รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 9 กันยายน 2566 พาคุณผู้ชมไปที่ จ.ราชบุรี เพื่อรู้จัก “โจ้” หนุ่มราชบุรีหัวใจกตัญญู ไม่เพียงลาออกจากงานที่รัก มาสืบทอดกิจการร้านก๋วยเตี๋ยวของพ่อให้คงอยู่หลังพ่อล้มป่วย แต่ยังเป็นพ่อค้าใจบุญ ให้คนท้อง-คนชรา-พิการ-ลำบาก-ยากไร้ ได้ทานฟรีอีกด้วย
"เมื่อปี 55 พ่อล้มที่ร้านก๋วยเตี๋ยว เส้นเลือดแตก ผมเลยต้องลาออกจากการรถไฟ มาทำก๋วยเตี๋ยวแทน เพื่อเราจะได้ดูแลครอบครัวและพี่น้องทีมงานของเรา"
นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ "โจ้" จักรพงศ์ สว่างกุล ตัดสินใจออกจากงานที่เขารักและมีอนาคต เพื่อมาสืบทอดกิจการร้านก๋วยเตี๋ยวปลารถไฟราชบุรีของพ่อให้คงอยู่ ในฐานะที่เป็นลูกคนโตของครอบครัว และเป็นที่พึ่งของทีมงานลูกจ้างอีกหลายชีวิต
"ตำแหน่งการรถไฟก็เสียดายนะ รักการรถไฟมาก ขยับขึ้นไปสอบเป็นนายสถานีได้ด้วย แต่ต้องออกมา เพราะตอนนั้นทั้งครอบครัวทั้งในร้านเกือบ 25 ชีวิต ทุกคนก็หวังผมคนเดียว ...เขารู้ว่า เราชอบช่วยเหลือ เขาเลยมั่นใจว่า พี่โจ้ทำต่อจากพ่อได้แน่"
ร้านก๋วยเตี๋ยวของพ่อโจ้ตั้งอยู่บริเวณสถานีรถไฟราชบุรี เปิดมาตั้งแต่ปี 2528 หลังพ่อล้มป่วย โจ้ได้เข้ามาดูแลแทน 10 กว่าปีแล้ว ก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ถือเป็นเอกลักษณ์ของ จ.ราชบุรี เพราะขายราคาถูกแค่กล่องละ 10 บาท พิเศษ 20 บาท... เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย
ไม่ใช่แค่สืบสานกิจการของพ่อ แต่โจ้ยังมีหัวใจเหมือนพ่อ คือชอบช่วยเหลือคน เขาจึงสานต่ออุดมการณ์ "ผู้ให้" ที่พ่อได้ทำมาตลอด"เราติดป้ายไว้หน้าร้านเลย คนท้อง คนแก่ คนพิการ คนยากไร้ คนลำบาก ทานฟรีได้เลย"
นอกจากแจกฟรีที่หน้าร้านแล้ว โจ้ยังทำก๋วยเตี๋ยวไปมอบให้ผู้ป่วยตามโรงพยาบาล โรงเรียน ผู้สูงอายุ และเด็กยากไร้ตามวัด หรือในพื้นที่ต่างๆ บางครั้งลูกค้าหรือคนรู้จักที่เห็นว่าโจ้ทำจริง แจกจริง มักจะช่วยอุดหนุนก๋วยเตี๋ยวและให้โจ้เป็นสะพานบุญช่วยนำไปแจกให้
"ลูกค้าที่เขารู้จักเราจริง เขาก็จะโทรมา โจ้ พี่ช่วยซื้อ 50 กล่อง 100 กล่อง โจ้ก็แจกต่อให้พี่ทีนะ เพราะเขารู้ผมแจกจริง และแถมน้ำดื่มอีก แถมค่ารถกลับบ้านอีก ถ้าเราดูแล้ว คุยแล้ว เขาลำบากแน่ๆ ...บางครั้งวันสำคัญของประเทศ มีจิตอาสาออกมาทำความสะอาดถนน เราก็ไปแจกเพื่อเป็นกำลังใจให้กัน"
เกือบ 40 ปีที่ร้านก๋วยเตี๋ยวของพ่อโจ้เปิดมา ต้องเผชิญกับวิกฤตหลายครั้ง ช่วงที่พ่อยังไม่ล้มป่วย เคยเกิดวิกฤตถึงขั้นพ่อต้องยอมขายบ้าน เพื่อพยุงกิจการให้อยู่ได้
"ต้องใช้คำว่าคุณพ่อสู้มาก สมัยที่พ่อยังไม่มีโซเชียล และต้องแบกรับภาระที่มีความขาดทุนก็มี ช่วงขายไม่ดีก็มี พ่อต้องขายบ้านย่าที่กรุงเทพฯ 1 หลัง และขายบ้านของพ่อเองที่ราชบุรีอีก 1 หลัง เพื่อมาจุนเจือในช่วงปีที่ 10 ถึงปีที่ 20 ถึงปีที่ 25 ต้องเอาตรงนั้นมาเป็นค่าใช้จ่าย ยอมขายของที่รัก"
เมื่อมาสู่ยุคที่โจ้ดูแลร้านแทนพ่อ ก็เจอกับวิกฤตโควิด ถึงขั้นโจ้ต้องยอมขายของรักเช่นกัน"ตอนโควิดเราถือว่าเป็น 0 เพราะรถไฟหยุดวิ่ง ต้องปิดร้านหลายเดือน และหันมาย่างไก่ ทำกับข้าวขายแทน ...ตอนนั้นต้องดูแลพ่อที่ป่วยด้วย ต้องยอมขายรถยนต์ที่รักไป 1 คัน เพื่อเอาเงินตรงนั้นมาใช้จ่าย"
วิกฤตของโจ้ไม่ใช่แค่ต้องขายของรัก แต่หนักถึงขั้นป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเมื่อไม่กี่ปีก่อน โชคดีที่ได้รับกำลังใจจากคนรอบข้าง ช่วยให้เขาได้รับการฟื้นฟูจนกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
"ช่วงซึมเศร้าเป็นหนักๆ อยู่ 17 วัน ไม่ได้ออกจากบ้านเลย มันไปไหนไม่ถูกเลย ข้าวก็กินไม่ได้ มันช็อตเลย (ถาม-สาเหตุที่ป่วยมาจากอะไร?) ตอนนั้นการขายเงียบลง และโดนโควิดด้วย ต้องขายของที่รัก เพื่อมาจุนเจือครอบครัวด้วย ก็คิดเยอะ พ่อก็ป่วย แม่ก็ป่วย และคิดถึงอนาคตของลูก ของทีมงาน คิดถึงอนาคตของร้านของเรา มันเลยผสมผสานเยอะเกินไป จู่ๆ ตื่นมา ช็อตเลย ขับรถยังไม่ได้เลย (ถาม-แล้วฟื้นฟูหรือกลับมาทำงานเป็นปกติได้ยังไง?) ได้กำลังใจจากทีมงานก๋วยเตี๋ยวรถไฟ กำลังใจจากเพื่อนรัก กำลังใจจากครอบครัว ที่ทุกคนพร้อมใจกันทำทุกอย่างให้ผม กลับมาฟื้นเร็วมาก (ถาม-ตรงนี้เลยเป็นสาเหตุที่อยากจะไปทำบุญกับผู้ป่วยจิตเวชด้วย?) ถูกต้อง มีส่วนด้วย"
แม้ปัจจุบันสถานการณ์โควิดเริ่มซาลง แต่โจ้ยอมรับว่า การค้าขายของทางร้านยังไม่ค่อยกระเตื้องขึ้นเท่าใดนัก แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ทางร้านจะยังคงยืนหยัดให้คนลำบากยากไร้-คนท้อง-คนชรา-คนพิการ ได้ทานก๋วยเตี๋ยวฟรีไปเรื่อยๆ รวมทั้งนำไปมอบให้ผู้ป่วยตาม รพ. ดังที่เคยทำมา
ภาพความมีน้ำใจของโจ้ประจักษ์แก่สายตาของผู้คนละแวกสถานีรถไฟราชบุรีมานาน จนหลายคนอดรู้สึกชื่นชมเขาไม่ได้ "ชัยวัฒน์ สังข์พุก" พนักงานบริการรถไฟ คือหนึ่งในจำนวนนั้น
"พี่โจ้เป็นคนที่ใจดี มีน้ำใจ และชอบช่วยเหลือคนที่ยากไร้ คนที่เดือดร้อน พี่โจ้จะให้ทานก๋วยเตี๋ยวฟรีเลย พี่โจ้แกมีน้ำใจ บริจาคให้เด็กบ้างอะไรบ้าง ...ผมว่า ถ้ามีคนแบบนี้เยอะๆ บ้านเมืองเราก็น่าจะดีกว่านี้"
โจ้เป็นคนที่รักพ่อแม่และครอบครัวมาก แม้พ่อแม่จะแยกทางกันตั้งแต่เขายังเด็ก แต่ด้วยหัวใจที่กตัญญู เมื่อบุพการีทั้งสองล้มป่วยในวัยชรา โจ้จึงตัดสินใจรับแม่มาอยู่กับพ่อ เพื่อที่เขาจะได้ดูแลท่านทั้งสองอย่างเต็มที่
"แม่เป็นคนใต้ แม่ก็ไม่สบายด้วย เลยรับแม่กลับมา เพราะแม่เลิกกับพ่อไปตั้งแต่เราเล็กๆ แต่วันนี้ท่านอายุเยอะแล้ว เราก็รับทั้งคู่กลับมาอยู่ด้วยกัน มาเป็นกำลังใจกัน และเราก็ได้เลี้ยงทั้งพ่อและแม่ ดีใจครับ"
ทุกวัน นอกจากขายก๋วยเตี๋ยว แจกก๋วยเตี๋ยวที่สถานีรถไฟ หรือนำไปแจกนอกสถานที่ ตาม รพ. โจ้จะถ่ายรูป และนำมาให้พ่อกับแม่ดู พร้อมกับนำบุญมาฝากด้วยเสมอ
"วันไหนที่ไปช่วยคน ไปบริจาค หรือทำอาหารไปให้ผู้ป่วย กลับไปก็จะไปบอก โจ้เอาบุญมาฝากนะพ่อนะ เอาบุญมาฝากนะแม่นะ เขาจะยิ้ม มีความสุข ขอให้พ่อแข็งแรงนะ ให้แม่แข็งแรงนะ ให้มีอายุมั่นขวัญยืน อยู่กับลูกไปนานๆ"
หากท่านใดต้องการอุดหนุนก๋วยเตี๋ยวของโจ้ หรือต้องการให้โจ้เป็นสะพานบุญนำไปแจกต่อ สามารถติดต่อได้ที่เฟซบุ๊ก “ก๋วยเตี๋ยวปลารถไฟราชบุรี” หรือโทรไปได้ที่ 081-943-9100
คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “ก๋วยเตี๋ยวรถไฟใจบุญ”
https://www.youtube.com/watch?v=TPRcCoB_ObI&t=20s
ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )
หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos