xs
xsm
sm
md
lg

วอนรัฐเอาจริง จัดการ'หมูเถื่อน' จี้DSIเร่งปิดคดีพิศวง สาวให้ถึงตัวการใหญ่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นักวิชาการ ชี้ การลักลอบนำเข้า“หมูเถื่อน”น่าจะเข้าข่าย “คดีพิศวง” เหตุหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สามารถสาวไปถึงตัวการใหญ่ได้ ทั้งที่มีข่าวมาเป็นระยะว่า บุกตรวจเปิดตู้แช่เย็นตามท่าเรือต่างๆ จนพบหมูเถื่อนซุกซ่อนอยู่หลายต่อหลายล็อต แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่สามารถปิดคดีได้ จนกลายเป็นคดีที่มีความยืดเยื้อที่สุดอีกหนึ่งคดีของไทย

นักวิชาการด้านปศุสัตว์ กันยาพร สดสาย ระบุว่า การที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษล่าสุด(DSI) ออกมาเปิดเผยถึง คดีหมูเถื่อน 2,388 ตู้ หลังจากใช้เวลาขยายผลมานานกว่า 1 ปี แต่ก็ยังคงอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งที่ระยะเวลาทำงานที่ผ่านมาก็เนิ่นนามมาถึงขวบปี เป็นการดำเนินการขยายผลตามข้อกังวลของเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู แต่ก็ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลมากไปกว่านี้ได้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกลัวเสียรูปคดี หรือ กลัวจะไปสะดุดตอใหญ่ที่ยังไม่ผุดขึ้นมากันแน่

ก่อนหน้านี้ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ สิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ ได้ร้องรัฐตรวจสอบหมูเถื่อนซ้ำทั่วประเทศ พร้อมเร่งดำเนินคดี ด้วยหวั่นว่าจะยังมีหมูเถื่อนตกค้างในระบบ และมีการระบายออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ส่งผลต่อราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์ม ที่ยังไม่สามารถปรับขึ้นข้ามเส้นคุ้มทุนไปได้ โดยราคาหน้าฟาร์มปัจจุบันอยู่ที่68-76 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่เกษตรกรกลับต้องแบกรับต้นทุนการเลี้ยงที่อยู่ในระดับสูงถึง 80-82 บาทต่อกิโลกรัม ไม่ต่างกับการบีบคั้นให้คนเลี้ยงหมูต้องพ้นจากอาชีพนี้

เรื่องนี้ ต้องทวงถามการทำงานของ DSI ที่ย้ำว่า ขยายผลเกือบทุกมิติแล้ว เหตุไฉน ยังเปิดเผยข้อมูลไม่ได้ โดยอ้างเหตุต้องมีพยานหลักฐานอย่างสมบูรณ์เสียก่อน ทั้งที่ก่อนนี้ก็มีการประกาศรายชื่อบริษัทและชื่อนายทุนที่เป็นผู้ลักลอบนำเข้าแล้ว แต่กลับเป็นเพียงการเรียกสอบปากคำและปล่อยตัวไป ไม่ได้มีการดำเนินคดีแต่อย่างใด หากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป มิวายที่ตัวการใหญ่ อาจจะรอดคดีกันทั้งขบวนการ

สาเหตุที่เกษตรกรต้องออกเร่งการทำงานของภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ DSI ที่เป็นโต้โผในการปราบปรามหมูเถื่อน เพราะเป็นคดีที่สร้างความเสียหายใหญ่หลวงแก่ประเทศชาติ คนเลี้ยงหมูต่างได้รับผลกระทบจากกลไกราคาหมูที่ถูกบิดเบือน จนราคาตกต่ำกว่าต้นทุนการผลิตจากผลพวงของปัญหาหมูเถื่อน มาเป็นเวลานานถึง 2 ปีกว่า นับจากปี 2565 เป็นต้นมา ทำให้เกษตรกรรายย่อยต้องออกจากระบบไปนับหมื่นราย จากช่วงปี 2564 ก่อนที่จะเกิดโรคระบาด ASF ไทยมีผู้เลี้ยงหมูราว 150,000 รายทั่วประเทศ แต่ปัจจุบันเหลือแค่ 50,000 ราย หรือเพียงร้อยละ 33 เท่านั้น

นักวิชาการด้านปศุสัตว์  ย้ำว่า  วันนี้สิ่งเดียวที่คนเลี้ยงหมูต้องการ คือ ขอให้ผู้เกี่ยวข้องกับการปราบปรามหมูเถื่อน เร่งดำเนินการกวาดล้างขบวนการนี้ สาวไปให้ถึงตัวการใหญ่และนำตัวมาดำเนินคดี ใช้อำนาจของกฎหมายจัดการเอาตัวคนผิดมาลงโทษ ให้มารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดกับทั้งเศรษฐกิจชาติ อาชีพเกษตรกร และสุขภาพของคนไทยโดยเร็วที่สุด




กำลังโหลดความคิดเห็น