“ป้าตาบอด-ลุงขาพิการ” แม้เลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะไม่เป็นภาระของใคร สู้เร่ขายกาแฟเลี้ยงชีพ แม้รายได้น้อย อดบ้างอิ่มบ้าง พร้อมสู้ไปด้วยกัน!

รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปที่ จ.สระบุรี เพื่อรู้จัก “ลุงธรรมและป้ากำไล” ที่แม้พิการทั้งคู่ คนหนึ่งตาบอด คนหนึ่งขาพิการเดินไม่ได้ แต่ไม่คิดงอมืองอเท้า สู้เร่ขายกาแฟและน้ำอัดลม ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง รายได้ไม่พอรายจ่าย พร้อมอดทนสู้



“เดินไม่ได้ก็ถัดเอา สู้เอา สู้ตลอด”

แม้ขาพิการเดินไม่ได้ แต่ไม่ใช่อุปสรรคที่จะทำให้ “ลุงธรรม” (บุญธรรม โลโต) วัย 64 คนนี้ยอมงอมืองอเท้า เพราะเมื่อขาใช้เดินไม่ได้ ลุงจึงใช้มือแทนขาช่วยพาร่างกายให้เคลื่อนไปข้างหน้าแทน แม้จะเป็นเรื่องยากลำบาก แต่ลุงก็ไม่ถอดใจ“เริ่มแรกตอนเกิดปกติดี พอ 8 เดือน เป็นไข้ป่า ฉีดยาถูกเส้น ขาก็ลีบ เลยเป็นแบบนี้มาตลอดเลย”


ขณะที่ “ป้ากำไล” (กำไล โพธิ์เกิด) กับวัย 59 ซึ่งใช้ชีวิตกับลุงธรรมมา 20 ปีแล้ว ก็มีชีวิตที่อาภัพไม่แพ้กัน เพราะป่วยจนสูญเสียการมองเห็นตั้งแต่วัยเด็ก


“อายุ 5 ขวบ เป็นอีสุกอีใสขึ้นตา (ถาม-ตอนนี้การมองเห็นของป้าอยู่ในระดับไหน?) มืดเลย …เคยไปให้หมอเขาฉายแสงดู เขาบอกว่า ประสาทเส้นสายตาขาด รักษาไม่ได้ เพราะตาดำมันฝ่อหมดแล้ว กินเข้าตาดำ มืดสนิทเลย”


แม้ลุงธรรมขาพิการ ขณะที่ป้ากำไลก็ตาบอด แต่ทั้งคู่ก็ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา สู้เติมเต็มชีวิตและเป็นกำลังใจให้กัน“ก็อยู่แบบเป็นเพื่อนกัน พึ่งพาอาศัยกัน เขาเป็นหูเป็นตาให้ป้า ป้าก็เป็นขาให้เขา เขาเดินไม่ได้ ให้ช่วยหยิบโน่นนี่ให้ ก็หยิบให้เขา (ถาม-เวลาทำกับข้าวใครทำ?) ป้าทำ ทำได้ เวลาเดินในบ้าน ชินแล้ว รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน แต่ถ้าไปข้างนอก ก็ไปกับลุงตลอด”


ปัจจุบัน ลุงธรรมและป้ากำไลอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี ทั้งคู่หาเลี้ยงชีพด้วยการเร่ขายกาแฟและน้ำอัดลมด้วยรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง ก่อนหน้าจะมาขายกาแฟ ป้ากำไลเคยขายลอตเตอรี่ ขณะที่ลุงก็ขายน้ำอัดลม แม้รายได้จากการขายลอตเตอรี่จะทำให้ทั้งคู่พออยู่ได้ แต่ในที่สุดก็เกิดวิกฤต จนจำเป็นต้องหยุดขาย


“แต่ก่อนนี้ขายลอตเตอรี่ และขายของเล่นเด็ก และลุงเขาก็ขายน้ำอัดลม (ถาม-แล้วทำไมถึงเลิกขายลอตเตอรี่?) ทุนไม่มี เพราะป้าขายไปก็หมุนไป จ่ายค่าเช่าห้องเดือนละ 2 พัน และซื้อของมาขาย”


ขณะที่ ธีระพล จันทร์เที่ยง เจ้าของห้องเช่า เล่าว่า“ตอนแรกๆ ป้าเขาขายลอตเตอรี่ ก็ดีนะ วันหนึ่งกำไรหักแล้ว 300-400 บาท และลุงก็ขายน้ำ วันหนึ่งสัก 100 เขาก็อยู่ได้ มาพักหลังตั้งแต่มีหวยออนไลน์ ลูกค้าประจำก็หายหมด ทุนหายกำไรหดหมด ไม่มีเงินจะไปต่อยอดซื้อลอตเตอรี่”


เมื่อชีวิตไม่มีทางเลือก ป้ากำไลจึงเลิกขายลอตเตอรี่ และหันมาขายกาแฟแทน ซึ่งแม้ป้าจะตาบอด แต่สามารถชงกาแฟขายได้ ขณะที่ลูกค้าเวลาดูป้าชงกาแฟ อดห่วงไม่ได้กลัวป้าจะถูกน้ำร้อนลวกมือ


นอกจากขายกาแฟ และน้ำชงต่างๆ เช่น โกโก้ โอวัลติน นมเย็น แล้ว บนรถพ่วงข้างของลุงและป้า ยังขายน้ำอัดลม โจ๊กซอง และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่พร้อมชงให้ลูกค้าอีกด้วย โดยจอดรถขายอยู่บริเวณริมสระน้ำพุกร่าง อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึงบ่ายสามโมง แม้จะจอดขายริมถนนริมสระน้ำเป็นเวลาหลายชั่วโมง แต่รายได้กลับไม่แน่นอน และไม่เพียงพอต่อรายจ่าย


“(ถาม-วันหนึ่งขายได้กี่ตังค์?) บางวันก็ขายได้ 3 แก้ว 4 แก้ว บางวันก็ได้แก้วเดียว บางวันก็ไม่ได้เลย...”

ขณะที่ลุงธรรม ยอมรับว่า“รายได้ทุกวันนี้ไม่ค่อยพอรายจ่าย พูดตรงๆ เพราะของที่ขาย ต้องซื้อมาทุกอย่าง ค่ากับข้าวไม่ค่อยมี (ถาม-กับข้าวไม่ต้องซื้อหรือ?) ค่าของก็ยาวแล้ว กินมาม่า (ถาม-กินทุกวันเลยหรือ?) บางทีก็แตงครึ่งโลบ้าง น้ำพริก กินได้แล้ว (ถาม-มีอะไรก็กินอันนั้น?) ครับ”


เมื่อรายได้ไม่เพียงพอ ขณะที่รายจ่ายรออยู่ ทั้งค่าเช่าห้อง ค่าน้ำค่าไฟ และทุนที่ต้องซื้อของมาเติมเพื่อขาย ลุงธรรมและป้ากำไลต้องใช้เบี้ยคนพิการและคนชราที่รวมกันแล้วได้ 2 พันเศษมาจ่าย ส่วนเรื่องกินก็ประหยัดกันสุดตัว โดยกินโจ๊กซองหรือมาม่าเป็นหลัก ข้าวจะกินแค่วันละมื้อ คือมื้อเย็นเท่านั้น


อดถามลุงกับป้าไม่ได้ว่า“(ในวันที่รายได้ก็ไม่ค่อยดี บางครั้งไม่พอใช้จ่าย เคยเหนื่อยเคยท้อบ้างไหม?) ชินแล้ว สมมุติวันนี้ขายได้ 100 ใช้สัก 30-40 พอแล้ว ไว้สักครึ่งก็ยังดี (ถาม-มองไปอนาคตข้างหน้าไม่เห็นอะไรเลย?) ไม่เห็นเลย มันมืดตึ้บ นึกไม่ออกเลย (ถาม-แล้วลุงเอากำลังใจจากไหนมาทำให้เรามีแรงขึ้นมาทำงานทุกวัน?) สู้ ตื่นมาก็สู้ เดินไม่ได้ก็ถัดเอา สู้เอา ก็สู้ตลอด”


ขณะที่ป้ากำไล แม้จะเคยนึกน้อยใจที่โชคชะตาพาให้ตาบอด มองอะไรไม่เห็นเหมือนคนอื่น แต่ก็ให้กำลังใจตัวเองด้วยการคิดว่า“เกิดมาใช้เวรใช้กรรม หมดเวรหมดกรรมเมื่อไหร่ก็จบ คิดอย่างนี้ป้าก็เลยเข้มแข็งขึ้นมา ทำใจได้ และสู้ต่อไป”


ตัวอย่างคนสู้ชีวิตที่ไม่ยอมจำนนต่อความพิการ คนรอบข้างชื่นชม!

ธีระพล จันทร์เที่ยง เจ้าของห้องเช่าที่ป้ากำไลและลุงธรรมเช่าอยู่ ยอมรับว่า ตั้งแต่ได้เจอลุงกับป้า ทำให้ตัวเองซึ่งเคยท้อ กลับลุกขึ้นสู้เช่นกัน


“ตอนแรกผมก็มีการท้อเหมือนกันชีวิต เมื่อครั้งเลิกกับภรรยาแรกๆ นะ ท้อแท้เหมือนกัน ไม่อยากคิดทำอะไร กินเหล้า สูบบุหรี่ นอนไม่ทำอะไรเลย พอเขามาเช่านี่แหละ ผมถึงรู้ข้อคิดว่า โห ขนาดขาพิการ ภรรยาก็ตาบอด ทำให้เรามีความรู้สึก กูต้องสู้อะ สู้เพื่ออนาคตของลูกเราด้วย ของครอบครัวให้มันดีขึ้นไปเรื่อยๆ ...คนที่พิการกว่าเรา สายตาก็ไม่มี ขาก็ไม่ดี เขายังต่อสู้ชีวิต อย่าไปท้อนะ สู้ คนเราต้องสู้”


หากท่านใดต้องการอุดหนุนกาแฟและเครื่องดื่มต่างๆ ของลุงธรรมและป้ากำไล แวะไปได้ที่ริมสระน้ำพุกร่าง อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี หรือหากต้องการช่วยเหลือเพื่อให้ป้ากับลุงมีทุนต่อยอดเลี้ยงชีพ โอนไปได้ที่ ธนาคารออมสิน ชื่อบัญชี นางสาวกำไล โพธิ์เกิด เลขที่บัญชี 020-416-804-209


คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “พิการทั้งคู่...ยังสู้”
https://www.youtube.com/watch?v=679ivgLnj-0&t=18s


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos