xs
xsm
sm
md
lg

ลูกจะสู้เพื่อพ่อ! “ป้าประทีป” แม้ขาพิการ สู้ขายส้มตำหารายได้ดูแลพ่อ ต้องปั่นจักรยานไปมาระหว่างบ้านและร้าน เพื่อเฝ้าพ่อ ลำบากแค่ไหน ไม่ท้อ!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปที่ จ.ลพบุรี เพื่อรู้จัก “ป้าประทีป” ที่ขาพิการจากโรคโปลิโอ แต่สู้ขายส้มตำหารายได้ดูแลพ่อป่วยติดเตียง ต้องเทียวปั่นจักรยานไป-มาระหว่างร้านและบ้าน เพื่อเฝ้าพ่อ ลำบากแค่ไหน ไม่ท้อ พร้อมดูแลพ่อให้ดีที่สุด



“ตอนแรกก็ปกติดี มีวันหนึ่งแกตื่นเช้ามา ก็ทำกิจวัตรตามปกติ แล้วแกก็เดินมาหาป้าว่า ทำไมพ่อชาข้างหนึ่ง แล้วเหมือนว่าปากแกเบี้ยวไปข้างหนึ่ง ...พอไปถึง รพ. หมอเอาพ่อเข้าห้องฉุกเฉิน สักพักเขาออกมาบอกว่า เส้นโลหิตแตก”

ป้าประทีป ทิพพันธ์ ย้อนเหตุการณ์วันที่พ่อป่วยเมื่อ 7 ปีที่แล้ว จนกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงจนถึงปัจจุบัน วันนั้นอาการพ่อเข้าขั้นวิกฤต จนหมอต้องถามลูกทุกคนว่า จะให้ผ่าตัดหรือไม่ ซึ่งป้าพร้อมทำทุกทาง ขอแค่พ่อยังมีชีวิตอยู่


“หมอก็ไม่รับรองนะว่าผ่าแล้วแกจะรอดหรือเปล่า ถ้าผ่าแล้วแกยังมีชีวิตอยู่ แกก็จะเป็นเจ้าชายนิทรา ...ตอนนั้น เราก็ปรึกษาพี่น้อง เขาก็ไม่อยากให้ผ่า แต่ป้าตัดสินใจว่าผ่า พี่น้องทุกคนก็ไม่ได้คัดค้านอะไร ก็เลยตัดสินใจผ่า ถ้าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ป้าขอแค่ว่า ขอชีวิตพ่อ ขอให้พ่อมีชีวิตอยู่”


“(ถาม-ตอนนี้อาการแกเป็นยังไงบ้าง?) บางครั้งแกหอบ หายใจไม่ได้ เราก็ใส่เครื่องออกซิเจนให้ประมาณ 1 ชั่วโมง (ถาม-แสดงว่าต้องคอยดูแลใกล้ชิด?) ค่ะ (ถาม-ออกไปไหนไกลๆ ไม่ได้?) ไปไกลมากไม่ได้”


แม้รักและสงสารพ่อมากแค่ไหน แต่ป้าประทีปจำต้องใช้ผ้าผูกข้อมือพ่อไว้กับเตียง เพื่อป้องกันไม่ให้พ่อดึงสายอาหารที่สอดจมูกออกดังที่พ่อเคยทำ


นอกจากเป็นลูกคนเดียวที่คอยดูแลพ่อป่วยติดเตียงแล้ว ป้าประทีปยังมีภาวะพิการจากโรคโปลิโอตั้งแต่เด็ก ทำให้ขาข้างซ้ายมีปัญหาข้อเข่าและยืดขาได้ไม่สุด ส่งผลให้การเดินผิดปกติ


“(ถาม-ตอนนี้ที่เห็นคือ ขา 2 ข้างไม่เท่ากัน เพราะข้างซ้ายผิดปกติ ด้วยรูปทรงที่มันบิด เวลาเดิน ป้าต้องทำยังไง?) ต้องเอามือยันขาซ้ายไว้ เพื่อให้น้ำหนักมันลงที่ขา ถึงจะเดินไปได้ ขาซ้ายช่วงบนก็จะลีบหน่อย (ถาม-แล้วรอยแผลเหนือเข่าซ้าย?) มันด้านจากการที่เราต้องเอามือยันเวลาเดิน บางทีถ้าเราเดินมากๆ มันก็จะเป็นแผล ส่วนขาข้างขวาคุณหมอบอกว่า ข้อเข่ามันอักเสบ เพราะมันรับน้ำหนักไปข้างเดียว”


แม้พิการ แต่หัวใจกตัญญู สู้ทำงานหาเงินดูแลพ่อ!

ก่อนพ่อป่วย ป้าประทีปขายส้มตำที่บ้าน (จ.ลพบุรี) รายได้พออยู่ได้ แต่เมื่อพ่อป่วยเข้า รพ. ป้าจึงต้องหยุดขายส้มตำไประยะหนึ่ง หลังจากนั้นบ้านใกล้เคียงได้เปิดขายส้มตำบ้าง เมื่อป้ากลับมาขายส้มตำอีกครั้ง จึงตัดสินใจออกไปขายนอกหมู่บ้าน ทำให้ขายได้น้อยลงและลำบากมากขึ้น เพราะป้าต้องเทียวปั่นจักรยานไปมาระหว่างบ้านและร้านส้มตำที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 1 กม. เนื่องจากต้องดูแลพ่อด้วย


“พอช่วงเช้าเราดูแลพ่อเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกไปร้าน ไปเตรียมของ ถ้ายังไม่มีลูกค้า ป้าก็เข้ามาก่อน บางทีเราก็ทิ้งเบอร์โทรไว้ที่ร้าน คนในหมู่บ้านจะรู้ว่าป้าไม่ได้อยู่ร้านตลอด รู้ว่าเราต้องเข้ามาดูพ่อ บางทีเขาก็โทรมาว่า ต้องการส้มตำนะ ป้าออกมาได้ไหม บางทีเราก็ทิ้งทางนี้ไว้ก่อน แล้วก็ออกไป พอตำเสร็จก็เข้ามา อยู่อย่างนี้ …บางทีคนจรเขาไม่รู้ บางทีเขาไม่เจอป้า ก็เลยไปเลย (ถาม-อันนี้ก็ทำให้รายได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย?) ใช่ค่ะ (ถาม-อย่างนี้ได้รายได้วันละเท่าไหร่?) ถ้าเราขายไก่ย่างด้วย ก็ประมาณ 300 (ถาม-นี่คือยังไม่หักต้นทุน?) ค่ะ ถ้าหักก็คงไม่เหลือเท่าไหร่”


ในความยากลำบาก ยังมีความโชคดี ที่บุพเพสันนิวาสพาให้ป้าประทีปได้เจอ “น้ำ” ปรีดา บริรักษ์ หนุ่มจิตใจดี ที่เห็นความลำบากและความกตัญญูของป้า ก่อนพัฒนามาสู่คู่ชีวิตที่พร้อมดูแลและแบ่งเบาความลำบาก


“ผมอยากดูแลเขา เห็นเขาดูแลพ่อคนเดียว ยิ่งรู้ว่าเขาพิการ ก็ยิ่งสงสารยิ่งรัก ตอนแรกเขากลัวผมหลอก เพราะผมอายุน้อยกว่า และอยู่ไกลกัน ผมอยู่นครฯ เขาลพบุรี หลังจากคุยกันนาน 4 ปี เขามั่นใจว่าผมไม่มีใคร ก็เลยมาหาเขา”


ตอนอยู่นครศรีธรรมราช “น้ำ” ทำงานก่อสร้าง หลังจากมาใช้ชีวิตกับป้าประทีป ก็ทำงานโรงงาน ก่อนตัดสินใจลาออก

“ทำงานโรงงาน ไปติดโควิด ผมเอามาติดพ่อ ผมเลยลาออกดีกว่า ก็มาทำงานรับจ้าง แต่ไม่ค่อยมีงาน อาทิตย์หนึ่งมีงาน 2-3 วัน รายได้วันละ 300 บาท ถ้าวันที่ไม่มีงาน ก็ย่างไก่ขาย พาแฟนไปขายของตามบ้าน เพราะตอนเช้าพ่อจะนอน กลางคืนเขาไม่นอน พอตอนสายผมจะมาเฝ้าพ่อ ส่วนแฟนก็ไปขายส้มตำ”


แม้สองแรงจะช่วยกันทำมาหากิน คนหนึ่งขายส้มตำ แต่ขายได้ไม่เต็มที่ เพราะต้องดูแลพ่อเป็นหลัก ขณะที่อีกคนรับจ้างทั่วไป แต่งานก็ไม่ค่อยมี ส่งผลให้รายได้ไม่ค่อยเพียงพอต่อรายจ่าย แม้ป้าประทีปและสามีจะประหยัดสุดตัวแล้วก็ตาม


“(ถาม-ในช่วงเวลาที่มันขัดสน หรือรายได้ไม่พอใช้จ่าย เรามีช่องทางเสริมในการมาจับจ่ายทดแทนไหม?) ก็มี บอกตรงๆ บางทีป้าก็ยืมเขาก็มี บางทีเดือนๆ หนึ่งมันไม่พอ เราก็เซฟๆ เอา อันไหนที่ไม่จำเป็น เราก็ตัดไป เอาที่สำคัญกับพ่อก่อน อย่างข้าว อย่างสายดูดเสมหะ แล้วก็อาหารเหลว เดือนหนึ่งก็ 4 กระป๋อง 4 ถุง ถ้าเรากินแบบประหยัดหน่อย บางทีก็ซื้อนมมาผสมให้แกบ้าง ผสมข้าว ถ้าเดือนไหนข้าวไม่พอ ก็ซื้อนมมาผสมให้มันครบ”


ครั้งหนึ่งของคนเป็นลูก จะดูแลพ่อให้ดีที่สุด!

“(ถาม-ความหวังในการดูแลพ่อ บางครั้งมันไม่มีกำหนดเวลาว่าจะสิ้นสุดตรงไหน เคยมองไหมว่า เราจะทำหน้าที่ของลูกที่กตัญญูไปได้ถึงจุดไหน?) ป้าก็ไม่รู้ว่าวันหนึ่งแกจะจากเราไปวันไหนนะ แต่ป้าตั้งปณิธานไว้ว่า ป้าจะดูแลแกจนกว่าจะหมดลมหายใจ ...ป้าคิดว่า ชีวิตครั้งหนึ่งของคนเป็นลูก บางทีเราไม่รู้เราจะตอบแทนท่านได้ดีที่สุดตอนไหน ป้าคิดว่า เราดูแลท่านตอนนี้ดีที่สุดสำหรับป้าแล้ว ...และจะดูแลแกอย่างนี้จนกว่าหมดลมหายใจ”


หากท่านใดต้องการช่วยเหลือป้าประทีปให้มีทุนซื้ออาหารเสริมและอุปกรณ์จำเป็นสำหรับดูแลพ่อป่วยติดเตียง โอนไปได้ที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ชื่อบัญชี นางสาวประทีป ทิพพันธ์ เลขที่บัญชี 0200-7411-0915


คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “ลูกจะสู้เพื่อพ่อ
https://www.youtube.com/watch?v=b_aTIn232VM


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos




กำลังโหลดความคิดเห็น