xs
xsm
sm
md
lg

เด็กดาวน์ก็เก่งได้! “วุฒิ” มุมานะเรียนจนจบปริญญาตรี และเป็นนักดนตรีฝีมือไม่ธรรมดา ทั้งยังมีหัวใจจิตอาสา ช่วยคนลำบากยากไร้!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “น้องวุฒิ” เด็กดาวน์ซินโดรม ซึ่งพ่อแม่ได้ทุ่มเทให้ลูกได้ฝึกพัฒนาการและศึกษาเล่าเรียน จนประสบความสำเร็จ ทั้งจบปริญญา-เป็นนักดนตรี-มีงานทำ ทั้งยังแบ่งรายได้จากการเล่นดนตรีไปซื้อสิ่งของจำเป็นมอบให้ผู้ป่วยผู้พิการยากไร้อีกด้วย



“ตอนคลอดออกมา หมอบอกว่า น่าจะเป็นดาวน์ ก็ยังงงๆ ไม่มีข้อมูลว่าดาวน์คืออะไร แต่หมอบอกว่า สติปัญญาจะอ่อน ก็เลยคุยกับแม่ มีอะไรก็ทำได้เลย เราจะไม่ทิ้งเขา”

คำยืนยันจากผู้เป็นพ่อ “จรุงเกียรติ กีรติชัยพันธ์” หลัง “วุฒิ” ณัฐวุฒิ กีรติชัยพันธ์ ลูกชายคนเดียว เกิดมาพร้อมกับภาวะดาวน์ซินโดรม ซึ่งจะส่งผลให้มีความบกพร่องทางสติปัญญาและพัฒนาการช้า แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความรักที่พ่อกับแม่มีให้ลูกลดน้อยถอยลงหรือคิดทอดทิ้งลูกแต่อย่างใด


ตรงกันข้าม พ่อกับแม่ทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกได้ฝึกพัฒนาการและได้เรียนเช่นเด็กปกติ ซึ่งแม่ “ภรณี เช้าเจริญประกิจ” ยอมรับว่า สิ่งที่ยากที่สุดของการมีลูกเป็นเด็กพิเศษ คือการหาโรงเรียนให้ลูกได้เรียนร่วมกับเด็กปกติ ซึ่งที่ผ่านมา ได้ถูกปฏิเสธจากหลายโรงเรียน ทำให้แม่ต้องเสียน้ำตาไปหลายครั้ง


“แม่ร้องไห้ น่าจะ 3 ครั้งที่ร้องหนักๆ ตอนที่เขาจะเข้าอนุบาล แล้วโรงเรียนไม่รับ ร้องไห้หนักครั้งที่ 2 คือ อาจารย์ที่บอกว่าจะรับเข้าเรียน แล้วหนีเรา ตอนแรกอาจารย์บอก แม่ เดี๋ยวยังไง ก่อนจะออกมาหาอาจารย์ โทรบอกอาจารย์ก่อนนะ อาจารย์จะได้เตรียมตัวต้อนรับ ผลปรากฏ เราไปถึง เขาหนีเราเลย แล้วครั้งที่ 3 เรียนภาษาอังกฤษ เป็นโรงเรียนพิเศษนะ แต่เชิญออกเลย เขาก็เกริ่นๆ เรามาแล้วว่า บางทีผู้ปกครองเขาก็ไม่อยากให้เด็กพิเศษไปเรียนร่วมกับลูกเขา”


“(ถาม-ในหัวใจของแม่ที่สู้เพื่อลูก แต่ปัจจัยภายนอกควบคุมไม่ได้ เคยคิดจะหยุดไหม?) ไม่เคย ไม่เคยคิดจะหยุด ไม่เคยคิดท้อเลย สู้ต่อไป ก็หาทางต่อไป เราก็คิดว่า เด็กปกติเขาก็ยังได้เรียนอันนี้เลย แล้วลูกเราก็มีหัวใจเหมือนคนปกติ 1 ดวงเท่ากัน เขาก็ควรได้เรียนเท่ากันไหม ไม่ใช่คุณเห็นหน้าเขาเป็นอย่างนี้ เป็นเด็กพิเศษ แล้วไม่ให้เขาเรียน (ถาม-สุดท้ายลูกก็เข้าสู่ระบบการศึกษาได้ปกติ?) ก็ทุกช่วงวัย พอจบอันนี้ ปัญหาก็มา ก็หากันใหม่”


พ่อกับแม่ไม่เพียงหาโรงเรียนให้ลูกได้เรียนร่วมกับเด็กปกติ แต่ยังให้ลูกได้เรียนดนตรีตั้งแต่เด็กเช่นกัน ส่งผลให้ “วุฒิ” มีทักษะด้านดนตรี เล่นเครื่องดนตรีได้หลายชนิด เช่น เปียโน ไวโอลิน กลอง ฯลฯ โดยเฉพาะการตีกลองนั้น อาจารย์เห็นความสามารถของวุฒิตั้งแต่เด็ก และส่งเสริมจนได้รับโอกาสเล่าเรียนด้านดนตรีระดับมัธยมปลายในสถานศึกษาชื่อดัง


“กลองนี่ ก็ครูตอน ป.1 ที่สอนดนตรี สังเกตว่า วุฒิตีได้ดีกว่าเด็กโตๆ ที่เรียนมา เด็ก ม.1 ที่เรียนมา เขาสู้ได้เลย บนความโชคร้ายตอนหาโรงเรียนไม่ได้ แต่ก็มีความโชคดี ครูท่านนี้เลยเอาไปฝากกับ อ.สุกรี เจริญสุข ที่มหิดล ดุริยางคศิลป์ แล้วอาจารย์ก็น่ารัก ก็รับ บอก ม.4 มาเรียนได้เลย (ถาม-ส่งผลให้มีโอกาสได้เรียนในระดับมัธยม?) ใช่ค่ะ ดุริยางคศิลป์มหิดล ตอนนั้น อ.สุกรีเป็นคณบดี”


แม้วุฒิจะเรียนจบมัธยมปลายจากมหิดล แต่ไม่สามารถเรียนต่อระดับปริญญาตรีที่นี่ได้ แม้เกรดเฉลี่ยจะถึงเกณฑ์ได้โควต้าเรียนต่อปริญญาตรีก็ตาม เพียงเพราะน้องเป็นเด็กพิเศษ ส่งผลให้ผู้เป็นแม่ต้องลุกขึ้นมาฟ้อง เพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้ลูก


“(ถาม-ทำไมไม่เรียนต่อระดับปริญญาตรีที่มหิดล?) เขาเปลี่ยนคณบดี เด็กปกติบางคน เกรด 2.5 ก็ได้เรียนแล้ว แต่วุฒิได้มากกว่า 2.5 ไม่ได้เรียน พอเป็นเด็กพิเศษ แม้เกินโควต้า ก็ไม่ได้เรียน เพราะเป็นคณบดีคนใหม่ อาจจะเป็นแนวการเรียนการสอนของเขาแบบใหม่ (ถาม-โห แม่รู้สึกยังไงบ้างตอนนั้น? ) ก็เสียใจ แม่ฟ้องเขาอยู่นะ (ถาม-แล้วผลลัพธ์เป็นยังไง?) ก็ยกฟ้อง”


แม้ผลการฟ้องจะลงเอยด้วยการแพ้ แต่โชคยังดีที่ก่อนจะรู้ผลคดี อ.สุกรี เจริญสุข อดีตคณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเคยให้โอกาสวุฒิได้เรียนดนตรีในระดับมัธยมปลาย ช่วยให้วุฒิไม่ต้องเคว้งคว้างหรือไร้ที่เรียน


“คดีนี้ตัดสินยาวนานมาก อ.สุกรีก็บอกว่า ไม่ได้แล้ว เอาวุฒิไปฝากไว้ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาก่อน (ถาม-เท่ากับว่า ให้น้องไปเรียนที่มหาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จฯ ในคณะ?) ดนตรีเหมือนกัน วิทยาลัยดนตรี (ถาม-แล้วเป็นยังไงบ้าง จบตามเป้าหมายไหม?) ก็จบตามเกณฑ์ (เตรียมรับปริญญาในเดือน มิ.ย.นี้)”


จากที่เคยสิ้นหวังกับการถูกสถาบันการศึกษาบางแห่งปิดกั้น ไม่ให้โอกาสเด็กพิเศษได้เรียน แม่จึงอดห่วงอนาคตเรื่องการทำงานของลูกไม่ได้ เพราะอาจไม่มีที่ไหนอยากให้เด็กพิเศษเข้าทำงาน แม่จึงตระเวนพาลูกดูนักดนตรีเปิดหมวกตามที่ต่างๆ เพื่อให้ลูกรู้ว่า การเปิดหมวก น่าจะเป็นอาชีพของลูกได้


ปัจจุบัน วุฒิ ในวัย 23 ไม่เพียงเล่นดนตรีเปิดหมวก แต่ยังมีงานประจำ ในฐานะผู้พิการ ตามมาตรา 33 อีกด้วย “วุฒิก็ได้งานจากผู้ใหญ่ใจดี ห้างขายยาเบอร์ลิน ได้ทำงานในมาตรา 33 ของคนพิการ แม่ก็ขอทางบริษัทว่า ขอให้น้องออกมาเล่นดนตรีในลักษณะเป็นการสร้างความสุขให้คนที่พบเห็นเขา อันนี้คือเป็นงานส่วนหนึ่งของเขา และเขาก็จะมีเงินเดือนจากตรงนั้น”


วุฒิเป็นเด็กพิเศษที่มีอัธยาศัยร่าเริง ช่างพูด และกล้าแสดงออก ขณะที่ฝีมือด้านดนตรี โดยเฉพาะการตีกลอง ก็ไม่ธรรมดา หลายคนที่ได้เห็นได้ฟังต่างอดรู้สึกทึ่งไม่ได้

วุฒิเริ่มเป็นที่รู้จักในกระแสโซเชียล เพราะได้ขึ้นเวทีกับศิลปินชื่อดัง “เป๊ก ผลิตโชคอายนบุตร เมื่อไม่กี่ปีก่อน“วันนั้นแม่พาวุฒิไปดูอีเวนต์ แม่รู้ว่าพี่เป๊กจะมา เป็นมินิคอนเสิร์ต เลยพาเขาไป แล้วฝนตก เราก็คิดว่าพี่เป๊กคงไม่มา วุฒิก็กางร่มไปดูว่าพี่เป๊กมาไหม ผลปรากฏ เขามา เขาไม่หยุดเพราะฝน เราก็ เอ๊ะ ทำไม วุฒิไปนานจัง ไปดู บนเวทีก็เฮๆ ผลปรากฏ เฮ คนนี้ วุฒิขึ้นไปเต้นกับพี่เป๊กบนเวที จากนั้น พี่เป๊กเขาก็ให้แกรมมี่ติดต่อวุฒิมา ร่วมคอนเสิร์ตเฟิร์สเดท คอนเสิร์ตแรกของพี่เป๊ก เป็นเกสท์”


อดถามแม่ไม่ได้ว่า จากวันที่ฮึดสู้เพื่อลูก พอเห็นวันที่ลูกขึ้นไปยืนบนเวทีกับศิลปินระดับประเทศ รู้สึกยังไงบ้าง? “ก็ปลื้มนะ ภูมิใจในตัวเขา ทุกวันนี้ที่เขาทำได้ก็ด้วยฝีมือเขาล้วนๆ”


นอกจากนี้ยังมีคลิปที่วุฒิโชว์ฝีมือตีกลองประกอบเพลงจนกลายเป็นไวรัลในกระแสโซเชียลอีกหลายคลิป เช่น คลิปวุฒิตีกลองประกอบเพลง “แสงสุดท้าย” ของพี่ตูน บอดี้สแลม ที่มียอดดูหลายล้านวิว และคลิปวุฒิตีกลองประกอบเพลง “กว่าจะรู้สึก” โดยมี “เป้ ไฮร็อก” ศิลปินชื่อดังเจ้าของเพลงนั่งชมอยู่ข้างๆ ด้วยความทึ่งในฝีมือเด็กพิเศษอย่างวุฒิ ซึ่งมียอดชมคลิปหลายล้านวิวเช่นกัน


23 ปีที่พ่อกับแม่ได้ทุ่มเทเพื่อลูก ความสามารถของวุฒิในวันนี้ คงยืนยันได้อย่างดีว่า เด็กพิเศษ เด็กดาวน์ซินโดรม สามารถพัฒนาได้ ทั้งในแง่สติปัญญา การเรียนรู้ การพูด และการเล่นดนตรี จนสามารถทำเป็นอาชีพ และมีรายได้

วันนี้ “วุฒิ” ไม่เพียงเป็นเด็กพิเศษที่มีคุณภาพ สมความตั้งใจของพ่อแม่ แต่วุฒิยังมีจิตสาธารณะ ด้วยการแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งจากการเล่นดนตรีเปิดหมวกไปซื้อสิ่งของจำเป็นและนำไปช่วยเหลือคนที่ลำบากยากไร้ตามที่ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ พร้อมพูดให้เขาเหล่านั้นมีกำลังใจที่จะสู้ชีวิตต่อไป


หากท่านใดต้องการติดต่องานให้น้องวุฒิไปเล่นดนตรี ติดต่อได้ที่เฟซบุ๊ก “Amazing Drum น้องวุฒิตีสุดใจ” หรือโทรไปได้ที่ 089-664- 6624


คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “มือกลองดาวน์ซินโดรม”

https://www.youtube.com/watch?v=4VuFvrJyJ6M&t=1649s


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos


กำลังโหลดความคิดเห็น