xs
xsm
sm
md
lg

ลึกทันใจ : ก้าวไกลหักเพื่อไทย ไม่ยกมือให้เศรษฐาขอแลกร่วมรัฐบาลรอบหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายงานพิเศษ "ลึกทันใจ" เผยแพร่ทางแฟนเพจ NEWS1 และ Tiktok newsonetiktok วันที่ 3 สิงหาคม 2566 ตอน ก้าวไกลหักเพื่อไทย ไม่ยกมือให้เศรษฐาขอแลกร่วมรัฐบาลรอบหน้า



เหตุผลหลักที่ทำให้เพื่อไทยกับก้าวไกล สองพรรคการเมืองใหญ่ที่มีเสียงมากที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร ไม่อาจจับมือไปด้วยกัน จัดตั้งรัฐบาลขั้วประชาธิปไตยด้วยกันได้ เพราะหาข้อยุติร่วมกันไม่ได้ ที่นอกจากก้าวไกลไม่ยอมถอยเรื่องแก้ไขมาตรา112 แล้ว ยังมีกรณีของการวางเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคก้าวไกล ที่บีบเพื่อไทยทำให้ในอนาคตด้วย

แม้กระแสจาก ส.ว.จะต่อต้านกับการมีพรรคก้าวไกลเข้ามาเป็นหนึ่งในสมการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งในความเคลื่อนไหวเลือกนายกรัฐมนตรีที่จะประชุมรัฐสภาในวันที่ 4 สิงหาคม หลังฉีกเอ็มโอยู 8 พรรคแล้ว แกนนำพรรคเพื่อไทยก็แจ้งไปยังแกนนำพรรคก้าวไกลว่ายังคงอยากให้ ส.ส.ของพรรคก้าวไกลโหวตสนับสนุนนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เพื่อให้พรรคเพื่อไทยลดการพึ่งพาเสียงจาก ส.ว.น้อยลง

ทางพรรคก้าวไกลก็แสดงท่าทีไม่ตอบรับหรือปฏิเสธไมตรีจากพรรคเพื่อไทย เพียงแต่มีการสื่อสารกลับไปยังพรรคเพื่อไทยในทำนองว่า พรรคก้าวไกลไม่ขัดข้องหากต้องยกมือสนับสนุนให้นายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี

แต่ต้องมี “สัญญาใจ” กันว่าภายหลังจัดตั้งรัฐบาลเศรษฐา 1 ได้สำเร็จและบริหารงานไปได้สักระยะ พรรคเพื่อไทยจะต้องปรับคณะรัฐมนตรี เพื่อเอาพรรคก้าวไกลเข้าไปร่วมรัฐบาลเศรษฐา 2 ด้วย

พรรคเพื่อไทยเมื่อได้รับฟังข้อเสนอนี้ก็สะอีก ในที่สุดก็ได้ปฏิเสธไป เพราเป็นข้อเสนอที่หากเพื่อไทยทำให้ก็จะเป็นการหลอกลวงประชาชน และทรยศต่อแผ่นดิน จึงรับขอเสนอจากเด็กอุบาทว์ไม่ได้ จนนำมาสู่การเลิกคบกันไป

สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ต่อให้พรรคเพื่อไทยสะบัดมือจากพรรคก้าวไกลได้สำเร็จแล้ว แต่การตั้งรัฐบาลยังไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะเชื่อว่าพรรคก้าวไกลแม้ยังสงวนท่าทีว่าจะยกมือให้กับนายเศรษฐาหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าก้าวไกลคงไม่ยกมือให้เศรษฐาแน่ แกนนำพรรคเพื่อไทยเลยเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องไปหาเสียงสนับสนุนจากวุฒิสภา อีกรอบ

การเดินเข้าไปหาเสียงจาก ส.ว.รอบนี้ไม่ต่างอะไรกับการเขี่ยลูกเข้าเท้าของ ส.ว. เพราะบรรดา ส.ว.ที่มาจากการคัดเลือกของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่างพยายามสร้างเงื่อนไขว่า

หากจะให้ ส.ว.ยกมือสนับสนุนให้ถึง 375 เสียง พรรคเพื่อไทยจะต้องดึงพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติเข้ามาร่วมรัฐบาลด้วย

พรรคเพื่อไทยจึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอีกรอบ ครั้นจะดึงพรรคสองลุงเข้าทำเนียบรัฐบาลด้วยกัน พรรคเพื่อไทยจะเหลือความสง่างามในทางการเมืองอีกเท่าไหร่ และความชอบธรรมยังจะมีมากพอสำหรับการบริหารประเทศให้ผ่านไปตลอดรอดฝ้่งทั้ง 4 ปีหรือไม่ ซึ่งพรรคเพื่อไทยเองก็ยังคิดไม่ตก

ก่อนจะถึงวันที่ 4 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันเลือกนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ถ้าครั้งนี้ยังเลือกนายกรัฐมนตรีกันอีกไม่ได้ ประเทศไทยก็จะติดหล่ม เพราะไม่ได้ตัวนายกรัฐมนตรี ก็จะตั้งรัฐบาลไม่ได้

จึงอาจเป็นความจำเป็นที่เพื่อไทย จะเปลี่ยนจุดยืน มีเราไม่มีลุง ที่ประกาศไม่เอาพรรคสองลุงในตอนแรก กลับเข้ามาในสมการตั้งรัฐบาลอีกครั้ง

เพราะสถานการณ์ทางการเมืองถูกก้าวไกล เด็กอุบาทว์บีบจนหาทางออกไม่ได้ พรรคลุงเลยกลับมาเป็นคำตอบสุดท้าย!



กำลังโหลดความคิดเห็น