xs
xsm
sm
md
lg

KCGระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมอาหาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



KCG เดินหน้าขยายการลงทุนหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โชว์ฟอร์มเป็นหุ้นที่มีแผนลงทุนขยายกำลังการผลิตที่ชัดเจน เพื่อยกระดับการผลิตและระบบศูนย์กระจายสินค้า คลังสินค้าที่ทันสมัย มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อสร้างความรื่นรมย์ให้กับรสชาติอาหารที่มีคุณภาพในทุกช่วงมื้ออาหาร สอดรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

ดร.วาทิต ตมะวิโมกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจผลิต จัดจำหน่าย และนำเข้าเนย ชีส และผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภคชั้นนำจากทั่วโลก เปิดเผยว่า บริษัทฯ นำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรก 3 สิงหาคม 2566 ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในหมวดอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร / อาหารและเครื่องดื่ม ใช้ชื่อย่อ‘KCG’ ในการซื้อขายหลักทรัพย์ ราคาเปิดที่ 8.55 บาท ปิดตลาดที่ 8.30 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือลง 2.35% จากราคาIPOที่ 8.50 บาท โดยระหว่างวันราคาขึ้นไปสูงสุดที่ 8.90 บาท ,ต่ำสุดที่ 7.90 บาท

ขณะที่ภาพรวมตลาดวันนี้  ก็ปรับลดลง จากปัจจัยกดดันทั้งต่างประเทศ และในประเท

ดร.วาทิต กล่าวว่า บริษัทฯ วางแผนขยายการลงทุนในปี 2566-2567 เพื่อขยายกำลังการผลิตชีส (Individually Wrapped Processed Cheese Slices) จากเดิม 2,106 ตันต่อปี ให้เพิ่มเป็น 4,212 ตันต่อปี ภายในปีนี้ และจะขยายกำลังการผลิตเนยที่โรงงานเทพารักษ์ จากในปัจจุบัน 18,596 ตันต่อปี ให้เพิ่มเป็น 23,261 ตันต่อปี ภายในปี 2567 รวมถึงลงทุนเครื่องจักรใหม่และปรับพื้นที่สร้างห้องปลอดเชื้อที่โรงงานบางพลี 


นอกจากนี้ บริษัทฯจะลงทุนก่อสร้างและพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า (KCG Logistics Park) โดยเป็นศูนย์กระจายสินค้าแบบแช่แข็ง (Frozen) และแบบอุณหภูมิห้อง (Ambient) ซึ่งเป็นคลังสินค้าที่ทันสมัยและครบวงจร อีกทั้งยังเพิ่มพื้นที่จัดเก็บและบริหารจัดการสินค้าได้อย่างทันสมัยและมีประสิทธิภาพ โดยแบ่งตามชนิดผลิตภัณฑ์ (Product Layout) เทียบเท่ามาตรฐาน GMP C และ GMP D ซึ่งเป็นมาตรฐานยุโรป รวมทั้งวางแผนนำเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ (Automation) มาพัฒนาโรงงานสู่การผลิตระบบอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2567


นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า KCG เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจผลิต จัดจำหน่าย และนำเข้าเนย ชีส และผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภคชั้นนำจากทั่วโลก เป็นผู้นำการสร้างสรรค์สินค้าสู่ตลาด (Trend Setter)

KCG ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ทั้งในกลุ่มเนยและชีส ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ อีกทั้งยังเป็นอาหารทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ สอดคล้องกับเทรนด์ของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ใส่ใจสุขภาพและสอดรับการขยายตัวของร้านอาหารตะวันตก โดยเฉพาะร้านเบเกอรี่และคาเฟ่ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงบริษัทฯ ยังมีฐานการผลิตอันแข็งแกร่ง และแผนการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิต และนำเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ (Automation) มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้ดียิ่งขึ้น จึงเชื่อว่าด้วยการวางกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง จะช่วยผลักดันให้ KCG สร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต


กำลังโหลดความคิดเห็น