ภาครัฐ เอกชน ทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้ว มูลค่าความเสียหายกว่า 600 ล้านบาท ไม่ให้กลับสู่ท้องตลาด ปกป้องผู้บริโภคจากการใช้สินค้าไม่ได้มาตรฐาน
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เป็นประธานพิธีทำลายของกลาง คดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้ว ประจำปี 2566 รวม 1,253,529 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายมากกว่า 600 ล้านบาท โดยมีผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ ผู้แทนประเทศคู่ค้า ร่วมเป็นสักขีพยาน
นายวุฒิไกร กล่าวว่า การทําลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้ว ถือเป็นขั้นตอนสุดท้าย ของการแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ที่ต้องดําเนินการอย่างโปร่งใส สอดคล้องกับพันธกรณีภายใต้กรอบองค์การการค้าโลก (WTO) และมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศคู่ค้า นักลงทุน และเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ว่า สินค้าละเมิดฯ จะไม่กลับเข้าสู่ท้องตลาดอีกต่อไป รวมทั้งเป็นการปกป้องผู้บริโภค จากอันตรายที่อาจเกิดจากการใช้สินค้าปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน
ปีนี้ ของกลางที่นํามาทําลาย มีหลายประเภท ทั้ง เสื้อผ้า นาฬิกา รองเท้า กระเป๋า เครื่องสําอาง โทรศัพท์มือถือ อะไหล่รถยนต์ สินค้าอาหาร เป็นของกลางจากการจับกุม และตรวจยึดของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ กรมศุลกากร และกรมสอบสวนคดีพิเศษ
อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวด้วยว่า ผลการจัดสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ ประจําปี 2566 ชื่นชมพัฒนาการด้านนโยบายและการปราบปรามที่เป็นรูปธรรมของไทย แต่การที่ไทย ยังถูกคงสถานะอยู่ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (Watch List: WL) รัฐบาลจึงต้องปราบปรามสินค้าละเมิด อย่างเข้มข้นต่อไป เพื่อให้ประเทศไทย หลุดพ้นจากบัญชี Watch List ซึ่งผู้บริโภค ถือเป็นแนวร่วมสำคัญ หากพบเห็นการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา แจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน 1368