รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “น้องพันช์” เด็กกตัญญู ที่ไม่เพียงอยู่ในวัยเรียน แต่ยังอาสาลุกขึ้นมาทำงานเป็นเสาหลักของครอบครัว หารายได้รักษาแม่ที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งและอีกหลายโรครุมเร้า ทั้งยังมีน้องชายวัย 6 ขวบอีก 1 คนที่ต้องดูแล
“น้องมีความอดทน ขยัน มีความคิดที่จะสู้ เพื่อให้ครอบครัวไปต่อได้...”
“น้องเป็นอภิชาตบุตรจริงๆ ...เขาเป็นคนดูแลแม่ และทำงานเพื่อแม่จริงๆ”
เสียงชื่นชมจากคุณครูหลายท่านที่มีต่อ “น้องพันช์” ด.ญ.ปัญณิชา วรรณพัฒน์ นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนบางกะปิ ที่แม้วันนี้จะอยู่ในวัยแค่ 13 แต่แบกรับภาระเป็นเสาหลักของครอบครัว เพราะแม่ (วนิดา วรรณพัฒน์) ป่วยด้วยโรคมะเร็งที่หลังกล่องเสียงและอีกหลายโรครุมเร้า (ธาลัสซีเมีย, กรดไหลย้อน ฯลฯ) จนไม่สามารถทำงานประจำเพื่อหาเลี้ยงลูกๆ เหมือนแต่ก่อนได้
ผลจากโรคที่รุมเร้า ทำให้แม่น้องพันช์กินข้าวไม่ค่อยได้ เพราะเจ็บแผลเรื้อรังในปากและคอ กินยาเม็ดก็ลำบาก เพราะกลืนไม่ลง เวลากินข้าวหรืออาหาร จะมีปัญหา เพราะอาหารบางส่วนจะออกมาทางจมูก ทำให้แม่ยิ่งเครียดและเป็นปมให้ไม่อยากกินข้าว
“ตอนนี้แม่ก็มีทั้งผมร่วง และกินข้าวไม่ค่อยได้ เวลากินจะออกทางจมูก แม่ก็เลยเหมือนมีปม เพราะเขาอาย เวลาออกไปข้างนอก เขาแทบไม่กินข้าวเลย กินแต่น้ำ (ถาม-แล้วทุกวันนี้แม่กินอะไรได้บ้าง?) แม่จะกินพวกโปรตีน อาหารเสริม และทายาก่อนกินข้าว มันจะออกฤทธิ์ประมาณ 5 นาที เป็นยาชา จะทำให้แม่กินข้าวได้เยอะขึ้น แต่ข้าวก็ยังออกทางจมูกอยู่ดี”
ก่อนที่แม่จะป่วย จนร่างกายซูบผอมแบบนี้ แม่ทุ่มเททำงานเป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัว “แต่ก่อนรูปร่างก็โอเคกว่านี้ และเราต้องใช้รูปร่างหน้าตาในการทำงาน เพราะเป็นเอ็มซีจัดรายการสินค้า แต่พอเราป่วยปุ๊บ คือเราต้องตัดงานส่วนนั้นเลย และส่วนของเซลส์ก็ขับรถไม่ไหว เพราะเป็นเซลส์ที่วิ่งงานต่างจังหวัด เราก็ต้องแพลนชีวิตใหม่หมดเลย”
ไม่ใช่แค่ป่วยจนทำงานอย่างที่เคยไม่ได้ แต่สามีที่เสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว ยังทิ้งหนี้ให้แบกรับโดยไม่คาดคิด!
“หนี้ที่เกิดจากแฟนที่เสียชีวิต เขาเอารถไปชน แล้วมันเป็นซากขับไม่ได้ เราก็ไม่รู้ว่าเขาไม่ได้ต่อ พ.ร.บ. และไม่ได้ส่งค่างวดด้วย เราก็รับผิดชอบตรงนั้นไม่ไหว (ถาม-รถเป็นชื่อใครต้องรับสภาพหนี้?) ชื่อเรา”
ด้วยหลายปัญหาที่ถาโถม ทั้งป่วยทำงานไม่ได้ ขาดรายได้ที่จะดูแลลูกๆ แถมยังมีหนี้ ทำให้แม่น้องพันช์มีโรคเพิ่ม คือ โรคเครียด, แพนิค และซึมเศร้า ซึ่งแม่ยอมรับว่า เคยคิดอยากจบชีวิตลง แต่น้องพันช์ช่วยดึงสติไว้
“เขาพูดพยายามดึงสติเรา แล้วหนูกับน้องล่ะ แล้วถ้าแม่ไม่อยู่อีกคน หนูจะอยู่กับใคร แม่ก็บอกว่า ถ้าแม่ไม่อยู่เป็นภาระ ตากับยายและญาติๆ เขาก็คงจะดูแลหนูดีกว่าแม่ เขาบอก หนูไม่ได้อยากได้อะไร หนูอยากอยู่กับแม่ ลำบากหนูก็ยอม”
เมื่อครอบครัวลำบาก น้องพันช์ตัดสินใจอาสาลุกขึ้นมาขายของ เพื่อมีรายได้รักษาแม่และดูแลน้องชายวัย 6 ขวบ “เขาอาสาเองเลย ตอนแรกแม่ก็ห่วงว่า เขาจะอายไหม เขาจะทำได้ไหม ก็คุยกัน เขาบอกไม่เป็นไรแม่ เราทำงานสุจริต เราขายของ เราไม่ได้ไปลักขโมยเขา หนูไม่อาย”
“ตอนแรกๆ หนูขายน้ำขายของตามโรงเรียน แล้วทีนี้รายได้มันไม่พอ เพราะมันปิดเทอม หนูเลยหาขนมไปเดินขาย (ถาม-ตอนนั้นสถานการณ์ถือว่าวิกฤตไหม?) สุดๆ เลยค่ะ”
หลังครูและผู้บริหารโรงเรียนทราบว่า น้องพันช์และแม่มีความลำบากเรื่องรายได้ จนต้องไปเดินขายของ จึงพยายามช่วยเหลือทุกทาง เช่น อนุญาตให้แม่และน้องพันช์ทำเกี๊ยวเขย่ามาส่งขายให้แม่ค้าในโรงเรียน, งดเก็บค่าบำรุงการศึกษา, ให้น้องพันช์รับประทานอาหารที่โรงอาหารโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังช่วยเป็นสะพานบุญให้ผู้ปกครองและศิษย์เก่าของโรงเรียน รวมทั้งผู้ใจบุญที่ต้องการช่วยเหลือน้องพันช์ จนได้รับทุนสนับสนุนไปจำนวนหนึ่ง
กตัญญูสู้เพื่อแม่ แม้ได้นอนคืนละไม่กี่ ชม.!
ในการทำเกี๊ยวเขย่าไปฝากขายที่โรงเรียนแต่ละวัน แม่และน้องพันช์ต้องเตรียมเครื่องปรุงรสจนดึก พอตีสาม แม่จะลุกขึ้นมาแพ็คเกี๊ยวใส่แก้ว ส่วนน้องพันช์จะลุกมาช่วยแม่ตอนตีสี่ หากวันไหนแม่ไม่ไหวจริงๆ น้องพันช์จะทำคนเดียว ก่อนจะนำของไปส่งที่โรงเรียนในช่วงเช้า
ไม่ใช่แค่นำของไปขายที่โรงเรียน แต่น้องพันช์พยายามเพิ่มช่องทางในการหารายได้ ด้วยการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กขายขนมและเสื้อผ้า (กางเกงช้าง) โดยมีน้องไนซ์คอยช่วยบ้าง หากมีออเดอร์ น้องพันช์จะใช้เวลาหลังเลิกเรียน เพื่อไปส่งสินค้าให้ลูกค้าทางไปรษณีย์
น้องพันช์ไม่เพียงเป็นเด็กเรียนดีและเก่งภาษาอังกฤษ แต่น้องยังฝันอยากมีธุรกิจของตัวเอง อยากมีบ้านให้แม่ และอยากให้แม่หายป่วยไวๆ “ตอนแรกหนูเคยคิดว่า ทำไมต้องทำงาน ไม่ได้เล่นเหมือนเด็กคนอื่น แต่พอย้อนกลับไปดู เมื่อก่อนแม่ทำงานหนักกว่าหนูเป็นสิบเท่าเลย พอแม่ป่วย แม่ก็ยังช่วยทำงานอยู่ ทั้งที่คนป่วย เขานอนอยู่เฉยๆ ก็ได้ แต่แม่ก็ยังช่วยทำงาน หนูเลยคิดว่าถ้าหนูทำงาน แล้วพอช่วยแม่ได้ แม่อาจหายป่วยไวขึ้น และน้องจะได้ไม่ลำบากแม่ด้วย หนูได้ดูแลน้องไปด้วย”
ลูกสู้เพื่อแม่ แม่จะเข้มแข็งเพื่อลูก!
“ถึงเราจะป่วย แต่เรายังหายใจอยู่ ลูกยังสู้เพื่อเราขนาดนี้ แล้วเราจะไม่สู้ได้ยังไง เราต้องกลับมาเป็นแม่ที่แข็งแกร่งให้ลูกเห็นเหมือนแต่ก่อนได้แล้ว ...แม่ก็อยากหายป่วย เพราะถ้าเราหาย เราก็จะกลับไปหาเงินให้ลูกได้เหมือนเดิม ลูกก็จะได้ไม่ต้องเหนื่อย เขาจะได้เรียนได้เต็มที่”
หากท่านใดต้องการอุดหนุนขนมของน้องพันช์ เพื่อให้น้องมีรายได้ไว้รักษาแม่และดูแลน้อง ติดต่อได้ที่เฟซบุ๊ก N Punch Kha หรือหากต้องการช่วยเหลือ โอนไปได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี วนิดา วรรณพัฒน์ เลขที่บัญชี 143-237568-7
คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “พันช์...กตัญญูสู้เพื่อแม่”
https://www.youtube.com/watch?v=kf4gyfi8fEI
ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )
หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos
