะเอาเฉาก๊วยมาขาย มันนึกอะไรไม่ออก แต่ต้องทำอะไรสักอย่างที่ได้ตังค์ เพราะตังค์ที่เราได้มา เราใช้เอง เราก็มีความสุข ไม่ต้องไปแบมือขอเขา ไม่ใช่ว่าเป็นแบบนี้แล้วต้องไปขอทานเขา ผมเลยนึกถึงเพื่อนคนหนึ่งว่า มันทำเฉาก๊วย เพราะเคยกินเฉาก๊วยมันว่า อร่อย ก็ไปติดต่อ ก็ไม่มีตังค์สักบาท ก็ไปเอามาก่อน บอกเอามาก่อนนะ เดี๋ยวทำขายได้ ตรงนี้เท่าไหร่ แล้วเดี๋ยวเอาเงินให้ ที่เหลือก็เป็นกำไร เราก็เอามา”


ด้าน “รัชนีย์ บัวฉิม” เจ้าของโรงงานเฉาก๊วย ที่ทวีศักดิ์รับไปเร่ขาย รู้สึกชื่นชมความสู้ชีวิตของทวีศักดิ์และอยากช่วยเหลืออะไรที่พอช่วยได้

“ชื่นชมที่แกสู้มาขายของ เลยให้แกเอาไปขายก่อน ไม่ได้คิดอะไรเลยตอนนั้น แค่อยากช่วยมากกว่า (ถาม-ตอนนี้แกขายมากี่ปีแล้ว?) เกือบ 2 ปีแล้วมั้ง (ถาม-เป็นยังไงบ้างฟีดแบคการทำมาหากินของแก?) ขายดีนะ น่าจะขายดีที่สุดแล้วในบรรดาที่มารับจากเรา”


จาก...ช่างประปา สู่...พ่อค้าเฉาก๊วย!

การใช้ชีวิต ใช้ไม้เท้าค้ำไป ขาข้างนี้มันค้ำได้ (ถาม-เราใส่ขาเทียมไหม?) ไม่ใส่ ก็ไปอย่างนี้ ก็ขับมอเตอร์ไซค์ และลังผูกท้ายไป ผมก็ไปให้ที่ร้านทำสติ๊กเกอร์ว่าเฉาก๊วย เราก็ควักทุนเอง เพราะคนเห็นนี่บรรทุกลังอะไรมา ไม่มีอะไรเขียนบอก ครั้งแรกผมเอาเมจิกเขียน เขียนไม่สวย ก็ให้พวกเขียนให้ เอาเมจิกเขียนว่า เฉาก๊วย ถุงละ 15 บาท ขาย ๆ ไป มันก็ซีด จาง เขียนบ่อย ผมก็ไปร้านสติ๊กเกอร์ เสียเท่าไหร่ก็ว่ากันอีกที ก็ไปให้เขาทำสติ๊กเกอร์ว่า เฉาก๊วย (ถาม-แล้วไปที่ไหนบ้าง?) ใน อ.บ้านบึง ไปชลบุรี ไปตัวจังหวัด ไปบางแสน ไปวัดหลวงพ่อโสธร วัดสมานราษฎร์ ไปอีกทีก็วัดเขาช่องลม”


ปรับวิธีคิด เพื่อให้ตัวเองมีแรงสู้ชีวิต!

“ตอนแรกคิดว่ามันลำบากนะ แต่ถ้าเรามาปรับให้มันได้ คิดว่ามันมีขาอีกข้างเหมือนเดิมแล้วกัน เราก็ไปอย่างนี้ธรรมดา มันก็ไม่ลำบากนะ มันจะลำบากตรงที่ว่า มีไม้เท้าไปกับเราด้วย เราก็ทิ้งมันไม่ได้ เพราะเราต้องอาศัยมันอยู่แล้ว มันเป็นตัวพาเราไปอยู่แล้ว (ถาม-แล้วรายได้ดีไหมการขายของปัจจุบัน?) ครั้งแรก ๆ วันแรก ๆ ขายไม่ดี พอมาหลัง ๆ เขารู้หมดแล้วเป็นรถคันนั้น เขาอยากกิน เขาขี่รถรอบบึง เจอเขาก็ซื้อ บางทีขี่ตามหาใน อ.บ้านบึง ความรู้สึกผม มันจะมีคันเดียว นอกนั้นเขาออกไปขายข้างนอกกันหมด เมื่อก่อนนี้น่าจะมีขายอยู่ แต่พอผมเข้าไปขาย เฉาก๊วยก็ไม่ค่อยมีขาย บางคนเขามีขาย แต่เขาไม่กินกัน เขามาซื้อผม”


บางครั้งชีวิตก็เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เกิดอุบัติเหตุครั้งแรกไม่พอ ยังมาเกิดซ้ำเป็นครั้งที่สอง

“พอเริ่มดีปุ๊บ มันก็เกิดอุบัติเหตุ วันนั้นผมเปลี่ยนลังใหม่ให้มันใหญ่กว่าเก่า และเอาเฉาก๊วยใส่ไป 200 กว่าถุง กะจะไปวัดเขาซก เขามีงานประจำปีปิดทอง คนเยอะและขายดี ผมก็เปลี่ยนลัง ลังลูกเดิมก็ขายได้ 200 กว่าถุงเหมือนกัน ลูกใหม่นี่มันสูงหน่อย หนากว่า แข็งแรงกว่า ใส่ได้เยอะกว่าด้วย ทำเสร็จ ให้เพื่อนทำแผงรองข้างล่าง ก็จะออกไปขายตอนเย็นวันนั้น รถผมก็ตามรถยนต์อยู่ ผมจะรีบไป ก็เปิดไฟเลี้ยวขวาและแซงขึ้นไป แซงไปครึ่งคัน มันเลี้ยวขวาตัดหน้าเข้าโรงงาน ผมเบรกไม่ทัน ผมชน มันก็ลงมาช่วย แต่ไปถึง รพ.ปุ๊บ เขาก็แยกไปทางโรงพัก เขาไปบอกว่าเขาไม่ผิด เขาไม่รับผิดชอบ ก็เป็นเหตุการณ์ครั้งที่ 2 ครั้งแรกก็ชนแล้วหนี จับไม่ได้ ครั้งนี้เขาเลี้ยวตัดหน้า แล้วเขาบอกว่าเขาไม่ผิด เขาบอกว่า ถ้าอยากได้ก็ไปเดินเรื่องเอา”


“(ถาม-แล้วตอนนี้เป็นไงบ้างร่างกาย?) มันลำบากกว่าเก่า มันเดินไม่ได้ ไม้เท้าก็ใช้ไม่ได้ ต้องรถวีลแชร์อย่างเดียว (ถาม-เท่ากับว่า ขาข้างนี้เดินไม่ได้แล้ว?) ใช่ มันไม่มีแรง สะบ้าหัวเข่าแตก (ถาม-ลำพังครั้งแรกก็ว่าหนักแล้ว แต่ครั้งที่ 2 มันไม่ขาด แต่มันเคลื่อนไหวไม่ได้?) มันเดินไม่ได้ อย่างน้อยมันมีขาข้างซ้ายเป็นตัวหลักก็ยังดี หัวเข่าแตกแล้วมันเดินไม่ได้ มันรับน้ำหนักไม่ไหว (ถาม-แล้วสภาพจิตใจเป็นยังไงตอนนี้?) มันแย่กว่าเก่า มันท้อ แต่ก็ต้องสู้ เราต้องลุกขึ้นสู้ เราต้องทำให้ได้ 2.คนรอบข้าง เวลาเราไปตรงไหน เขาก็ให้กำลังใจเรา คอยปลอบประโลมเรา เป็นแค่นี้ไม่นี่หรอก สู้ไปเถอะ มึงคิดเสียว่ามึงมีขาเดียว หัดมัน เขาให้กำลังใจหมดทุกคน”


แม้สภาพเศรษฐกิจจะทำให้ยอดขายเฉาก๊วยลดลงกว่าเมื่อก่อน แต่กำลังใจจากลูกค้ายังช่วยให้ทวีศักดิ์มีแรงสู้

“เมื่อก่อนขายดีกว่า 200 กว่าถุง ตอนนี้ใช้รถพ่วงขาย ผมเอามา 200 กว่าถุง ผมขายได้ประมาณ 2-3 วัน กว่าจะหมด (ถาม-กำลังใจที่ทำให้เราเข้มแข็งมาจากไหน?) ตัวเองหนึ่ง แล้วพอออกไปขายของ เจอคนรอบข้างหรือลูกค้า หรือคนที่มาซื้อ หรือคนรอบบ้าน เมื่อคืนไป เมียเขาซื้อ 7 ถุง 100 แฟนเขาผู้ชายควักแบงก์ 500 ให้ผม ผมน้ำตาไหลเลย อย่างน้อยเขาก็ไม่ทิ้ง เขาเห็นเขาสงสาร”


“(ถาม-ในแง่สุขภาพบ้าง ตอนนี้เชื่อว่า คนป่วยก็ต้องได้รับการรักษา คิดว่าจะเข้าไปรักษาที่ รพ.หรืออยากให้มีใครดูแลเรื่องรักษาไหม?) พวกสุขภาพผมก็แข็งแรง ถ้าผมมีขา ผมก็คนแข็งแรงคนหนึ่ง แต่ตอนนี้ผมอยากให้ ถ้าเป็นไปได้ อยากเปลี่ยนอันนี้เป็นสะบ้าเทียมจะได้เดินได้ ผมต้องการแค่ตรงนี้ อย่างน้อยเราก็เดินเข้าห้องน้ำได้ ไปไหนได้ คนเรามีความหวังหมด ผมหวังอยากจะเดินได้ ผมพยายามกายภาพ เคยลองแล้วมันก็ล้ม”


ดีใจที่สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่ท้อลุกขึ้นสู้!

“เด็กรุ่น ๆ ขี่มอเตอร์ไซค์มา 2 คน อีกคนหนึ่งวิ่งมาหาผม ผมนึกว่าจะมาซื้อเฉาก๊วยผม มายกมือไหว้ ถามว่าเอากี่ถุง เขาบอกว่า ลุงเป็นไอดอลผมเลย ลุงเป็นอย่างนี้ลุงยังสู้เลย หนูจะไม่ท้อแล้ว เมื่อก่อนหนูท้อ หนูไม่เอาอะไรเลย มันบอก หนูจะจำลุงไว้เลย ลุงขาขาด แต่ยังสู้ ยังขายของ ผมเลยบอกไปว่า สู้ๆ ไม่สู้ไม่มีกินหรอก สู้ไปเถอะ มันจะหนักจะเบา มันคืองาน”


“(ถาม-ถ้ามองไปอนาคตข้างหน้า ตอนนี้ร่างกายไม่สู้ดี เพราะขาเหมือนจะเดินได้ข้างหนึ่ง แต่ตอนนี้เดินไม่ได้ คิดว่า จะดำเนินชีวิตยังไงต่อไปกับสิ่งที่เป็นอยู่?) ผมคิดว่า ถึงผมจะเป็นอย่างนี้ ผมจะต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด ดีกว่าเมื่อวานที่ผ่านมา แต่ไม่รู้จะเจออะไรอีกนะชีวิตต่อไปข้างหน้า คนเราไม่รู้หรอก ผมไม่ยอมแพ้ สู้ เมื่อมีลมหายใจ หมดลมหายใจเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น มีลมหายใจ สู้ไปเถอะ”


หากท่านใดต้องการช่วยเหลือปัจจัยในการดำรงชีวิตและทุนค่ารักษาพยาบาลให้กุ้ง โอนไปได้ที่ ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี ทวีศักดิ์ เกสร เลขที่บัญชี 6-605-69958-0


คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “พ่อค้าเฉาก๊วยหัวใจเกินร้อย”

https://www.youtube.com/watch?v=pyFfDOtN1O8


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อhttps://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อhttps://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos


กำลังโหลดความคิดเห็น