ราคาดีเซล ปรับลดเหลือไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร เริ่ม 20 ก.ย. ตามนโยบายลดค่าครองชีพ ด้วยการลดภาษีสรรพสามิตและใช้เงินกองทุนน้ำมัน ควบคุมราคาถึงสิ้นปีนี้
พรุ่งนี้ (20ก.ย. ) ราคาขายปลีกดีเซลในประเทศ จะปรับลดลง 2 บาท จากปัจจุบันไม่เกิน 32 บาทต่อลิตร เหลือไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อ 13 กันยายน ที่ให้ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้ประชาชน โดยใช้กลไกภาษีสรรพสามิตและกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดูแลราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน ถึง 31 ธันวาคม 2566
ปัจจุบัน ภาษีสรรพสามิตดีเซล อยู่ที่ 5.99 บาทต่อลิตร ซึ่ง ครม.ให้ลดจัดเก็บ 2.50 บาท ก็จะเหลือจัดเก็บที่ 3.67 บาทต่อลิตร และอีกส่วน ใช้กองทุนน้ำมัน ซึ่งปัจจุบันกองทุนอุดหนุนราคาดีเซลอยู่ที่ 8.98 บาทต่อลิตร ถือเป็นอัตราการอุดหนุนที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ผลจากราคาดีเซลตลาดโลก ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันล่าสุด ติดลบอยู่ที่ 61,641 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 16,902 ล้านบาท และบัญชีก๊าซแอลพีจี ติดลบ 44,739 ล้านบาท
ด้าน น.ส.รสนา โตสิตระกูล อนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงานและสิ่งแวดล้อม สภาองค์กรของผู้บริโภค โพสต์เฟสบุค ระบุว่า ลดราคาน้ำมันดีเซล ไม่เกิน30บาท/ลิตร แต่นายกรัฐมนตรี ไม่พูดถึงการลดราคาเบนซิน เพราะยังต้องการล้วงกระเป๋าคนใช้เบนซิน มาอุ้มราคาดีเซล ใช่หรือไม่ เปรียบรัฐบาล กำลังเล่นมายากล ล้วงเงินคนใช้เบนซิน ไปชดเชยราคาดีเซลเพิ่มขึ้นอีก และการที่รัฐมนตีพลังงาน ประกาศจะลดราคาเบนซินให้เฉพาะกลุ่มพิเศษที่ต้องใช้เบนซินในการประกอบอาชีพ ถือเป็นคำประกาศที่ไร้ความเป็นธรรม ทำให้คนใช้เบนซินเดือดร้อนจากการเลือกปฏิบัติ ขอให้รัฐบาล ลดผลกำไรส่วนเกินของผู้ประกอบการลงไปด้วย ไม่ใช่ลดราคาโดยล้วงกระเป๋าประชาชนอยู่ฝ่ายเดียว