กรมการค้าภายใน เข้มงวดการค้าช่วงวันวาเลนไทน์ ป้องปรามไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้บริโภค
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ด้วยใกล้ช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ อธิบดีกรมการค้าภายในได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ตรวจสอบกำกับดูแลผู้ประกอบการจำหน่ายดอกไม้และสินค้าที่ประชาชนนิยมมอบให้กันในช่วงวันวาเลนไทน์ให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าเพื่อให้ผู้บริโภคได้ทราบราคาก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า และเพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสในช่วงวันดังกล่าวจำหน่ายสินค้าที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 บริเวณปากคลองตลาด เขตพระนคร ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายดอกไม้ที่สำคัญ พบว่า ราคาจำหน่ายในปีนี้ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดปริมาณมาก ซึ่งราคาจำหน่ายดอกกุหลาบไทยปีนี้อยู่ที่ ราคาดอกละ 5 - 9 บาท เป็นมัด 50 ดอก ราคามัดละ 350 - 400 บาท หากจัดเป็นช่อราคาช่อละ 400 - 900 บาท ขึ้นอยู่กับ ขนาด พันธุ์ สี และอุปกรณ์ที่ใข้ในการจัดช่อ
ขณะที่ผู้ค้าให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดโดยมีการแสดงราคาจำหน่ายสินค้าชัดเจน เปิดเผย ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบราคาก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า ซึ่งกรมฯได้ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจดำเนินการตรวจสอบกำกับดูแลผู้ค้าตามแหล่งจำหน่ายต่างๆ อีกทั้งได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศดำเนินการตรวจสอบกำกับดูแลผู้ค้าในพื้นที่อย่างใกล้ชิดด้วยแล้ว
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านราคาและปริมาณสินค้าหรือพบเห็นการจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 ซึ่งกรมได้จัดเจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนในทุกวัน หรือร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศหากพบการกระทำความผิดจะส่งเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควรมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ