xs
xsm
sm
md
lg

“แม่ตุ๊ก” แม่เลี้ยงเดี่ยวสู้ชีวิต สูญเสียลูกชายคนเล็ก ส่วนคนโตอุบัติเหตุทำติดเตียง ทั้งยังต้องดูแลหลานวัยเรียนอีก 2 ชีวิต!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “แม่ตุ๊ก” แม่เลี้ยงเดี่ยวสู้ชีวิต ที่สูญเสียลูกชายไป 1 คน ส่วนลูกชายอีกคนก็ป่วยติดเตียง ทั้งยังต้องดูแลหลานวัยเรียนอีก 2 ชีวิต แม้จะเคยรู้สึกท้อ แต่เมื่อมองหน้าลูก ก็รู้ว่าท้อไม่ได้ เพราะถ้าท้อ แล้วลูกจะอยู่อย่างไร



บางครั้งชะตาชีวิตก็เหมือนแกล้งให้ครอบครัวหนึ่งซึ่งกำลังมีความสุข และมีแนวโน้มอยู่ได้สบาย กลับต้องพบกับเหตุการณ์ที่พลิกผันและสูญเสียคนในครอบครัว ทำให้ชีวิตที่เหลืออยู่ต้องพบกับความยากลำบาก เช่นที่“แม่ตุ๊ก” สุประวีณ์ พลเมืองดี แม่เลี้ยงเดี่ยวคนนี้ต้องประสบ


แม่ตุ๊กมีลูกชาย 2 คน คือ กอล์ฟ และบอล ซึ่งแม่และลูกต่างทำงานมีรายได้เลี้ยงครอบครัวอย่างดีเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ก่อนที่ความสูญเสียจะเริ่มมาเยือน

“ตอนนั้นแม่เป็นลูกจ้างประจำ ลงพื้นที่เยี่ยมเคส ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ เด็กแรกเกิด คนพิการ (ถาม-เราต้องไปทำหน้าที่อะไร?) ลงพื้นที่สอบเคส เก็บข้อมูล และเอามาให้หัวหน้าและเบิกเงินช่วยเหลือ เป็นเงินสงเคราะห์ครอบครัวเขาไป (ถาม-รายได้ดีไหมตอนนั้น?) ตอนนั้นเงินเดือน 2.7 หมื่น ตอนนั้นกอล์ฟกับบอลทำงานแล้วด้วย คือทั้งคู่เขาทำงานแล้ว 3 คนทำงานก็มีความสุข ก็คิดว่า เดี๋ยวแม่เกษียณออกมา ชีวิตบั้นปลายก็คงสบาย แค่เลี้ยงหลาน มโนไปหมดตอนนั้น แต่พอคนเล็ก (บอล) เสีย ยังเหลือคนโต (กอล์ฟ) เขาบอกว่า บอลไม่อยู่แล้ว เดี๋ยวกอล์ฟดูแลแม่เอง ตอนนั้นสภาพจิตใจเราก็ยังแย่อยู่”


หลังจากสูญเสียลูกชายคนเล็กไป ให้หลังไม่กี่ปี เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีก เมื่อกอล์ฟ ลูกชายคนโตประสบอุบัติเหตุ จนต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงจนถึงปัจจุบัน

“คือกอล์ฟขับเข้าไปชนเขาเอง แต่วันนั้นที่คุยกับคุณหมอ หมอประเมินว่า น้องน่าจะชัก เพราะกอล์ฟมีโรคลมชักอยู่แล้ว แต่เขาไปขี่มอเตอร์ไซค์ ซึ่งบอกแล้วว่า กอล์ฟอย่าไปเลย เหมือนเป็นวันลอยกระทง แล้วไปกับเพื่อน แต่ใจคิดว่า คงไม่มีอะไร (ถาม-สาเหตุที่ทำให้เขาไม่เหมือนเดิมคืออะไร?) ผ่าตัดสมอง และไปโดนส่วนสำคัญของสมอง คือตัดส่วนความทรงจำในสมองออกไป และเอากะโหลกออกตอนนั้น อยู่ รพ.ประมาณเกือบ 3 เดือน อยู่ไอซียู”


“เมื่อ 16 เดือนที่แล้วน้องผ่าตัดสมองเป็นครั้งที่ 5 ล่าสุดน้องติดเชื้อในสมองที่กะโหลก เพราะก่อนหน้านี้หมอเอากะโหลกเทียมใส่ให้ แล้วมันมีหนองขึ้นมาตรงข้อตรงรอยต่อที่น้องผ่า น้ำหนองกับเลือด เลยพาไป รพ. หมอบอกว่าน้องติดเชื้อ ต้องเอากะโหลกออก เลยผ่าตัดไปอีกรอบ ตอนนี้อาการของน้องโดยรวมคือ สมองเขาไม่ค่อยสั่งการ ตอนนี้ไม่ค่อยฉี่และไม่ค่อยถ่าย เหมือนเราต้องช่วยเขา”


รักษาแบบประคับประคอง หมดโอกาสกลับมาเหมือนเดิม!

“(ถาม-หมอพูดถึงแนวทางการรักษาหรือความหวังในการมีชีวิตของน้องไหม?) ตอนนี้รักษาแบบประคองอาการน้อง แต่เปอร์เซ็นต์ที่น้องจะกลับมาเหมือนเดิม ไม่มีแล้ว นอกจากทรงกับทรุด อยู่ที่คนดูแล แต่หมอบอกว่า แม่ดูแลดีที่สุดแล้วตอนนี้ เหมือนเขาสู้อยู่ หมอบอก (ถาม-ในวันที่ลูกล้มป่วย หัวใจของแม่คงทรมานพอสมควร?) เห็นเขาทุกข์ เวลาเราเดินเข้าไปหาเขา เวลาเรากอดเขาหรือจับเขา เราจะสัมผัสได้ว่าเขารับรู้ เพราะน้ำตาเขาจะซึมมาข้างๆ เวลาที่เราคุยกับเขา แต่เมื่อก่อนจับมือ พอเราพูด เดี๋ยวแม่ไม่ให้กอล์ฟกินข้าว กอล์ฟไม่บีบมือแม่ เขาก็จะพยายามบีบ เดี๋ยวนี้เขาไม่บีบแล้ว เหมือนแรงเขาอ่อนลง”


นอกจากต้องดูแลลูกที่พิการติดเตียงแล้ว แม่ตุ๊กยังมีหลานสาวอีก 2 คนที่ดูแลมานานแล้ว โดยปัจจุบันแม่ตุ๊กและลูกหลานเช่าบ้านอยู่ที่หมู่บ้านพงษ์ศิริชัย 1 อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

“หลานสาวคนโตอายุ 13 ปี เป็นลูกของหลานชาย เลี้ยงเขามาตั้งแต่คลอด ชื่อฝน (ถาม-พ่อแม่เขาไปไหน?) พ่อแม่บ้านก็อยู่ข้างๆ แต่เขาติดที่นี่ เพราะพ่อเขาเอามาไว้เลี้ยงที่นี่ เมื่อก่อนเลี้ยงพ่อเขา ตอนพ่อเขาเล็กๆ แล้วน้องก็คลอดที่นี่ ก็เลี้ยงเขามา เขาติดที่นี่ และเขาก็เรียกเราว่าแม่ พ่อกับแม่เขาเลิกกัน และพ่อเขาตอนนี้มีครอบครัวใหม่ ซึ่งอยู่บ้านข้างๆ กันเนี่ย แต่น้องจะติดที่นี่และนอนที่นี่ ส่วนคนเล็ก น้องเบลล์ อายุ 9 ขวบ เป็นลูกของลูกชายคนที่ 2 ที่เสียชีวิตไปแล้ว (ถาม-แล้วแม่ของน้องเบลล์?) แม่ของน้องไปทำงาน แต่เขาก็ไปๆ มาๆ เขาก็ยังรับผิดชอบ ส่งเงินให้บ้าง แต่ก็ไม่เยอะ เพราะเขาก็มีค่าใช้จ่ายของเขา แต่ก็ไม่ได้ไปเรียกร้องอะไรเขา เพราะเรายินดีที่จะเลี้ยงเอง”


เมื่อเป็นเสาหลักคนเดียวของบ้าน งานประจำก็ต้องทำเพื่อให้มีรายได้มาดูแลลูกและหลาน แม่ตุ๊กจึงตัดสินใจนำกอล์ฟไปให้ศูนย์ดูแล โดยเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

“เอากอล์ฟไปจ้างเขาดูเดือนละ 1.6 หมื่น เพราะตอนนั้นไม่มีใครเลย น้องเบลล์ก็ยังเล็กมาก และฝนตอนนั้นอยู่แค่ ป.4 ตอนนั้นจ้างเขาดูแลลูกอยู่ประมาณเกือบ 2 ปี ก็ไม่ได้ส่งบ้าน ก็กลายเป็นหนี้เรื้อรัง ตอนนั้นเริ่มมีหนี้เยอะแล้ว เริ่มไม่มีเงินจ้างเขาดูลูก (ถาม-ต้องยอมตัดสินใจลาออกงาน?) ถ้าเราไม่ออก เราไม่มีเงิน แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายเขา”


“มันมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ลาออกจากงาน แล้วไม่ได้ทำ ถึงขนาดเดินขอข้าววัด ตอนนั้นไม่มีตังค์แม้กระทั่งจะซื้อข้าวมาปั่นให้ลูก บอกตรงๆ และช่วงนั้นเป็นช่วงโควิด ทุกคนก็ต่างไม่มีเงิน เราก็ไม่รู้จะหันหาใคร และหลานอีก 2 คน แต่ยอมรับว่า หลาน 2 คนนี่คือดี ถ้าบอกว่าไม่มีเงิน จะไม่ตื๊อขอ แม่ไม่มีนะ เขาก็ มีบาทหนึ่งไหมแม่ 2 บาทก็ได้แม่ ซื้อลูกอม แต่เราจะมีเพื่อนบ้านที่ดี อย่างไม่มีข้าวกิน ก็เดินไปบ้านหลาน (ขายอาหารตามสั่ง) เขาก็ทำกับข้าวให้”


ด้าน “ขนิษฐา บุญชู” หลานสะใภ้ของแม่ตุ๊ก เล่าว่า“ก่อนที่กอล์ฟจะประสบอุบัติเหตุ กอล์ฟเป็นคนร่าเริง คุยเก่ง พูดเก่ง ชอบแหย่ ขี้เล่น เป็นเด็กดี เลี้ยงน้องเลี้ยงหลาน ชอบเลี้ยงเด็ก (ถาม-ความเป็นอยู่ครอบครัวเขาเป็นยังไงบ้าง?) ก็แย่เลย พลิกเลย แม่เขาก็แย่ การงาน บ้านก็โดนยึดทุกอย่าง เพราะเขาตัวคนเดียว (ถาม-ช่วยเหลืออะไรบ้าง?) ก็มาเฝ้า มาดูทุกวัน คอยมาดูเขา เพราtยาบางตัว บางวันเขารับอาหารไม่ได้ เราก็ไม่ได้ให้ มาคอยดูดเสลด มาเช็ดตัวให้เขาเท่าที่เราทำได้”


หลังลาออกจากงาน และยอมปล่อยให้บ้านถูกยึด แม่ตุ๊กได้พาลูกและหลานมาเช่าบ้านอยู่ที่หมู่บ้านพงษ์ศิริชัย 1 ย่านอ้อมน้อย พร้อมกับเริ่มทำงานใหม่อีกครั้ง


“ตอนนี้ทำงานที่ศาลากลาง (ถาม-ทำงานอะไร?) ไปเป็นแม่บ้าน ได้เงินเดือนๆ ละ 9,000 (ถาม-ทำตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมง?) เวลาราชการเลย หยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็ได้ดูแลกอล์ฟ (ถาม-ใครดูแลลูกช่วงที่เราไปทำงาน?) ติดกล้องไว้ เช้ามาก็ทำให้หมดทุกอย่าง ทำจนเสร็จ รู้ว่าต้องทำยังไงบ้าง ก็โทรบอกหลาน และเราจะดูกล้อง เวลามีหมอจากอนามัยมา เราก็จะเห็น คนแถวนี้เขาก็ช่วยดูให้ มีอะไรเขาก็โทรบอก แล้วหลาน ฝน พอเลิกเรียน เขาก็รีบกลับมาอยู่ พอเรามองกล้อง สัก 3 โมงครึ่ง มีคนอยู่ในบ้าน ก็จะสบายใจ พอเลิกงาน ที่ทำงานก็ไม่ได้ออกจนเย็นมาก 4 โมงกว่า เขาก็ให้กลับได้”


นอกจากรายได้จากงานหลักที่ทำจันทร์-ศุกร์แล้ว แม่ตุ๊กยังหารายได้เสริมด้วยการใช้เวลาช่วงเช้าของวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ นำเสื้อผ้ามือสองที่ได้รับจากเพื่อนที่ทำงาน ไปตั้งขายที่ตลาดหมู่บ้านสินสมบูรณ์ ริมถนนพุทธมณฑลสาย 4 ที่ไม่ไกลจากบ้านนัก


“(ถาม-ด้วยความที่เป็นเสาหลักคนเดียว แถมต้องดูแลลูกและหลานอีก 2 คน กระทบค่าใช้จ่ายไหม?) ก็กระทบ แต่พยายามไม่หยิบยืมใคร มีแค่ไหน กินแค่นั้น ที่ทำงาน พวกหัวหน้าเขาดีด้วย เขาจะมีของฝากกลับมาบ้าน เอากลับไปกินบ้านนะ ตุ๊กเอานี่กลับไปกิน ไปให้น้องเบลล์นะ กลับไปกินกับหลาน แถวนี้ พอเรากลับมา ถ้าเราหิว เดินไปบ้านหลาน เขาก็มีกับข้าว เขาบอก กินข้าวสิ ประหยัดเรื่องค่าใช้จ่าย ค่ากับข้าว ตัวเองไม่ได้กินอะไรมาก จะหาให้ก็คือ ฝนกับเบลล์ สองคนนี้ก็ไม่เรื่องเยอะ มาม่าเขาก็กินได้”


“(ถาม-แล้วค่าใช้จ่ายในครอบครัว บ้านหลังนี้เราเช่า?) เดือนละ 5,000 (เงินเดือน 9,000 หลักๆ ก็หมดไปกับบ้านครึ่งหนึ่ง ค่าเดินทาง ค่ากินค่าอยู่ 4 ชีวิต แล้วในส่วนของน้องๆ ?) ฝนกับเบลล์ไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องกิน อะไรก็กินได้ ถ้าอย่างไม่มีตังค์ ก็มาม่า (ถาม-ไปโรงเรียนทุกวันยังติดขัดเรื่องค่าใช้จ่ายหรือค่าขนมบ้าง?) ค่าขนม ย่าต้องให้ทุกวัน เพราะสงสารเขา ฝนเขาจะได้ 100 ค่ารถเขาวันละ 36 บาท พูดง่ายๆ ว่า บางวันแม่ไม่ไปทำงาน ไม่มีตังค์ติดตัวเลยนะ ทีแรกก็รับไม่ได้นะ ที่ไปทำแม่บ้าน บอกตรงๆ แต่ถ้าไม่ทำ เราก็ไม่มีกิน เมื่อวานก็เกือบโดนตัดค่าน้ำ เพิ่งไปจ่ายค่าน้ำมาเมื่อวาน”


“(ถาม-วันนี้ก็ยอมรับว่า ยากลำบากและหนัก แต่ดูหนทางข้างหน้าแล้วก็ยังเหมือนมีสิ่งที่ไม่ได้ทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้นเลย แม่คิดยังไงกับอนาคตที่จะเกิดขึ้น?) ตอนนี้ยังคิดอะไรไม่ออก คิดอย่างเดียวว่า ทำวันนี้ แค่ดูแลกอล์ฟให้ดี ทำยังไงก็ได้ไม่ให้ลูกเจ็บ คือรู้ว่าลูกเจ็บ แต่เหมือนเราพยายามทำให้เขาเจ็บน้อยที่สุด ตรงไหนที่เขานอนไม่สบายหรืออาการหน้าตาเขา เหมือนแม่จะรู้ว่า วันนี้เขาไม่ดีแล้ว อย่างวันนี้เขาไม่ฉี่ จะรู้แล้วว่าเขาไม่ดี”


“(ถาม-ตั้งแต่วันที่ยังอยู่กันพร้อมหน้า จนถึงวันนี้ สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้บทเรียนหรือสร้างอะไรที่เป็นคุณค่าให้กับจิตใจเราบ้าง?) ทีแรกก็คิดว่า เราหมดทุกอย่างแล้วนะ พอหันมาหากอล์ฟ ถ้าเรายิ่งท้อ แล้วกอล์ฟจะอยู่ยังไง กอล์ฟจะกินอะไร อยู่แบบไหน เหมือนต้องดิ้น ทำวันนี้ให้กอล์ฟอยู่สบายที่สุด จนกว่าเขาจะไม่อยู่กับเรา คิดแค่นั้น และตั้งใจจะส่งให้เด็ก 2 คนนี้ เรียนจนจบ”


หากท่านใดต้องการช่วยเหลือครอบครัวของตุ๊ก สามารถโอนเงินไปได้ที่ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี สุประวีณ์ พลเมืองดี เลขที่บัญชี 7-12181-005-0


คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “สายใยรักจากแม่”
https://www.youtube.com/watch?v=KlgyK4GI9U8


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos


กำลังโหลดความคิดเห็น