รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปที่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อทำความรู้จักพระครูไพบูลปัญญารักษ์ เจ้าอาวาสวัดทางกลาง พระที่ไม่เพียงเป็นพระนักคิด-นักปฏิบัติ-นักพัฒนา แต่ยังเป็นพระผู้เปี่ยมด้วยเมตตา และทำทุกอย่างที่พระสามารถช่วยชาวบ้านและชุมชนได้มาหลายปีแล้ว
"อาตมามองว่า วัดเราไม่ต้องทำอะไรที่มันใหญ่โตมาก เราอยู่แบบพอเพียงพอแล้ว นำปัจจัยที่ได้รับจากญาติโยมไปช่วยสังคม ไปสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนน่าจะดีกว่า"
ก่อนหน้าจะตัดสินใจเข้าสู่เพศบรรพชิต พระครูไพบูลปัญญารักษ์ ซึ่งบ้านเกิดอยู่ อ.หาดใหญ่ แต่พักอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ไม่เคยคิดว่า การบวชตามพี่ชายในวันนั้น จะทำให้ครองตนอยู่ในสมณเพศมานานถึงวันนี้
"ตอนแรกพี่ชายอาตมาบวชเป็นพระอยู่ก่อน แล้วช่วงนั้นอาตมาก็ทำงานเป็นเซลส์แมน เราก็รู้สึกว่าเบื่อๆ เห็นพี่ชายบวช เลยอยากจะบวชบ้าง ก็ตั้งใจว่าบวชสักเดือนหนึ่ง พอไปๆ มาๆ นี่ปัจจุบันก็ 30 พรรษาแล้ว ตอนนั้นบวชที่วัดถ้ำผาจม (จ.เชียงราย) เป็นวัดปฏิบัติ ก็ได้มีโอกาสเข้ากรรมฐาน พอเข้ากรรมฐาน พอมันได้สภาวะปุ๊บ เราเลยรู้สึกว่า มันอยู่ได้ เลยบวชมาเรื่อยๆ"
ก่อนจะมาเป็นเจ้าอาวาสวัดทางกลาง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา พระครูไพบูลปัญญารักษ์ เคยอยู่ช่วยงานที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวัน จ.ขอนแก่น สมัยที่พระครูภาวนาวิสุทธิ์ (ธีรวัฒน์ ฐานุตตโร) เป็นผู้อำนวยการศูนย์ ซึ่งเป็นสาขาของหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี และได้มาอยู่ช่วยงานที่วัดตาลเอน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ใกล้ๆ วัดทางกลาง และต่อมา เจ้าอาวาสวัดทางกลางลาสิกขาไป ชาวบ้านจึงนิมนต์ให้พระครูไพบูลปัญญารักษ์มาเป็นเจ้าอาวาสที่นี่ ซึ่งจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 11 ปีแล้ว
ช่วง 4-5 ปีแรก พระครูฯ เน้นพัฒนาวัดทางกลางให้ดีขึ้น หลังจากนั้นจึงเริ่มคิดต่อ ว่าจะทำประโยชน์อะไรให้กับชุมชนที่นี่ได้บ้าง ซึ่งในบริเวณวัด มีทั้งโรงเรียนวัดทางกลาง และสถานีอนามัยหรือโรงพยาบาลประจำตำบล (รพ.สต.) ทางกลาง ตั้งอยู่
"อาตมาก็มามองที่อนามัย หรือ รพ.สต. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ทำไมเราถึงมามองตรงนี้ เพราะอนามัยเป็นจุดศูนย์กลาง คนในหมู่บ้านในชุมชนต้องเข้ามาดูแลสุขภาพตัวเอง ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องของส่วนรวม อาตมาตั้งใจอยากจะทำอะไรที่ส่วนรวมได้ประโยชน์ เลยเข้าไปที่ รพ.สต.ไปดูว่า เขาขาดเหลืออะไรบ้าง เราได้เข้าไปสนับสนุน"
ขณะที่ "สันติ เทียนสิงห์" ผู้อำนวยการ รพ.สต.ทางกลาง เล่าว่า"พระอาจารย์เดินเข้ามา เรานั่งทำงานกันอยู่ ท่านถามว่า โยมให้อาตมาช่วยอะไรไหม เราก็รู้สึกว่า ดีเลยสิครับ ตอนนั้นเรากำลังจะปรับปรุงทำห้องรักษาพยาบาลอยู่ คิดว่าจะเป็นห้องเล็กๆ ตามงบที่เรามี ท่านมาออกแบบให้เรามีห้องรักษาพยาบาลที่ใหญ่ขึ้น นอกจากสถานที่แล้ว ยังมีวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สนับสนุนให้เรามาใช้กับชุมชน"
นอกจากช่วยสนับสนุนปัจจัยในการขยายห้องรักษาพยาบาล ห้องฉุกเฉิน และอุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ ให้ รพ.สต.ทางกลางแล้ว พระครูไพบูลปัญญารักษ์ยังช่วยให้มีห้องทำฟันอีกด้วย
"ปกติ รพ.สต.ขนาดเล็กจะไม่มีห้องทันตกรรม ในเดือนหนึ่ง จะมีหน่วยเคลื่อนที่ทางทันตกรรม ซึ่งเป็นแบบเก้าอี้พับเคลื่อนที่ มาเดือนละครั้ง ทีนี้อาตมาอยากทำตรงนี้ให้ชาวบ้านมาใช้อุปกรณ์ที่เหมือนกับที่เขาไปร้านทำฟัน พูดง่ายๆ ว่า เราอยากจะอำนวยความสะดวกให้ชาวบ้าน"
ไม่ใช่แค่ รพ.ระดับตำบล ที่พระครูฯ ช่วยพัฒนาสถานที่ และสนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์ แต่ รพ. ระดับอำเภอ เช่น รพ.บางปะหัน รพ.ผักไห่ ฯลฯ ก็ได้รับความเมตตาจากพระครูฯ เช่นกัน
นพ.พงศกร อมรชัยชาญ ผู้อำนวยการ รพ.บางปะหัน เล่าว่า"รพ.ตั้งอยู่ติดทางหลวง อุบัติเหตุจราจรค่อนข้างเยอะ บางครั้งมีผู้ป่วยหนักหลายคน อาคารเรา 30 กว่าปีแล้ว ห้องค่อนข้างเล็กแคบ รับผู้ป่วยหนักได้แค่ 2 คน ก็จะเต็มแล้ว การดูแลผู้ป่วย ถ้าถามว่า บุคลากรทางการแพทย์มีความเครียดไหม มีค่อนข้างมาก จริงๆ รพ. มีแผนจะขยายพื้นที่มาหลายปีแล้ว แต่เนื่องจากเราขาดปัจจัยที่จะขยาย เราก็ได้ไปเรียนปรึกษาพระอาจารย์ว่า ผมมีปัญหาด้านนี้ พระอาจารย์ท่านได้เมตตาและกรุณาช่วย"
ปัจจุบัน รพ.บางปะหัน มีศักยภาพในการรักษาผู้ป่วยหนักได้ครั้งละนับสิบคน จากเดิมที่รับได้เพียง 2 คนก็เต็มแล้ว ทำให้ รพ.สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้มากขึ้น ชาวบ้านที่มาใช้บริการ ต่างชื่นชมว่า ห้องรักษาพยาบาลสวยเหมือน รพ.เอกชน ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ก็รู้สึกภูมิใจที่ รพ.มีพื้นที่รองรับผู้ป่วยมากขึ้น
พระครูไพบูลปัญญารักษ์ให้ความสำคัญกับปัญหาสุขภาพอนามัยของชาวบ้านในชุมชน และห่วงใยความลำบากของผู้ป่วยติดเตียงตามบ้าน ยามใดที่คุณหมอและพยาบาลลงพื้นที่เยี่ยมเยียนผู้ป่วย พระครูฯ จะเดินทางไปด้วยเสมอ พร้อมกับนำของยังชีพไปมอบให้ ช่วยให้ผู้ป่วยและญาติมีกำลังใจที่จะสู้ชีวิตต่อไป
ไม่ใช่แค่ยามปกติที่พระครูฯ ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลชาวบ้าน แต่ในยามคับขันที่โควิด-19 ระบาด มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก พระครูฯ ก็มีบทบาทอย่างสำคัญในการช่วยให้ชุมชนผ่านพ้นวิกฤตเช่นกัน โดยมีการตั้งศูนย์พักคอยที่วัด เพื่อแยกผู้ป่วยโควิดออกจากบ้านมาอยู่ศูนย์พักคอย ช่วยให้คนในบ้านไม่ติดโควิด และเมื่อผู้ป่วยหายป่วยออกจากศูนย์พักคอยเพื่อกลับบ้าน พระครูฯ ยังมอบข้าวสารอาหารแห้งให้ด้วย
นอกจากทำศูนย์พักคอยแล้ว ยามมีศพผู้เสียชีวิตจากโควิดส่งมาที่วัด พระครูไพบูลปัญญารักษ์และพระลูกวัดของวัดทางกลาง ก็พร้อมทำทุกอย่างที่พระสามารถช่วยได้ ทั้งแบกศพขึ้นเมรุ สวดศพ รวมทั้งเป็นสัปเหร่อเผาศพเอง เพื่อไม่ให้สัปเหร่อตัวจริงของวัดต้องเสี่ยงกับโควิด
เมื่อสังเกตสิ่งปลูกสร้างหรือถาวรวัตถุในวัดทางกลางแล้ว จะเห็นว่า ค่อนข้างเรียบง่าย และกลมกลืนกับธรรมชาติ ไม่ได้ใหญ่โตอลังการเหมือนบางวัด ซึ่งพระครูไพบูลปัญญารักษ์ เผยถึงหลักคิดของท่านว่า"อาตมามองว่า วัดเราไม่ต้องทำอะไรที่มันใหญ่โตมาก... เราอยู่แบบพอเพียงพอแล้ว เราเอาปัจจัยที่ได้รับจากญาติโยมมาสร้างประโยชน์ให้กับสังคมให้กับชุมชนน่าจะดีกว่า"
นอกจากสร้างประโยชน์ให้ชุมชนด้วยการพัฒนาสถานีอนามัยและ รพ. ช่วยให้คุณหมอและพยาบาลทำงานอย่างมีความสุขและชาวบ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแล้ว ล่าสุด พระครูไพบูลปัญญารักษ์ ยังมีโครงการร่วมกับทาง รพ.บางปะหัน ในการใช้วัดทางกลางเป็นสถานที่เก็บเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นหรับผู้ป่วยติดเตียง, ผู้ป่วยมะเร็ง, ผู้ป่วยระยะสุดท้าย สามารถหยิบยืมไปใช้ที่บ้านได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ
หากท่านใดต้องการติดต่อวัดทางกลาง ติดต่อได้ที่ เฟซบุ๊ก : วัดทางกลาง รักษาศีลวันละนิดจิตแจ่มใส
คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “พ่อพระ...ของชุมชน”
https://www.youtube.com/watch?v=PfY7drbaWdU
ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )
หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos