ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2567 พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “ครูเชาว์” ครูที่หัวใจมีแต่ให้ แม้ยากจน แต่หัวใจยิ่งใหญ่ อุทิศทั้งกำลังกายและเงินเดือนดูแลเด็กยากไร้ใน 9 ชุมชนย่านพระราม 8 ให้มีอาหาร มีการศึกษา และมีอนาคต
“หนูขอบคุณที่ให้ชีวิตหนู ถ้าไม่มีครู หนูคงไม่ได้เรียน ไม่รู้จะไปอยูที่ไหนด้วย”
คำขอบคุณจากใจของอดีตเด็กที่ยากไร้คนหนึ่ง (เนตรลัดดา ไกรเพ็ชร) ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากครูเชาว์ ให้ได้รับการศึกษา จนปัจจุบันใกล้เรียนจบปริญญาตรีแล้ว พร้อมทำงานเป็นครูพี่เลี้ยงอยู่ที่ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนวัดดาวดึงษาราม ย่านพระราม 8
ครูเชาว์ (เชาวลิต สาดสมัย) เป็นครูประจำศูนย์สร้างโอกาสเด็ก พระราม 8 มานานถึง 16 ปีแล้ว ก่อนหน้าจะเลือกเส้นทางครู ครูเชาว์เคยมีชีวิตที่ติดลบ เพราะไม่เพียงเกิดมาท่ามกลางความไม่พร้อมของร่างกาย และพัฒนาการช้า แต่ยังกำพร้าพ่อแม่ ต้องอยู่ในสถานสงเคราะห์ตั้งแต่เกิด แต่ด้วยความมุมานะ ทำให้ครูได้ร่ำเรียนจนจบปริญญา
"เกิดมาก็อยู่ในสถานสงเคราะห์เลย บ้านราชาวดีจะเป็นเด็กพิการทางสมอง ทางร่างกาย ทางสติปัญญา ประมาณ 600-700 คน ต่อมา ผมก็ขอพ่อๆ แม่ๆ เรียน ผมไปเรียนที่ชลประทานสงเคราะห์ พอจบ ป.6 ผมก็ไปเรียนที่โรงเรียนปากเกร็ด จบแล้วไปเรียนที่สุพรรณบุรี เสร็จแล้วมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ต่อเลย"
แม้มีดีกรีปริญญา แต่ครูเชาว์ไม่เคยคิดหางานสบายรายได้ดีหรือมีความมั่นคงให้กับชีวิต แต่อยากทำงานช่วยเหลือคนลำบากยากไร้มากกว่า
"เมื่อก่อน ผมเดินไปโรงเรียน ผมเห็นคนขอทาน เห็นคนที่ยากลำบากกว่าเรา ผมคิดว่าตัวเองลำบากนะ แต่อย่างน้อยผมก็มีข้าว มีบ้าน (บ้านราชาวดี สถานสงเคราะห์) แต่พวกเขาต้องนอนตากแดด ต้องเจอสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี ผมเลยอยากทำงานช่วยเหลือคนที่ลำบาก"
"พอเรียนจบ ผมก็ไปสมัครเป็นครูอาสาที่สำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร พอเขาประกาศว่า ได้ ตอนแรกผมอยู่ที่ทุ่งครุก่อน แต่ด้วยสภาพแวดล้อม ที่นั่นเป็นแฟลตราชการ เขามีอะไรพร้อมอยู่แล้ว ผมเลยบอกว่า ผมขอย้ายศูนย์ ผมอยากลงชุมชน ผมอยากไปช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาสจริงๆ เลยมาอยู่ที่ศูนย์สร้างโอกาสเด็ก พระราม 8"
ปัจจุบัน ครูเชาว์ลงพื้นที่ดูแลชุมชนมากถึง 9 ชุมชนในย่านพระราม 8 ซึ่งครูยอมรับว่า ปัญหาใหญ่ของคนในชุมชนคือ ยากจนและขาดโอกาสทางการศึกษา"ที่จริงศูนย์นี้ (ศูนย์สร้างโอกาสเด็ก พระราม 8) เขาให้ผมมาดูแลเด็กเร่ร่อน แต่ผมขยายโอกาสไปดูเด็กที่ครอบครัวอยู่ในภาวะยากลำบาก ผู้พิการ ผู้สูงอายุ และคนที่ด้อยโอกาสมากขึ้น"
ครูเชาว์ไม่เพียงช่วยเหลือคนเดือดร้อนลำบาก ด้วยการมอบสิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีพ แต่ยังสละเงินเดือนของครูมาช่วยส่งเสียเด็กด้อยโอกาส ให้ได้รับการศึกษา เพื่อมีอนาคตที่ดีอีกด้วย
"(ถาม-มีเคสไหนที่ครูรู้สึกประทับใจหรือสะเทือนใจบ้างไหม?) เด็กอยู่กับตากับยายที่อายุมากแล้ว และมีลูกเป็นผู้พิการ เด็กน้องผู้หญิง เขาอยากเรียน และเด็กไม่มีเสื้อผ้า ไม่มีอะไร เขาเดินเข้ามาขอผมว่า หนูอยากเรียน (ถาม-แล้วครูช่วยเขาอย่างไร?) ช่วยเรื่องทุนการศึกษา เรื่องชุด เรื่องเสื้อผ้า ค่าใช้จ่าย ผมช่วยหมด และตอนนี้เด็กก็เรียนจบแล้ว จบมหาวิทยาลัยราชภัฎ"
นอกจากช่วยเติมฝันและสร้างอนาคตให้เด็กด้อยโอกาส รวมทั้งช่วยต่อลมหายใจให้กับผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้ยากไร้ในชุมชนโดยไม่หวังผลตอบแทนแล้ว "ครูเชาว์" ยังผุดโครงการ "ร้าน 0 บาท" เพื่อสร้างโอกาสให้เด็ก ด้วยการให้เด็กนำขวดพลาสติก ซึ่งไร้ประโยชน์แล้ว แทนที่จะทิ้งเป็นขยะ สามารถนำมาแลกสิ่งของเครื่องใช้หรือของเล่นจากครูได้
"สมมุติเด็กอยากได้ถุงเท้า เก็บขวดมา 30 ใบ บางทีเด็กเก็บไม่ครบหรอก เราก็ให้เขาไป สมมุติ หนูไม่มีลิควิด หนูมีขวด 5 ใบ ผมก็ให้ เด็กบางคนถือขวดใส่ถุงดำมา ครู หนูขอสบู่ ขอแป้ง ผมให้"
ครู...ผู้ยอมสละทุกสิ่ง เพื่อให้เด็กอิ่ม-มีความสุข-มีอนาคต!
ครูเชาว์ไม่เพียงดูแลศูนย์สร้างโอกาสเด็ก พระราม 8 แต่ยังอุทิศแรงกายและปัจจัยช่วยสนับสนุนข้าวสารอาหารแห้งแก่ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนฯ อีกด้วย
ธัญณิชา ตุลธรธาดา หรือ "ครูปัท" หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนวัดดาวดึงษาราม พูดถึงครูเชาว์ว่า"ครูเชาว์ช่วยดูแลเรื่องข้าวสารอาหารแห้ง น้ำปลา น้ำมัน น้ำตาล นม ขนม ครูเชาว์จะหาไว้ให้เด็กๆ ได้กินอิ่ม การกินอิ่มของเด็กๆ ก็จะทำให้เด็กๆ มีสมาธิเพิ่มขึ้น มีสมองมากขึ้น"
"ครูเชาว์เป็นผู้ชายที่มีน้ำใจ เขารักทุกๆ คนที่อยู่รอบข้างเขา เขาช่วยเหลือจนแม้กระทั่งเงินเดือนที่เขาทำมาหากินมาได้ ยอมหมดทุกบาททุกสตางค์เพื่อให้คนอื่นมีความสุข แม้กระทั่งตัวเองจะหิวจะอะไร ก็อดทนเอา ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ เด็กต้องอิ่ม ต้องมีความสุข นั่นแหละคือเขา (ถาม-มีอะไรอยากฝากถึงครูเชาว์ไหม?) อยากให้เขาทานข้าว อยากให้ครูมีสุขภาพที่ดี เพราะถ้าเด็กขาดครูเชาว์ ครูปัทคงไม่สามารถดูแลเด็กได้ดีเท่าครูเชาว์ "
ขณะที่ครูเชาว์ยอมรับว่า การได้ทำงานเพื่อเด็กๆ ในแต่ละวัน ทำให้ครูมีความสุข จนลืมไปเลยว่า วันนี้..ครูกินข้าวหรือยัง!
"(ถาม-แต่ละวันครูเชาว์กินข้าวครบทุกมื้อไหม?) ส่วนมากจะกินน้ำ และลืมข้าวไปเลย (ถาม-ไม่ได้นะครู?) จริงๆ นะ ผมลืมตัวเองไปเลยว่าวันนี้เรากินข้าวหรือยัง ผมทำงานด้วยความสุข มันเติมเต็มให้ผมทุกวัน ...(ถาม-การที่ครูทำทุกวันนี้ เหมือนทำให้คนอื่นมีความสุข แล้วความสุขของครูล่ะ?) นี่ไง รอยยิ้มของเด็ก ผมได้ช่วยเหลือคนที่เขาขาดแคลน สังคมไม่ต้องการเขา แต่ผมมาเติมเต็มให้เขา”
ครูเชาว์ แม้ยากจน..แต่หัวใจยิ่งใหญ่!
ปัจจุบัน ครูเชาว์พักอาศัยอยู่ในห้องเช่าเก่าๆ ในชุมชนพระราม 8 โดยอยู่อย่างสมถะ แทบไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ แต่ครู...ก็อยู่อย่างมีความสุข และสิ่งที่ทำให้ครูมีความสุขมากยิ่งขึ้น คือ การที่เริ่มมีผู้ใจบุญหรือผู้ใหญ่ใจดีเห็นคุณค่าของสิ่งที่ครูทำเพื่อเด็กๆ และคนลำบากในชุมชนมาตลอด 16 ปี
"ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาถึงจุดนี้ ไม่คิดว่าจะมีผู้ใหญ่ใจดีช่วยสนับสนุนทำโน่นทำนี่ให้กับสิ่งที่ผมทำ มาเติมเต็มให้กับเด็ก มาเติมเต็มให้กับสังคมให้มันดีขึ้น (ถาม-ครูคิดว่าจะทำเพื่อเด็กๆ และคนลำบากในชุมชนไปอีกนานแค่ไหน?) จนหมดลมหายใจไปเลย”
หากท่านใดต้องการบริจาคข้าวสารอาหารแห้ง หรือเสื้อผ้ามือสอง แก่เด็กยากไร้ ใน 9 ชุมชนที่ครูเชาว์ดูแลอยู่ บริจาคได้ที่ ศูนย์สร้างโอกาสเด็กพระราม 8 หรือติดต่อครูเชาว์ได้ที่เฟซบุ๊ก “เชาวลิต สาดสมัย” หรือโทรไปได้ที่ 080-075-4417
คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “ครูเชาว์...ครูผู้เสียสละ”
https://www.youtube.com/watch?v=nFTD9YaPHyk
ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )
หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos
