xs
xsm
sm
md
lg

“ลุงธรรศ” แม้ถูกสาดน้ำกรดจนเสียโฉม-สูญเสียอวัยวะบางส่วน ไม่ท้อ สู้ขายรองเท้ามือสองออนไลน์ พร้อมให้กำลังใจคนที่กำลังท้อลุกขึ้นสู้!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “ลุงธรรศ” ผู้ไม่ยอมจำนนต่อความพิการ ลุกขึ้นสู้ใช้ความสามารถที่มีอยู่ทำงานหารายได้ผ่านออนไลน์ ทั้งยังสร้างกำลังใจให้คนที่กำลังท้อมีแรงสู้ต่อเหมือนเขา



บางครั้งความพิการ ก็ไม่ได้ทำให้เราต้องเป็นทุกข์ตลอดไป หรือมีความสุขกับชีวิตที่เหลืออยู่ไม่ได้ เหมือนกับชีวิตของลุงธรรศ มัฆมาน ที่แม้จะถูกอดีตเพื่อนร่วมงานทำให้พิการเสียโฉมและสูญเสียอวัยวะบางส่วน แต่เขาก็สามารถยอมรับกับสภาพตัวเอง และลุกขึ้นสู้เพื่อมีชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่า ไม่เป็นภาระของผู้อื่น ที่สำคัญยังสามารถเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังท้อแท้กับชีวิตด้วย


ย้อนเหตุการณ์วันเปลี่ยนชีวิต ดับฝัน “นักขายระดับเพชร”!

“วันนั้นวันที่ลุงโดนทำร้ายคือ เพื่อนร่วมงานนี่แหละ พอดีมีเพื่อนอีกคนโทรเข้ามาว่า เขามีธุระจะคุยกับเรา แต่เวลาเราออกไปจริงๆ มันไม่ใช่ และคนที่ คู่กรณีเรา เขาบอกเขามาเอาเอกสาร แล้วเราก็เดินเข้ามาเอาเอกสารและเอาไปให้เขา แต่ตอนที่เราไปให้เขา แล้วเราก็จะกลับเลย เพราะเรารู้ว่าปัญหามันกำลังจะมี เขาก็เอาน้ำกรดสาดเรา”


“(ถาม-เหตุผลคืออะไร ทำไมเขาถึงทำ?) เราไม่รู้เหตุผลส่วนตัวเขานะ ทุกคนมันมีเหตุผลส่วนตัว แต่รู้ว่าเขาเป็นรุ่นพี่ เราเป็นรุ่นน้อง เขาต้องการในสิ่งที่เราให้เขาไม่ได้ ก็เรื่องความรักความใคร่นี่แหละ เรื่องปกติ เราคิดว่าเราตัดสินใจถูกแล้ว เขาก็คงคิดว่าเขาตัดสินใจถูกแล้ว เพราะฉะนั้นลุงก็เป็นคนที่ยอมรับผลลัพธ์ที่ออกมา”


“(ถาม-สรุปว่า คนๆ หนึ่งมามีความรักความชอบลุง และไม่สมหวัง เลยก่อเหตุขึ้นมา คิดบ้างไหมว่าทำไมต้องเกิดกับเราด้วย?) คิดทุกวันว่า ทำไมถึงเกิดขึ้นกับเรา คิดมากจนตกตะกอนตกผลึกว่า เราก็มนุษย์คนหนึ่ง เราไม่มีข้อยกเว้น เพราะฉะนั้นคนโดนน้ำกรดสาด มีเยอะแยะไหม 1 ในนั้นจะเป็นเรา ก็ไม่เห็นเป็นเรื่องแปลก เพราะเราไม่มีสิทธิพิเศษใดๆ เกิดมาเหมือนกับทุกคน”


น้ำกรดทำลายอวัยวะหลายส่วน!

“(ถาม-หลังเกิดเหตุการณ์ สภาพร่างกายลุงเป็นยังไงบ้าง?) วันแรกที่เห็นคือ หน้าดำ แข็งมากทั้งหน้า และตาเหมือนจะหลุดออกมา แต่หลังจากนั้นประมาณ 3 วัน คืออยู่ในห้องไอซียู หมอผ่าตัดแล้ว เขาลอกหนังที่ขาขึ้นมาปะ โดนตามหน้า แต่ที่มาโดนตามแขนเพราะเราดิ้น สภาพหลังโดนน้ำกรด หน้าข้างขวาจะเสียไปเลย เพราะโดนพังผืดดึงตาดำกลับไปไว้ด้านหลัง แต่ด้านซ้ายหมอช่วยไว้ทัน หูข้างซ้ายเป็นหูปลอม เพราะหูมันขาดไป จมูกก็มีจมูกปลอมอยู่”


คนรอบข้างหวั่นฆ่าตัวตาย!

“(ถาม-นานเหมือนกันที่ทุกคนต้องมาคอยดูแลเรา?) ใช่ เขาก็คอยระวังว่าเราจะฆ่าตัวตายไหม เพราะทุกคนคิดว่าลุงต้องฆ่าตัวตายแน่นอน เพราะลุงเป็นคนแต่งตัวเก่ง เป็นคนสังคม ทำงานที่จะต้องคุยกับคนตลอดเวลา และเวลาชีวิตเป็นแบบนี้ ทุกอย่างของชีวิตมันเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก และไม่สามารถทำอะไรได้เลยที่เราเคยทำ”


ใช้เวลา 5 ปี กว่าจะยอมรับความจริงได้!

“(ถาม-หลังจากที่เกิดเรื่องแล้ว ลืมตาตื่นขึ้นมา แล้วเห็นสภาพร่างกายตัวเอง ความรู้สึกตอนนั้นเป็นยังไง?) หลังจากที่ลุงป่วย เว้นระยะมาประมาณ 5 ปีเลยกว่าลุงจะมองเห็น มันทำให้กระบวนการความคิดของเรามันเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก ด้วยความที่เราได้อยู่กับพี่สาว เราได้ยินเสียงพี่สาวร้องไห้เป็นระยะ มันก็จะเพิ่มความเข้มแข็งเรา และมีแม่มาอยู่ด้วย 5 ปี และวันที่ขอกระจกแม่มาดู ขอกระจกที่บ้านมาดู คือวันที่เรามีความรู้สึกว่า เราต้องยอมรับความจริง ถ้าเราจะอยู่ต่อ เราต้องยอมรับความจริง และปักธงให้กับชีวิตตัวเองว่า ภาพข้างหน้ามันจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ เราจะไม่ฆ่าตัวตาย เราร้องไห้ได้ เราทำอะไรได้ แต่สิ่งที่เราจะต้องทำคือ ไม่ฆ่าตัวตาย”


ทดสอบจิตใจ ทนต่อสายตาคนอื่นได้หรือไม่?

“(ถาม-แล้วตอนนั้นลุงเริ่มต้นด้วยการทำอะไร?) เริ่มต้นด้วยการเดินออกจากบ้านไปเฉยๆ ดูฟีดแบ็คว่า ใครจะมองเรายังไง แล้วกลับมานั่งวิเคราะห์ดูว่า เราสนใจไหม (ถาม-ฟีดแบ็คเป็นยังไงบ้าง?) ก็เยอะ เข้ามานั่งร้องไห้ แต่เราก็จะบอกตัวเองว่า เจอขนาดนี้มันก็ต้องร้องไห้ไหม ไม่ร้องไห้ก็จะเก่งเกินไปไหม ก็เลยร้องไห้ แต่ร้องไห้ เราก็มีเหตุผลว่า มันหนักขนาดนี้ เราก็ต้องร้อง และออกไปใหม่ และดูว่า ความเสียใจมันลดลงไหม ออกไปบ่อยๆ ก็เริ่มไม่มีใครสนใจ มันก็ลดลงไปเรื่อยๆ”


ลุกขึ้นสู้อีกครั้ง ด้วยความสามารถที่เหลืออยู่!

“(ถาม-ตอนนั้นลุงเริ่มต้นหารายได้จากทางไหน?) คือกลับเข้าไปสมัครเป็นตัวแทนขายประกัน เพราะคิดว่าเราน่าจะเหลืออยู่ น่าจะเหลือคำพูด เป็นอาวุธที่สำคัญที่เราน่าจะทำได้อยู่ (ถาม-ผลลัพธ์เป็นยังไงบ้าง?) ถ้าถามว่า ในด้านการขายประกัน ลุงว่าก็โอเคนะ มันมีแคมเปญหนึ่งที่ลุงเข้าไป คือ 11 ผู้ยิ่งใหญ่ เอาตัวแทนทั้งหมด 11 คน มาแข่งกัน เพื่อจะรับรางวัลที่แชงกรีลา และไปต่างประเทศ แล้วลุงชนะ ได้ที่ 1 เลยเป็นบทพิสูจน์ว่า เรายังอยู่ แต่ด้วยความที่เราไม่ได้เข้มแข็งเหมือน ณ วันนี้ เวลาเราเจอลูกค้าหรือเจอคนที่พูดว่า ทำอย่างอื่นจะดีกว่านี้ไหม ดูแลตัวเองได้อยู่หรือเปล่าถึงจะมาดูแลตัวเอง ทำไมไม่ไปยืนร้องเพลงข้างถนน เขายังคิดว่า อาชีพแบบนี้ไม่เหมาะกับคนพิการ เขาพูดตามความรู้สึกเขา เราจะรับมาหรือไม่ก็แล้วแต่เรา แต่ตอนนั้นเรารับ มันก็มีเหตุผลที่มาผนวกกันด้วย คือเราขึ้นรถเมล์ประจำ แล้วเราตกรถเมล์บ่อย เพราะสายตาเรากะระยะไม่ได้ เรามองความลึกไม่ได้ เราเลยตก พี่สาวเลยขอร้องให้หยุด”


ประเดิมอาชีพใหม่ “ขายข้าวแกง” ก่อนเปลี่ยนไปทำอาชีพที่ใช่ “ขายรองเท้ามือสอง”!

“ก็เลยชวนพี่สาวมาขายข้าวแกงปากซอย พี่สาวขายไม่เป็น แต่ทำกับข้าวอร่อย ลุงก็ไปยืนขาย ก็เจอเรื่องค่อนข้างเยอะ คนก็พูดว่า ข้าวแกงอร่อยนะ หน้าตาดี แต่ไม่กล้ากินหรอก มีน้ำเหลืองหยดหรือเปล่าก็ไม่รู้ หน้าเหมือนผีอะไรอย่างนี้ ข้าวแกงหน้าผี ขาย 3 ทุ่ม ฉันขับรถผ่าน ฉันตกใจมากเลย บางคนก็ถ่ายรูป ขับรถผ่านมา ลุงยืนขาย ไปลงในเว็บไซต์ น่ากลัวมาก เขาบอก วังเวงมากเลย กินไป จุดธูปไปด้วยนะ”


“(ทุกวันนี้ได้ขายข้าวแกงอยู่ไหม) ส่วนตัวไม่ได้ขายแล้ว พี่สาวเป็นคนขาย เพราะลุงเริ่มมองว่า ข้าวแกงไม่สามารถที่จะทำรายได้มากพอที่จะดูแลคนในครอบครัวได้ทั้งหมด ลุงเลยหาอย่างอื่นทำ แต่ไม่มีเงินทุนไง ลุงเลยคิดว่า ถ้าเกิดเราจะไปกู้เขา เขาคงไม่ให้หรอกสภาพนี้ ลุงเลยเอาไงดี เราเริ่มต้นจากตรงไหนดี ก็ไล่ลงมา จนท้ายสุดมาอยู่ตรงที่ ง่ายที่สุดคือ เก็บขยะข้างร้านที่มันเป็นกองขยะ หลังเลิกร้าน ก็เริ่มลากรถคันเล็กออกมาเก็บขวดบ้างอะไรบ้างทุกวัน แล้วมีวันหนึ่ง เก็บทุกวันสะสมไว้ เดือนหนึ่งได้ประมาณ 200-300-500 บาท เผอิญมีวันหนึ่ง ลุงไปเจอรองเท้าในกองขยะ ด้วยความที่เราเป็นช่องซ่อมรองเท้ามาก่อน เราจะรู้ว่ามันซ่อมได้หรือไม่ได้ เผอิญมันซ่อมได้ ลุงเลยลองซ่อมรองเท้าคู่นั้น แล้วโพสต์ขายบนโซเชียล เผอิญมันขายได้ และมีราคาด้วย เลยเป็นจุดตั้งต้นให้ลุงมาขายรองเท้า”


“(ถาม-ทุกวันนี้อยู่ตัวหรือยังขายรองเท้า?) ถ้าถามว่าอยู่ตัวไหม ก็ถือว่าโอเคสำหรับการตั้งเป้าหมาย เพราะลุงเคยตั้งเป้าหมายไว้ว่า ลุงเป็นคนพิการ อยากมีรายได้มากกว่าค่าแรงขั้นต่ำ ทุกวันนี้มีรายได้มากกว่า ก็โอเคแล้ว”


ลุงธรรศไม่เพียงขายของผ่านออนไลน์ แต่ยังใช้โซเชียลมีเดียในการพูดให้กำลังใจคนที่ท้อแท้อีกด้วย

“(ถาม-ทุกวันนี้ยังเจอปัญหาหรืออุปสรรคอะไรบ้างไหม?) เจอทุกวัน เจอคำพูด เป็นสิ่งที่เราต้องเจอ เราอยู่ในสังคม สังคมมันคือความหลากหลาย มันคือคนจำนวนมากๆ มันหลากหลายความคิด เขาเรียกระบบนิเวศของสังคม เราจะมีแต่เรื่องดีๆ เข้ามาในชีวิตเราเลย มันก็ไม่ได้นะ เราจะมีแต่เรื่องไม่ดีเข้ามาในชีวิตเราก็ไม่ได้ มันมีทั้ง 2 อย่าง มันอยู่ที่ว่าเราเลือกอะไรไว้กับเรา เคยมีความรู้สึกว่า ความพิการมันไม่ได้มีเรื่องดี มีแต่เรื่องที่ไม่ดีทั้งหมด มันเท่ากับความล้มเหลว ความล้มเหลวเท่ากับความทุกข์ แต่ความพิการของลุงครั้งนี้ มันพิสูจน์ได้ว่า ความล้มเหลวมันไม่ใช่เท่ากับความทุกข์ เพียงแต่เวลาเราล้มเหลวแล้ว เราไม่หาความสุขมากกว่า เราโฟกัสไปที่ความทุกข์ตลอด ฉันล้มเหลว ฉันต้องมีความทุกข์ ฉันไม่ประสบความสำเร็จ ฉันต้องมีความทุกข์ จริงๆ แล้ว ทุกความล้มเหลวมีความสุขซ่อนอยู่เสมอๆ“


“(ถาม-ความสุขของลุงคืออะไร?) ความสุขของลุงก็ได้ใช้ชีวิตทุกวัน ได้ใช้ชีวิต ได้ทำงาน ได้มีโอกาสทำงาน ได้มีโอกาสออกไปข้างนอกโดยที่ไม่อายใคร และได้กลับมาใช้ชีวิตที่ตัวเองคิดและหลายๆ คนคิดว่า คนพิการไม่สมควรที่จะได้ใช้ ก็ได้ใช้ทั้งหมด”


หากท่านใดต้องการอุดหนุนรองเท้ามือสองของลุงทรรศ ติดต่อได้ที่เพจเฟซบุ๊ก ธรรศ มัฆมาน หรือติ๊กต็อก ลุงธรรศผู้พิการหัวใจลั้นลา


คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “คนพิการหัวใจลั้นลา”
https://www.youtube.com/watch?v=TqTHmX6ZnKI


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos






กำลังโหลดความคิดเห็น